HomeInsightInstagram เผย 6 เทรนด์ Social Media ชี้ “ยอดไลค์” ไม่สำคัญเท่า “ยอดขาย”

Instagram เผย 6 เทรนด์ Social Media ชี้ “ยอดไลค์” ไม่สำคัญเท่า “ยอดขาย”

แชร์ :

“อินสตาแกรม” (Instagram) คาดการณ์เทรนด์ “Social Media” ในปี 2561 ซึ่งเป็นข้อมูลที่รวบรวมและวิเคราะห์จากพฤติกรรมของผู้ใช้อินสตาแกรม ที่มีสมาชิกมากถึง 800 ล้านคนทั่วโลก โดย “พอล เว็บสเตอร์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและสร้างสรรค์แบรนด์ อินสตาแกรม ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก Facebook” ได้ฉายภาพเทรนด์ Social Media ดังนี้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

1. ร้านค้าโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวล่าสุด ร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุด หรือเทรนด์แฟชั่นใหม่ล่าสุด ผู้คนต่างต้องการที่จะติดต่อสื่อสารกับธุรกิจเหล่านี้

นอกจากนี้ ร้อยละ 62 ของกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียลยังบอกว่า หากแบรนด์ติดต่อกับพวกเขาผ่านโซเชียลมีเดีย ก็จะเพิ่มโอกาสในการเป็นลูกค้าประจำที่จงรักภักดีต่อแบรนด์นั้น เนื่องจากโซเชียลแพลตฟอร์มกำลังได้โอกาสที่น่าตื่นเต้นในการทำลายกำแพงที่จะเชื่อมต่อไปสู่การขายสินค้า

ในปี 2561 จากการที่แบรนด์ต่างๆ เริ่มได้รับผลประโยชน์จากการเชื่อมต่อนี้ โซเชียลมีเดียจะกลายเป็นแหล่งซื้อขาย และจะช่วยกระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางโซเชียลได้เป็นอย่างดี ซึ่งตลอดปีที่ผ่านมาในสหรัฐฯ เราได้ทดลองฟีเจอร์ Shopping ในอินสตาแกรม ซึ่งช่วยให้การซื้อสินค้าภายในแอพพลิเคชั่นเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น และเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้แนะนำฟีเจอร์นี้ไปยังประเทศต่างๆ เพิ่มมากขึ้นในปี 2561 นี้

2. วิดีโอจะมาแรงในปีหน้า แต่จะหายไปในวันพรุ่งนี้ โดยคาดการณ์ว่า ในปี 2562 ร้อยละ 72 ของยอดการชมวิดีโอออนไลน์ทั้งหมด จะเกิดขึ้นบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งช่วยสร้างโอกาสครั้งสำคัญให้กับแบรนด์ต่างๆ ในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และการสร้างประสบการณ์วิดีโอที่น่าสนใจที่จะช่วยดึงดูดผู้บริโภคผ่านเนื้อหาที่อยู่ในมือของพวกเขา

ทั้งนี้ เราคาดหวังว่าข้อมูลแบบชั่วคราวอย่าง Stories จะได้รับความนิยมมากขึ้น ในขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ปีต่อไป เราคาดหวังที่จะเห็นแบรนด์ต่างๆ กล้าที่จะลองเสี่ยงกับการใช้ข้อมูลแบบชั่วคราว โดยเชื่อมั่นว่าโพสต์ต่างๆ ที่จะหายไปหลังจากระยะเวลา 24 ชั่วโมงนั้น จะช่วยมอบอิสระในการคิดสร้างสรรค์เนื้อหามากยิ่งขึ้น

3. การส่งข้อความจะกลายเป็นพื้นที่สำหรับธุรกิจ นอกเหนือจากการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้โทรศัพท์มือถือแล้ว เรายังเห็นผู้คนเปลี่ยนวิธีการสื่อสารด้วยการส่ง “ข้อความ” ซึ่งเป็นรูปแบบการสื่อสารที่รวดเร็ว ตรงไปตรงมา และเป็นส่วนตัว ผู้คนต้องการที่จะสื่อสารกับธุรกิจต่างๆ ในวิธีการที่รวดเร็วและเป็นกันเองมากขึ้น เช่นเดียวกับวิธีสื่อสารกับเพื่อนฝูง

โดยร้อยละ 64 ของผู้คน เลือกส่งข้อความเพื่อติดต่อสื่อสารกับธุรกิจ แทนการใช้โทรศัพท์หรือส่งอีเมล์ เราคาดการณ์ว่าจำนวนนี้จะเติบโตขึ้นในปี 2561 และจะเห็นการซื้อขายผ่านการส่งข้อความมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

4. ธุรกิจขนาดเล็กจะช่วยกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมด้านการตลาด ในอดีตนั้น การสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดระดับโลกเคยเป็นสิ่งที่ถูกสงวนไว้สำหรับแบรนด์ขนาดใหญ่ที่มีงบประมาณจำนวนมากเท่านั้น แต่ความง่ายดายในการจัดการและประสิทธิภาพของโซเชียลมีเดียนั้นได้ยกระดับความเท่าเทียมให้กับสนามแห่งการตลาด ซึ่งช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กได้เกิดและเติบโตในระดับโลก โดยในปี 2561 เราคาดว่าบริษัทขนาดเล็กจะยังคงผลักดันที่จะลดขีดจำกัดต่างๆ และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับทุกคนในอุตสาหกรรม

5. การเติบโตของตลาดเฉพาะ ในโลกของโซเชียลมีเดีย ผู้คนจากทั่วโลกได้เชื่อมต่อกันผ่านการแบ่งปัน ความสนใจและความชอบที่คล้ายกัน ในอินสตาแกรมประกอบด้วยคอมมูนิตี้ที่มีความสนใจเฉพาะอยู่จำนวนมาก ซึ่งแปลว่ามีกลุ่มผู้ชมที่มีส่วนร่วมสูง มีคุณค่า และสามารถเข้าถึงได้ง่าย สำหรับแบรนด์ใดก็ตาม

6. การทบทวนประเมินคุณค่าของเนื้อหา ในขณะที่เครื่องมือวัดผลอย่าง “ยอดไลค์” และ “การแสดงความคิดเห็น” นั้นเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสำเร็จเชิงการตลาดในโลกโซเชียล

แต่การวัดผลที่มีความหมายอย่างแท้จริง คือ “ยอดขาย” หรือการกระทำเชิงธุรกิจอื่นๆ จากการที่แบรนด์ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ลึกยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ทำให้พวกเขาสามารถเลือกใช้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่ช่วยให้เขาเข้าใจกลุ่มเป้าหมายและพัฒนาเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่แบรนด์ได้เรียนรู้พฤติกรรมและความเป็นมาของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น พวกเขาก็สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาที่น่าสนใจในเวลาที่เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายในที่สุด

Paul Webster, Regional Product Marketing Manager, Instagram APAC

Credit Photo (ภาพเปิด) : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand


แชร์ :

You may also like