บริษัทไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TNCC ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 612,451,687 หุ้น เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET)
“อาเจไทย” ปักธงรบ ส่ง “บิ๊กโคล่า” เดินหน้าทวงส่วนแบ่งตลาดน้ำอัดลม 62,000 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ “สปอนเซอร์ชิป มาร์เก็ตติ้ง” ลงนามในสัญญา Official Regional Partner “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” แชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย พร้อมต่อยอดการตลาดครบวงจร หวังขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ มั่นใจ 3 ปีกวาดแชร์เพิ่มเป็น 10% รั้งอันดับ Top 3 ตลาดน้ำดำไทย
ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมกลับมาโตสูงสุดในรอบหลายปี โดยในปี 2566 มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 62,000 ล้านบาท เติบโต 16% จากปี 2565 ที่เติบโตเพียง 1.8%
มีการคาดการณ์ว่าความท้าทายด้านปัญหาซัพพลายเชน และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเริ่มส่งผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นในปีหน้าแล้ว โดยหนึ่งในแบรนด์ที่เตรียมขึ้นราคาสินค้าด้วยก็คือ PepsiCo นั่นเอง
ที่ผ่านมาในวงการเบียร์ และกาแฟ มีการนำ “ก๊าซไนโตรเจน” (Nitrogen) มาใช้ในกระบวนการผลิต ได้ออกมาเป็น “เบียร์ไนโตร” (Nitro Beer) และ “กาแฟไนโตร” (Nitro Coffee) เช่น เมนู Nitro Cold Brew Coffee ที่ให้ทั้งความสด และรสสัมผัสฟองครีมที่นุ่มละมุน ขณะที่ล่าสุดมีการนำ “ไนโตรเจน” มาใช้กับน้ำอัดลมแล้ว!
ราคาข้าวของแพงขึ้น นับว่าเป็นปัญหาที่ผู้บริโภคกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ หลังจากเนื้อสัตว์ – ไข่ไก่ขยับราคาไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด หนึ่งในทีมงาน BrandBuffet พบว่า “น้ำอัดลม” แบรนด์ แฟนต้า(Fanta) ขวดแก้ว ได้ปรับลดปริมาณลงจาก 422 มิลลิลิตร เหลือ 375 มิลลิลิตร โดยจำหน่ายในราคาที่หน้าร้านโชว์ห่วยขายให้กับลูกค้าในราคา 9 บาทเท่าเดิม
“น้ำอัดลม” ไม่ว่าจะเป็นโคล่า หรือน้ำสีรสพื้นฐานกลายเป็น Mainstream Product ไปแล้ว ในขณะที่ทุกวันไลฟ์สไตล์ รสนิยม หรือความชอบของผู้บริโภคซับซ้อนขึ้น เปลี่ยนแปลงเร็ว และเป็นยุคที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น เพราะฉะนั้นทำอย่างไรที่ “น้ำอัดลม” แม้จะเป็น Soft Drink ที่ทุกคนทั่วโลกคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และหาซื้อง่าย มีทุกหนแห่ง ยังคงเป็นเครื่องดื่มแรกๆ ที่เวลาอยากดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น ผู้บริโภคจะเลือกซื้อ นี่จึงเป็น “โจทย์ใหญ่” ของตลาดน้ำอัดลม ซึ่งมี 2 แบรนด์หลักที่ Dominate ตลาดทั่วโลก …
ตลาดน้ำอัดลมมีมูลค่ากว่า 56,000 ล้านบาทในปี 2562 โดยมีสัดส่วนแบ่งเป็น โคล่า 71% น้ำสี 23% และน้ำใสเพียงแค่ 6% แต่ยิ่งมีส่วนแบ่งอยู่น้อย ในแคทริกอรี่ที่มีส่วนแบ่งอยู่น้อยนั่นแปลว่ายิ่งมีโอกาสเติบโตสูง จนเป็นที่มาของการที่ “เครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งค์สีใส” อย่าง เซเว่น อัพ(7Up) ระเบิดศึก เปิดตัวสินค้าใหม่ 7Up free ตามเทรนด์สุขภาพด้วยสูตร “ปราศจากน้ำตาล” ตามเจ้าตลาดอย่าง สไปร์ท(Sprite) ที่เปิดตัวเครื่องดื่มในแคทริกอรี่นี้ในเมืองไทยตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2562 ในชื่อ สไปร์ท …
“ไทยน้ำทิพย์” จัดงานฉลอง 60 ปี เมื่อไม่นานมานี้ บนเส้นทางแห่งความสดชื่น พาย้อนอดีตสุดคลาสสิค กับนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวจุดกำเนิดของ “โค้ก” เครื่องดื่มยอดนิยมที่อยู่ในใจของคนไทยมาอย่างยาวนาน พร้อมด้วยกิจกรรมเอาใจ แฟนพันธุ์แท้โคคา-โคลา และเครื่องดื่มสุดครีเอทอีกหลายเมนู
กลายเป็นกระแสฮือฮาเมื่อน้ำอัดลมในตำนานอย่าง “ซาสี่” (Sarsi) กลับมาวางตลาดในประเทศ ผ่านคอนวีเนี่ยนสตโตร์เบอร์หนึ่งของประเทศ เซเว่น-อีเลพเว่น ทุกสาขา ด้วยสนนราคา 12 บาท กับขวดไซส์ 250 มิลลิลิตร โลโก้เดิมแต่ตัวแพ็กเก็จจิ้งไฉไล ขวดแก้ว ฝาเกลียวเปิดง่าย
ตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 50,000 ล้านบาท ในปีนี้ร้อนระอุ เมื่อ เทสโก้ โลตัส เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ต้อนรับฤดูร้อน น้ำอัดลมแบรนด์เทสโก้ 4 รสชาติ ซึ่งชูจุดเด่นลดปริมาณน้ำตาลลงและได้รับตราสัญลักษณ์ “ทางเลือกสุขภาพ” จากมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการดื่มน้ำอัดลมที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยลงโดยอาศัยกลยุทธ์ชงชิม ด้วยการเตรียมแจก 140,000 ขวดในวันที่ 13 เมษายนนี้ ที่เทสโก้ โลตัส สาขาใหญ่ 199 แห่งทั่วประเทศ
นับว่าเป็นเซอร์ไพร์สใหญ่ที่โค้ก เปิดตัว “Diet coke” ซีรี่ส์ใหม่ที่นับจากนี้จะไม่ได้มีแค่รสชาติน้ำโคล่า ที่เราคุ้นเคยกันอย่างเดียวแล้ว แต่จะมีรสชาติและสีสันให้เลือก ถึง 5 รสชาติ ประกอบด้วย Diet Coke Ginger Lime, Diet Coke Feisty Cherry, Diet Coke Zesty Blood Orange, Diet Coke Twisted Mango และรสดั้งเดิม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ …
หลังจากที่มีข่าวเครือไทยเบฟฯ การเข้าซื้อกิจการสาขาของ KFC ในประเทศไทย ที่เดิมอยู่ภายใต้การบริหารของ “บริษัท ยัม เรสเตอรองท์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)” จำนวนประมาณ 240 สาขา โดยทาง ยัม เรสเตอรองท์ จะทำหน้าที่ดูแลเฟรนไชส์เท่านั้น จนเกิดการตั้งคำถามขึ้นมาว่า ไทยเบฟฯ ซึ่งมีธุรกิจเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบรนด์ Est อยู่แล้ว จะผลักดันเครื่องดื่มของตัวเองเข้ามาขายในร้านสาขาดังกล่าวหรือไม่ หรือจะต้องเป็นดีลที่ตกลงกันในระดับ Global ซึ่งเดิมทาง KFC จำหน่ายเครื่องดื่ม Pepsi …
ในบรรดา Soft Drinks ที่มีมากมายหลายประเภท หนึ่งในเครื่องดื่มที่คนบริโภคเป็นอันดับต้นๆ คือ “น้ำอัดลม” (Carbonated Drinks) และในกลุ่มน้ำอัดลม “โคล่า” หรือน้ำดำได้รับความนิยมมากที่สุด แต่เมื่อเอ่ยถึงเครื่องดื่ม “โคล่า” ไม่ว่าจะไปประเทศไหน ภูมิภาคใดของโลก มีสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่ครองตลาดมาเป็นเวลายาวนาน คือ “โค้ก” และ “เป๊ปซี่” จนทำให้ผู้บริโภคคุ้นชินกับรสชาติของสองแบรนด์ ประกอบกับการมีเครือข่ายจัดจำหน่ายที่ทรงพลัง จึงสามารถเข้าถึงทุกช่องทางการขาย ทำให้แบรนด์ท้องถิ่นที่เข้ามาท้าชนโดยตรงกับสองยักษ์ใหญ่ ต้องใช้สรรพกำลังมหาศาล เพื่อที่จะแข่งขันในตลาดได้ ทว่า การเข้าสู่ตลาดน้ำดำของ “MUJI” ซึ่งขณะนี้มีจำหน่ายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น …
เครื่องดื่ม “เป๊ปซี่” โดย บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เขย่าตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 50,000 ล้านบาทอีกครั้ง ด้วยการส่งแคมเปญรหัสใต้ฝาสุดยิ่งใหญ่ “เป๊ปซี่ชวนซ่า ล่ารถในฝัน” ขนความซ่าแจกหนักจัดเต็มตลอด 60 วัน ให้วัยมันส์พันธุ์ซ่าได้ลุ้นเป็นเจ้าของ “BMW 118i M Sport” รถแฮทช์แบค 5 ประตูสุดเท่ห์ครั้งแรกของวงการ! เสริมทัพด้วยรถมอเตอไซค์ฮอนด้าและบัตรเติมน้ำมัน ปตท. กว่า 6,000 รางวัล …
ผู้นำตลาดเครื่องดื่มอัดลมกลิ่นผลไม้ โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ทุ่มงบ 200 ล้านบาทรุกตลาดน้ำสี เสริมแกร่งความเป็นเจ้าตลาดน้ำอัดลมสี มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท เปิดตัว “แฟนต้า ทวิสต์” รูปแบบขวดทวิสต์บิดเป็นเกลียว
คุณสมชัย เกตุชัยโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ประกาศเปลี่ยนชื่อ “เป๊ปซี่ แมกซ์” เครื่องดื่มน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาล 0 แคลอรี่* เป็น “เป๊ปซี่ แมกซ์ เทสต์” พร้อมปรับโฉมโดยเน้นใช้โลโก้ “Pepsi Globe” สีแดงขาวและน้ำเงิน อันเป็นเอกลักษณ์ของเป๊ปซี่ พร้อมคำว่า “Pepsi” บนฉลากสีดำเพื่อตอกย้ำ “Master Brand” ของเป๊ปซี่ให้แข็งแกร่ง โดยยังคงสูตรและรสชาติเดิม …
เมื่อเอ่ยถึงน้ำอัดลม มักถูกมองว่าเป็นวายร้ายบั่นทอนสุขภาพ แม้บรรดาผู้ผลิตต่างพยายามคิดค้นหาสูตรที่จะช่วยให้ไม่มีผลต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นสูตร Light สูตร Diet หรือแม้แต่สูตรน้ำตาล 0% เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ที่มีปัญหาสุขภาพ และคนห่วงสุขภาพ แต่ยังชื่นชอบการดื่มน้ำอัดลม แต่ถึงอย่างไรภาพลักษณ์น้ำอัดลมก็ยังเดินขนานกับเรื่องสุขภาพมาโดยตลอด อีกทั้งในช่วงกว่า 10 ปีมานี้ พัฒนาการของตลาดน้ำอัดลมแทบไม่มีนวัตกรรมใหญ่ๆ มาเขย่าตลาด กระทั่งล่าสุด “Coca-Cola” เปิดตัวแบรนด์ใหม่ล่าสุด “Coca-Cola Plus” ในตลาดญี่ปุ่น ด้วยนวัตกรรมใหม่นี้จะทำให้ “น้ำอัดลม” กับ “สุขภาพ” เดินมาบรรจบเส้นเดียวกัน …
ในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค (Fast Moving Consumer Goods : FMCG) ประเทศไทย หนึ่งในตลาดที่มีขนาดใหญ่อันดับต้นๆ คือ “เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์” (Non-Alcohol Beverage) มีมูลค่าสูงถึง 203,300 ล้านบาท (ตุลาคม 2558 – กันยายน 2559) และมีอัตราการเติบโต 4 – 5% ต่อปี ประกอบด้วยน้ำดื่ม, เครื่องดื่มอัดลม, ชาพร้อมดื่ม, นม, …
เคยสังเกตกันไหมว่า ? เวลาเราเข้าไปกินอาหารตามร้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเชนร้านอาหาร หรือแม้แต่ร้านอาหารทั่วไป รวมถึงสตรีทฟู้ด เครื่องดื่มที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมสั่งมากินคู่กับมื้ออาหารนั้นๆ หนีไม่พ้น “โคล่า” ยิ่งกินคู่กับอาหารรสจัด กับโคล่าเย็นๆ ซ่าๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่าอาหารจานนั้น หรือมื้อนั้นอร่อยมากขึ้น เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะผู้บริโภคถูกสร้างพฤติกรรมให้คุ้ยเคยกับการดื่มโคล่าคู่กับมื้ออาหารมานาน เนื่องจากเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่แบรนด์น้ำอัดลม ทั้ง “เป๊ปซี่” “โค้ก” รวมถึง “เอส” ใช้ในการขยายโอกาสการดื่ม นอกเหนือจากการดื่มระหว่างวัน เพื่อสร้างความสดชื่น แน่นอนว่าการสร้างโอกาสการดื่ม ให้เข้าถึงทุกช่วงเวลาของวัน ต้องมาพร้อมกับ “ระบบจัดจำหน่าย” ที่ทรงประสิทธิภาพ …
“ทุกบ่ายไม่เอาท์ เราซ่ากับโค้ก” ถือว่าเป็นแคมเปญใหญ่ของ “โค้ก” ในช่วงครึ่งปีหลัง สร้างปรากฏการณ์ทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ให้แฟนของโค้กได้สัมผัสประสบการณ์ความสดชื่นทุกๆ รูปแบบ เพื่อเติมความซ่าให้คนวัยเรียนและทำงานให้เย็นฉ่ำ แก้ง่วงยามบ่าย โดยอาศัยอินไซต์ที่ว่าผู้บริโภคปัจจุบันมักรู้สึก Fear Of Missing Out (FOMO) หรืออาการกลัวพลาดกระแส
เมื่อแบรนด์เปรียบเหมือนคน ปีนี้น้ำอัดลม “เอส” กำลังจะเข้าขวบปีที่ 4 กับส่วนแบ่งการตลาดในปัจจุบัน 10.4% อันดับ 3 ของตลาด จากมูลค่ารวมตลาดน้ำอัดลมในไทย 51,000 ล้านบาท หรือ 2,000 ล้านลิตร ถึงจะเป็นแบรนด์น้องใหม่ และเป็นผู้ท้าชิง แต่อาวุธสำคัญที่ทำให้ “เอส” สามารถแข่งขันได้อย่างสูสีกับสองแบรนด์ใหญ่ระดับโลก ส่วนสำคัญหนึ่งมาจากการอยู่ภายใต้ชายคาของกลุ่มไทยเบฟ ที่ทำให้เกิด Synergy ระหว่างบริษัทในเครือด้วยกันแล้ว ขณะที่ส่วนสำคัญอีกประการมาจาก การประสานพลังระหว่างกลยุทธ์ด้านแบรนด์และการขาย (Pull and Push Strategy) ควบคู่กับการพัฒนาโปรดักส์ให้มีความแปลกใหม่ …
“Pepsi” ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์น้ำอัดลม ที่มักจะสร้างประสบการณ์ Wow! ให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ ด้วยการแนะนำนวัตกรรมสินค้าใหม่ ที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับตลาดน้ำอัดลม เหมือนอย่างล่าสุด “Pepsi” จับเทรนด์ Nostalgia หรือการถวิลหาชีวิตในวันวานของยุค 90s ด้วยการนำ “Crystal Pepsi” เป็น Pepsi ไร้สี ที่เคยแนะนำเข้าสู่ตลาดเมื่อปี 1992 หลังจากนั้นในปี 1994 ได้เก็บออกจากตลาด กลับมาทำตลาดอีกครั้ง เพื่อตอกย้ำให้เห็นว่า Pepsi คือแบรนด์ที่สะท้อนความเป็น Pop Culture Relaunch …
จากที่เคยสร้างความฮือฮาในวงการเครื่องดื่มน้ำอัดลม กลายเป็นผู้เล่นเบอร์ 3 ในตลาด ด้วยกลยุทธ์ “ราคา” และ “ป่าล้อมเมือง” เจาะตลาดต่างจังหวัด รวมทั้งเจาะเข้าสู่สถานศึกษาหรือทำกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานรัฐบาล โดยชูประเด็นที่เป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ไม่มี “คาเฟอีน” แต่ถ้าหากว่าสังเกตที่แพ็กเก็จจิ้งแบบขวดของ AJE Big Cola รสชาติโคล่า หรือที่เรียกติดปากว่าน้ำดำ จะพบว่าระบุข้อความชัดเจน “มีกาเฟอีน” บนฉลากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Coke ทำแคมเปญ “Share a Coke and a Song” ที่มีเนื้อเพลงดังบนกระป๋อง หรือบนขวด ที่ประเทศจีนเมื่อปี 2014 ในประเทศไทยเองก็มีการนำเอา 50 เพลงดังของไทยมาพิมพ์ลงกระป๋องและขวด PET ในแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ “แชร์โค้ก แชร์ยิ้ม” ตอนนี้ไอเดียดังกล่าว เริ่มต้นขึ้นแล้วที่ตลาดสหรัฐอเมริกา
จากปัญหาเศรษฐกิจระดับโลกที่กระทบถึงผู้บริโภคทุกระดับ ไม่ใช่แค่ผู้บริโภคกลุ่ม C เท่านั้น ความท้าทายของ Est ในฐานะแบรนด์น้ำอัดลมที่มีมาร์เก็ตแชร์อันดับ 3 ในตลาด คือ การสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างความรู้จัก ก่อให้เกิดประสบการณ์การทดลองดื่ม และนำไปสู่การซื้อซ้ำ และที่ผ่านมาด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรโมชั่นลุ้นรับเบนซ์ GLA 30, การทำเทรดโปรโมชั่นเพื่อสร้างสัมพันธ์กับร้านค้า, การรุกช่องทางการขายผ่านขุมกำลังของเสริมสุข และไทยเบฟฯ ไปจนถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมในวงการน้ำอัดลม
