ทุกวันนี้ไม่ว่ามองไปทางไหน ก็จะเห็นสินค้าและบริการออกมาเพื่อตอบโจทย์สุขภาพ เพราะการดูแลใส่ใจสุขภาพ พิถิพิถันตั้งแต่อาหารการกิน ไปจนถึงการใช้ชีวิต การออกกำลังกาย เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนยุคนี้ไปแล้ว ขณะเดียวกันผู้บริโภคยุคนี้มีทางเลือกในการบริโภคมากมาย จากร้านอาหารที่แข่งกันเปิดให้บริการ พร้อมนำเสนอความหลากหลาย นี่จึงทำให้เชนร้านอาหารบริการด่วน (Quick Service Restaurant : QSR) ยักษ์ใหญ่อย่าง “KFC” ต้องปรับตัว เพื่อให้ยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้บริโภคในปัจจุบัน
เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา “KFC” ในประเทศจีน ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “K Pro” สาขาแรกที่ MIXC Mall ในเมืองหางโจว ประเทศจีน เน้นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ สีและการออกแบบตกแต่งร้านใช้โทน “สีเขียว” เพื่อสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ และสุขภาพ ซึ่งแตกต่างจากสาขา KFC ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
ล่าสุด “KFC” ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่เช่นกัน ในชื่อ “The Table by KFC” เตรียมให้บริการตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป สาขาแรกที่ศูนย์การค้า S-PAL Sendai ในเมืองเซนได จังหวัดมิยางิ
“The Table by KFC” เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ของ KFC ที่พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “deli-style food retail” หรือร้านอาหารที่ทำสำเร็จพร้อมรับประทาน เพื่อตอบโจทย์ความสะดวก และเน้นซื้อกลับบ้าน โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนที่มาช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าแห่งนี้ และผู้ที่เดินทางไปมาโดยรถไฟฟ้า เนื่องจากศูนย์การค้าเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า JR Sendai
เมนูอาหารที่จำหน่าย มีทั้งอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น เมนูสลัดสูตรต่างๆ ให้เลือก และความหลากหลายของเมนูไก่ เช่น ไก่ตุ๋นในซอสมะเขือเทศ และซอสมิโซะ, ไก่ย่าง รวมถึงยังคงจำหน่ายเมนูไก่ทอด เช่น ไก่ทอดคลุกเคล้าเครื่องเทศ และไก่ทอดแบบทั้งตัว เพื่อเอาใจแฟนคลับ KFC นอกจากนี้ยังมีรายการอาหารพิเศษในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อให้ลูกค้าซื้อไปจัดปาร์ตี้ที่บ้าน หรือรับประทานอาหารร่วมกันกับครอบครัว
ขณะที่สไตล์การออกแบบตกแต่งร้าน ใช้วัสดุจากไม้ เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ เรียบง่าย ให้ความรู้สึกเหมือน “ห้องครัวภายในบ้าน” สำหรับราคาอาหาร เช่น ไก่ทั้งตัว อยู่ที่ 3,200 เยน หรือประมาณ 30 เหรียญสหรัฐ ขณะที่เมนูอาหารอื่นๆ ราคาโดยเฉลี่ย 300 เยนต่อ 100 กรัม
การพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ของ “KFC” ด้วยแบรนด์และคอนเซ็ปต์ใหม่ เป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่สร้างการเติบโตทางธุรกิจ ในวันที่การแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารรุนแรงขึ้น และไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน ซึ่งจะทำให้ภาพองค์รวมของ “KFC” ไม่ผูกติดแค่การเป็นเชนร้านขายไก่ทอด แต่ยังเป็นผู้ให้บริการอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ด้วยการนำเสนอเมนูอาหารหลากหลาย ซึ่งแน่นอนว่ายังคงรักษาจุดแข็งของตนเอง คือ การใช้ไก่เป็นวัตถุดิบหลัก รังสรรค์ออกมาเป็นเมนูอาหารจาดเด็ดต่างๆ