งานนี้ค่าตัวอาจเป็นเรื่องรอง งานขายของคือเรื่องจริง เพราะหลังจากร้างเวทีมา 7 ปี การกลับมาในช่วง Half Time Show ของศึก Super Bowl 2023 ของศิลปินดังอย่าง Rihanna ได้กลายเป็นที่สั่นสะเทือนของวงการบันเทิงและวงการอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง เนื่องจากการแสดงรอบนี้ เธอได้พาลูกน้อย (คนที่สอง) มาออกงานด้วยเป็นครั้งแรก แถมเครื่องสำอาง Fenty Beauty ของเจ้าตัวที่ถูกหยิบมาปัดแก้มในช่วงกลางคอนเสิร์ตยังสร้างอิมแพคในโลกออนไลน์ เมื่อถูกเสิร์ชหาบนอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงถึง 833%
กลายเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ Super Bowl ปีนี้ ซึ่งนับว่าช่วงเวลาที่ราคาค่าโฆษณาแพงที่สุดในโลก ดังนั้นแต่ละเอเจนซี่และแบรนด์ต้องงัดไอเดียมาแข่งขันกันสุดฤทธิ์เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด และในปีที่โฆษณาที่สำนักข่าวต่างประเทศต่างก็ยกให้เป็นจอมขโมยซีนตัวจริงคือ โฆษณาชุด “It’s a Tide Ad” ผลงานสร้างสรรค์ของ Saatchi& Saatchi New York ดีอย่างไร และมีสิ่งดีๆ อะไรบ้างที่เราควรเรียนรู้จากแคมเปญนี้ ไปติดตามกัน
การแข่งขันอเมริกันฟุตบอล “Super Bowl LI 2017” เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ ซึ่งก็มีหลากหลายแบรนด์ที่สามารถสร้างโฆษณาเรียกกระแสฮือฮาได้มากมาย แต่กลับมีโฆษณานึงที่ยังกระแสแรงไม่มีตกนั่นคือโฆษณา ของ 84Lumber แบรนด์ไม้ และอุปกรณ์ก่อสร้างของอเมริกา ซึ่งโฆษณาชิ้นนี้โดน “แบน” จากการออกอากาศในโทรทัศน์ช่วงออกอากาศของ Super Bowl เนื่องจากเนื้อหาที่มี “ความร้อนแรงทางการเมือง”มากเกินไป แต่เมื่อโฆษณาโดนแบนจากทีวีแล้ว ดันกลับกลายเป็นกลายเป็นกระแส ทำให้ผู้คนมากมายติดตามเข้าไปดูในเว็บไซต์ ของ 84Lumber จนถึงขั้นเว็บไซต์ล่มเลยทีเดียว!
โฆษณาระหว่างเกมส์ Super Bowl มักถูกคาดหวังอยู่เสมอ แต่ละแบรนด์จึงแข่งขันกันสร้างสปอตฉกฉวยประโยชน์จากความตื่นเต้นของผู้ชม Super Bowl ครั้งที่ 50 นี้ มีสนนราคาค่าโฆษณาถึง 5 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ แบรนด์จำนวนไม่น้อยใช้บริการเป็นครั้งแรก เช่น Amazon, LG Electronics หรือ Apartments.com แต่ก็มีแบรนด์หน้าเดิมๆอย่าง Snickers หรือ Kia ซึ่งฮิตถล่มทลายเมื่อปีก่อน ก็ยังขอกลับมาเดิมพันอีกครั้ง ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องปกติของสปอต Super Bowl ที่เราจะได้พบกับเหล่าดาราเซเลบปรากฏตัวขึ้นบนจอ …
ชาวไทยเราเราอาจจะคุ้นตากับภาพถนนที่โล่งปราศจากการจราจรติดขัดในวันที่นักมวยไทยเข้าชิงเหรียญทองโอลิมปิกหรือวันอวสานของละครดังที่ผู้คนจะกลับไปเฝ้าหน้าจอ TV อยู่ที่บ้าน แต่สำหรับชาวอเมริกันแล้ววันที่ผู้คนจะนั่งอยู่หน้าจอ TV มากสุดในรอบปี มี 2 วันด้วยกันคือ วันแข่งขัน match ชิงชนะเลิศของ Super Bowl และวันประกาศรางวัลออสการ์ ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้เป็นโปรแกรม TV ที่ชาวอเมริกันทุกคน “ห้ามพลาด” และเป็นรายการที่ต้องดูแบบสดๆ
หลังจากส่งกระป๋องโค้กที่มีลวดลายซูเปอร์ฮีโร่ของค่าย Marvel ประกอบไปด้วย Iron Man, Black Widow, Hulk, Ant-Man, Captain America และ Falcon ให้กับสื่อมวลชนในสหรัฐอเมริกาบางส่วน จนเป็นภาพกระป๋องหลุดออกมาให้ผู้ที่สนใจได้รอคอยโฆษณา จนกระทั่งในการถ่ายทอดสดการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ Super Bowl ครั้งที่ 50 โฆษณาที่ทุกคนรอคอยก็เผยโฉม
โฆษณาระหว่างเกมส์แข่งขันอเมริกันฟุตบอล Super Bowl XLIX (แมตซ์แห่งชาติของชาวอเมริกัน) เมื่อวันที่ 1 กุมภาที่ผ่านมา และเป็นฤกษ์ดีสำหรับหลายต่อหลายแบรนด์ในการสร้างสรรค์โฆษณาเจ๋งๆสู่สายตาผู้ชมจำนวนมหาศาล Brand Buffet พามาชม 5 โฆษณายอดแย่ (อ้างอิง Adweek) และ 5 โฆษณายอดเยี่ยม จากการโหวจของชางอเมริกัน (อ้างอิง Admeter) โดยจะไล่จะอันดับท้ายไปอันดับ 1 ดังนี้
โฆษณาในช่วงศึกซูเปอร์โบลว์ออกมาจนดูแทบจะไม่ทัน จำแทบจะไม่ได้ แต่โฆษณาของแมคโดนัลด์ชุด “Pay With Lovin” ที่เหมารวบทั้งเทศกาลงานบอลซูเปอร์โบลว์จนถึงวาเลนไทน์ น่าจะทำให้คนดูจดจำได้ดี เพราะดูอบอุ่น สบายๆ น่ารักๆ แต่มีกิมมิค สร้างสรรค์โดย Leo Burnett
ฤดูกาลโฆษณาซูเปอร์ โบล์กลับมาอีกครั้ง เป็นช่วงเวลาที่วงการธุรกิจและโฆษณาของสหรัฐอเมริกาห่ำหั่นกันที่สุดเพื่อช่วงชิงความสนใจของผู้บริโภคให้สมกับที่เป็นช่วงเวลาที่ค่าแอร์ไทม์แพงที่สุด ในปีนี้แบรนด์เบียร์ “Bud Light” มาพร้อมกับภาพยนตร์โฆษณา 90 วินาที สร้างสรรค์โดย EnergyBBDO
ซุปเปอร์โบล์ว (Super Bowl XLVIII ครั้งที่ 48) อเมริกันฟุตบอลแมตซ์สำคัญระดับชาติอเมริกันที่ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอชมพร้อมกันในครอบครัว ปีนี้ 2014 จัดขึ้นที่ สนาม MetLife Stadium เมือง East Rutherford นิวเจอร์ซี สหรัฐอเมริกา ส่วนผลการแข่งขัน ทีม Seattle Seahawks ชนะ Denver Broncos ด้วยคะแนน 48 ต่อ 3 นอกจากเป็นแม๊ตซ์แห่งชาติของชาวอเมริกัน เวทีนี้ยังเป็นสงครามแข่งขันประชันไอเดียโฆษณาของแต่ละแบรนด์สินค้าอีกด้วย
ถ้าหากจะสรุปว่าท่ามกลางโฆษณามากมายหลายแคมเปญในช่วง Super Bowl โฆษณาชิ้นไหนประสบความสำเร็จสูงสุด ก็ต้องยกให้กับ โฆษณาชุด Puppy Love ของเบียร์ Budweiser ด้วยยอดวิว 12 ล้านวิว ตั้งแต่ 24 ชั่วโมงแรกที่คลิปถูกโพสต์ลงบนยูทูป และยังคงแรงต่อเนื่องเรื่อยๆ จนถึงวันแข่งขัน
ทุกปีในการแข่งขันศึกคนชนคน หรือ Super Bowl จะเป็นสมรภูมิของแบรนด์ที่ต่างโชว์ไอเดียหรือความคิดสร้างสรรค์ใส่ลงโฆษณาเป็นจำนวนมาก สำนักข่าว USA Today จึงมีการจัดอันดับโฆษณาหรือเร้ตติ้ง โดยหน่วยงาน Ad Meter Super Bowl XLVIII ที่ค่อนข้างได้รับความน่าเชื่อมากที่สุด ผลสำรวจดังนี้
ซอสมะเขื่อเทศ “ไฮนซ์” ห่างหายจากโฆษณาใน Super Bowl ไปถึง 16 ปี แต่ปีนี้ซอสชื่อดังแบรนด์นี้ก็กลับมาทำโฆษณาในช่วงเวลาการแข่งขันสุดยอดคน-ชน-คน ประจำฤดูกาล 2014 (Super Bowl 2014)
ปีนี้ 2014 ซุปเปอร์โบล์ว จัดเป็นครั้งที่ 48 (Super Bowl XLVIII) การแข่งขันอเมริกันฟุตบอลแมตซ์สำคัญของชาวอเมริกันที่เพิ่งจบไปหมาดๆ ขณะเดียวกันก็เป็นการแข่งขันของแต่ละแบรนด์ที่จะโชว์โฆษณาของตนเองให้กับชาวอเมริกันได้ชมระหว่างดูการแข่งขัน ทั้งหมดมีโฆษณาอะไรบ้างไปดูกัน
ปีที่แล้ว 2013 H&M แบรนด์เครื่องแต่งกายชื่อดัง จับเดวิด แบ็คแฮม (David Beckham) อดีตซุปตาร์นักฟุตบอล เป็นพรีเซนเตอร์ชุดชั้นในและเล่นภาพยนตร์โฆษณาโชว์แผงอกเซ็กซี่จนสาวๆหัวใจแทบละลาย ล่าสุดปีนี้ H&M Underwear ดึงเดวิค เบคแฮมกลับมาอีกครั้งลงโฆษณาในช่วง Super Bowl 2014 อีกครั้ง
หลังจากปีที่แล้ว AXE สเปรย์ระงับกลิ่นกายชายประสบความสำเร็จกับแคมเปญก่อนที่ชื่อว่า Apllo (ส่งคนไปนอกโลก) ปีนี้อัดต่อแคมเปญภาพยนตร์โฆษณาชื่อว่า Make Love , Not War สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ AXE PEACE ที่ค่อนข้างแหวกจากรูปแบบเดิมของ AXE นิยมสื่อสารออกแนวเซ็กซี่ หลุดโลก แต่ครั้งนี้ดูจริงจังกับโลกมากขึ้น ซึ่งได้เอเย่นซี่คู่หูอย่าง BBH London มาทำสร้างความประทับใจอีกครั้งนึง
หลังจากปีที่แล้วในนัดชิงซูเปอร์โบล์ว (Super Bowl 2012) Coca-Cola หรือ “โค้ก” สร้างปรากฏการณ์ทำ Interactive Commercial ที่เป็นลักษณะเชื่อมโยงภาพยนตร์โฆษณาทางทีวีกับสื่อออนไลน์ ชื่อแคมเปญ Polar Bowl ด้วยการใช้ หมีขาวขั้วโลก Brand Heritage ของโค้ก มาปีนี้ 2013 โค้กพยายามทำ Interactive Advertising อาศัยช่วงเวลาที่คนทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอเมริกันจับจ้องหน้าจอทีวีดูนัดชิง NFL ซึ่งโฆษณาในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นโฆษณาที่คนให้ความสนใจมากที่สุด
