แบกค่าใช้จ่ายในรัสเซียมานานจนไม่น่าจะไปต่อได้ไหวแล้ว ล่าสุด แมคโดนัลด์ (McDonald’s) เชนฟาสต์ฟู้ดสัญชาติอเมริกันตัดสินใจประกาศขายกิจการ – ถอนตัวจากตลาด “รัสเซีย” อย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าจะขายกิจการให้กับผู้ซื้อในประเทศ และมีการคาดการณ์ว่า การปิดตัวครั้งนี้จะทำให้ McDonald’s มีหนี้สูญมากถึง 1,200 – 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
สำหรับความพิเศษของตลาดรัสเซียก็คือ เป็นหนึ่งในตลาดที่ McDonald’s ลงมาดูแลเอง และเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ โดยเป็นรองแค่ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, แคนาดา และฝรั่งเศส (McDonald’s มีสาขาในรัสเซียมากถึง 850 สาขา)
อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างยูเครน – รัสเซีย รายงานจากสื่อตะวันตกชี้ว่า การดำเนินธุรกิจร้านอาหารของ McDonald’s เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะมีการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา และชาติต่าง ๆ ในสหภาพยุโรปต่อรัสเซีย รวมถึงปัญหาราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย
แบกค่าใช้จ่ายอ่วม
ทั้งนี้มีการเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ McDonald’s หยุดการให้บริการเป็นการชั่วคราวตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างยูเครน และรัสเซียเป็นต้นมา บริษัทต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น เงินเดือนพนักงาน, ค่าเช่าสถานที่ และค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้ซัพพลายเออร์มากถึง 27 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบที่อาจต้องทิ้งเนื่องจากการปิดสาขาอีกเป็นมูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี ทาง McDonald’s ยืนยันว่าจะจ่ายเงินเดือนพนักงานต่อไปจนกว่าจะหาผู้ซื้อกิจการได้ และหลังจากซื้อกิจการแล้ว ทางบริษัทที่ซื้อไปจะไม่สามารถใช้เมนู ภาพโลโก้ ฯลฯ ของร้าน McDonald’s ได้แต่อย่างใด
งานนี้จึงอาจต้องแสดงความเสียใจกับแฟน ๆ McDonald’s ในรัสเซียที่อาจไม่ได้เห็นหน้าค่าตาฟาสต์ฟู้ดรายนี้บนแผ่นดินรัสเซียอีกแล้ว ซึ่ง McDonald’s ยังเป็นแบรนด์จากสหรัฐอเมริการายแรก ๆ ที่เข้าไปเปิดตลาดในรัสเซียช่วงยุค 1990 โดยสาขาแรกที่เปิดตัวก็คือสาขาที่ Pushkin Square ในกรุงมอสโคว ปี 1990 โดยทางสำนักข่าว Bloomberg มีการอ้างว่า มีผู้คนมากถึง 30,000 คนไปยืนรอต่อคิวในวันเปิดร้านวันแรกด้วย