HomeBrand Move !!PepsiCo อาจเตรียมปรับราคาสินค้ารับวิกฤตซัพพลายเชน – เงินเฟ้อ – สงครามยูเครน

PepsiCo อาจเตรียมปรับราคาสินค้ารับวิกฤตซัพพลายเชน – เงินเฟ้อ – สงครามยูเครน

แชร์ :

pepsico

มีการคาดการณ์ว่าความท้าทายด้านปัญหาซัพพลายเชน และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเริ่มส่งผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นในปีหน้าแล้ว โดยหนึ่งในแบรนด์ที่เตรียมขึ้นราคาสินค้าด้วยก็คือ PepsiCo นั่นเอง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้ทาง PepsiCo เตรียมขึ้นราคาสินค้านั้น ทาง Nikkei Asia อ้างคำให้สัมภาษณ์ของคุณปริญญา กิจจาธนพันธ์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มประจำภูมิภาคเอเชีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ของ PepsiCo ที่ระบุว่า มาจากปัญหาสงครามยูเครน และการระบาดของ Covid-19 ทำให้ซัพพลายเชนทั่วโลกเกิดภาวะชะงักงัน จนทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคต้องปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นต่อไป ก็มีแนวโน้มว่าทาง PepsiCo เองก็ต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ในบทสัมภาษณ์ดังกล่าวระบุด้วยว่า ทาง PepsiCo จะพยายามทำให้เกิดผลกระทบกับผู้บริโภคให้น้อยที่สุด ขณะที่ Andrew Delios อาจารย์จาก Business School ของ The National University of Singapore ระบุว่า ผู้บริโภคจะไม่ถึงกับเลิกซื้อสินค้าในหมวดเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวหากเป็นการขึ้นราคาที่ไม่มากนัก แต่พวกเขาจะเลิกซื้อทันทีหากพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงด้านรสชาติ หรือวัตดุดิบที่ใช้ในการผลิต

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสหประชาชาติยังพบด้วยว่า ดัชนีราคาอาหารในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้น 115% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของสถานการณ์ Pandemic เลยทีเดียว

ตลาดเอเชียสำคัญเพราะมีฤดูร้อนยาวนาน

ส่วนการปรับตัวด้านอื่น ๆ ของ PepsiCo นั้น พบว่ามีหลายด้าน เช่น การสร้างโรงงานหัวเชื้อน้ำอัดลมในสิงคโปร์เมื่อปี 2017 ทำให้บริษัทสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์มาที่ไทย ญี่ปุ่น หรือเวียดนามได้อย่างรวดเร็ว การมองหาแหล่งวัตถุดิบอย่างน้ำตาลจากภายในประเทศ รวมถึงมีการนำระบบออโตเมชั่นเข้ามาใช้ในโรงงานด้วย

ส่วนการให้ความสำคัญกับตลาดเอเชียที่สูงมากนั้น บริษัทมองว่าเพราะเป็นภูมิภาคที่มีฤดูร้อนยาวนานกว่าภูมิภาคอื่น ๆ นั่นเอง โดยข้อมูลจาก Statista คาดการณ์ว่า ตลาดเครื่องดื่มในเอเชียจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 186,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2022 เป็น 257,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2027 และสินค้าที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนตลาดก็คือ Energy Drink และ Sport Drink (มีการเติบโตที่สูงมากในฮ่องกงและสิงคโปร์)

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกับธุรกิจอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะพบว่ามีหลายแบรนด์ที่ปรับราคาสินค้าไปแล้วเรียบร้อย เช่น ในประเทศญี่ปุ่น ก็มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากค่ายนิชชิน (Nissin Foods) และมายองเนสจากค่ายคิวพี (Kewpie) หรือประเทศอินเดียก็มีบริษัทผลิตคุ้กกี้อย่าง Britannia ด้วยเช่นกัน

Source

Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand


แชร์ :

You may also like