HomeBrand Move !!“Starbucks” ส่งกาแฟสกัดเย็นถังกด 2 ลิตร เจาะการบริโภคในบ้าน พร้อมกางพอร์ตฯ Ready-to-Drink ใหม่ปี 2022

“Starbucks” ส่งกาแฟสกัดเย็นถังกด 2 ลิตร เจาะการบริโภคในบ้าน พร้อมกางพอร์ตฯ Ready-to-Drink ใหม่ปี 2022

แชร์ :

Starbucks Coffee on Tap

การเกิดขึ้นของ COVID-19 เปลี่ยนวิถีชีวิตคนทั่วโลก ให้ต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้น  ทำให้บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยเพื่อพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของการใช้ชีวิต ตั้งแต่เป็นที่ทำงาน, ห้องเรียน, โรงหนังขนาดย่อม, มีโซนคาเฟ่เล็กๆ, มีพื้นที่ออกกำลังกายภายในบ้าน และอีกหลายกิจกรรม 

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ถึงแม้เวลานี้มีวัคซีน พร้อมทั้งปลด Lockdown และคนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน แต่กลับพบว่าไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ได้กลับมาเป็นเหมือนก่อนเกิด COVID-19

สิ่งที่ตามมาจากการที่คนอยู่บ้านมากขึ้น คือ เกิดระบบเศรษฐกิจที่เรียกว่า “Stay-at-Home Economy” หรือ At-Home Economyคือ ระบบเศรษฐกิจการใช้จ่าย และการบริโภคภายในบ้าน (In-home Consumption)

ทำให้แบรนด์ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ หันมาพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์ Stay-at-Home Economy เพื่อรองรับ Demand การบริโภค และการใช้จ่ายภายในบ้าน

ล่าสุด North American Coffee Partnership” (NACP) เป็นการร่วมทุนระหว่าง Starbucks” (สตาร์บัคส์) กับ PepsiCo (เป๊ปซี่โค) พัฒนาผลิตภัณฑ์ “Ready-to-Drink” (RTD) สำหรับวางจำหน่ายในช่องทางร้านค้าปลีกทั่วสหรัฐอเมริกา ทั้งเชนค้าปลีกใหญ่ที่มีสาขาทั่วประเทศ เช่น ร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมทั้งร้านค้าปลีกในสถานีบริการน้ำมัน, ร้านค้าปลีกท้องถิ่น และช่องทางออนไลน์ ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ที่เตรียมวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาภายในปี 2022 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งพอร์ตโฟลิโอ Ready-to-Drink

Starbucks Ready-to-Drink Coffee

Credit Photo : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand

 

เปิดตัวกาแฟสกัดเย็นถังกด “Starbucks Cold & Crafted on Tap” รับเทรนด์ Stay-at-Home Economy

หนึ่งในไฮไลท์น่าสนใจคือ Starbucks Cold & Crafted on Tap เป็นกาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) บรรจุในถัง/กล่องสี่เหลี่ยมขนาด 72 ออนซ์ หรือประมาณ 2.12 ลิตร สำหรับการบริโภคภายในบ้าน หรือในครอบครัว

มี 2 รสชาติคือ Black Unsweetened (กาแฟดำ ไม่หวาน) และ Coffee Splash of Milk (กาแฟนม) เพียงแค่กดหัวจ่ายกาแฟที่อยู่หน้ากล่อง กาแฟหอมๆ ก็จะออกมา จำหน่ายในราคา 15 เหรียญสหรัฐต่อถัง

Starbucks-Coffee-On-Tap-Coffee

Starbucks Coffee On Tap 2 รสชาติคือ Black Unsweetened และ Splash of Milk ขนาด 2.12 ลิตร

การพัฒนา Starbucks Cold & Crafted on Tap ต่อยอดมาจากความสำเร็จของการเปิดตัวกาแฟสกัดเย็นพร้อมดื่ม “Starbucks Cold & Crafted” ขนาด 11 ออนซ์ และขนาด 40 ออนซ์ ที่เปิดตัวเข้าสู่ตลาดเมื่อปี 2021

หลังพบ Consumer Insights ว่า 72% ของครัวเรือนในสหรัฐฯ ยังไม่เคยทดลองดื่มกาแฟพร้อมดื่ม จึงได้ทำวิจัยเพื่อหาคำตอบว่ารสชาติอะไรที่คอกาแฟ ต้องการสำหรับผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่ม พบว่า ต้องการกาแฟรสกลมกล่อม, ไม่มีสารกันบูด, น้ำตาลน้อย, แคลอรี่ต่ำ และราคาเข้าถึงง่าย

ในที่สุดก็ได้มาเป็นกาแฟสกัดเย็นพร้อมดื่ม ใน 3 รสชาติคือ Starbucks Cold & Crafted with a splash of Milk & Vanilla, Starbucks Cold & Crafted with a splash of Milk & Mocha และ Starbucks Cold & Crafted Sweetened Black จำหน่ายในราคาต่ำกว่า 3 เหรียญสหรัฐ ขายในร้านค้าปลีกทั่วไป

ดังนั้นการเปิดตัว “Starbucks Cold & Crafted on Tap” กาแฟสกัดเย็นถังกด เพื่อตอบรับเทรนด์ “Stay-at-Home Economy” หรือ “At-Home Economy

เพราะถึงแม้เวลานี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายประเทศจะฟื้นกลับมา หลังผ่านสถานการณ์ COVID-19 และเจอกับการกลายพันธุ์ของไวรัสก็ตาม แต่รูปแบบการใช้ชีวิตของคน จะเป็น Hybrid Lifestyle มากขึ้น นั่นคือ กิจวัตรในชีวิตประจำวันต่างๆ ไม่ว่าจะทำงาน เรียนหนังสือ หรือกิจกรรมอื่นๆ มีทั้งออกไปข้างนอก เช่น เข้าออฟฟิศ ไปโรงเรียน ไปช้อปปิ้ง ไปพบปะเพื่อน และสลับกับการทำกิจวัตรประจำวันเหล่านี้ที่บ้าน

ดังนั้นในการพัฒนาสินค้าและบริการต่างๆ ของแบรนด์นับจากนี้ จึงไม่ใช่แค่การให้บริการผ่านร้านเท่านั้น แต่ต้องออกแบบและพัฒนาสินค้าสำหรับตอบโจทย์ “In-home Consumption” ด้วยเช่นกัน

Starbucks Cold Crafted

Starbucks Cold & Crafted ขนาด 11 ออนซ์ หรือ 325 มิลลิลิตร

 

ตามดูสินค้า Ready-to-Drink ใหม่ปี 2022 จะน่าลองแค่ไหน ?!?

สำหรับ Product line-up กลุ่มผลิตภัณฑ์ Ready-to-Drink ภายใต้แบรนด์ Starbucks ในปี 2022 เรียกได้ว่ายกทัพสินค้าบุกช่องทางร้านค้าปลีกกันเลยทีเดียว

นอกจากที่กล่าวถึง Starbucks Cold & Crafted on Tapกันไปแล้ว ยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์

เปิดตัว Energy Drink Starbucks BAYA Energyตอบโจทย์ทั้งด้านพลังงาน และความสดชื่น มีคาเฟอีนธรรมชาติจากผลกาแฟ (Coffee Fruit), วิตามินซี และรสชาติผลไม้ ช่วยสร้างความสดชื่น

นำร่องด้วย 3 รสชาติคือ รสมะม่วง-ฝรั่ง, รสมะนาว-ราสเบอร์รี่ และสับปะรด-เสาวรส มีปริมาณแคลอรี่ 90 แคลอรี่ และคาเฟอีน 160 มิลลิกรัมต่อ 1 กระป๋องขนาด 12 ออนซ์

เตรียมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้ทั่วสหรัฐอเมริกา ครอบคลุมทั้งช่องทางร้านค้าปลีก ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านค้าปลีกในสถานีบริการน้ำมัน และร้านสาขา Starbucks ในสหรัฐฯ ในราคา 2.89 เหรียญสหรัฐ

Starbucks x PepsiCo-Starbucks BAYA Energy

กาแฟ ช็อกโกแลตพร้อมดื่ม ทำจากนมข้าวโอ๊ต (Starbucks RTD Oatmilk)

หลังจาก Starbucks ประสบความสำเร็จกับทำเมนูเครื่องดื่ม Plant-based ใช้นมข้าวโอ๊ต (Oatmilk) แทนนมวัว ให้บริการที่ร้าน ในปี 2022 จะเปิดตัวกาแฟพร้อมดื่มนมข้าวโอ๊ต ถือเป็นครั้งแรกของกาแฟพร้อมดื่ม Starbucks เป็นไปตามกลยุทธ์ขององค์กรที่ต้องการขยายเมนู Plant-based เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า และเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายลดคาร์บอน 50% ภายในปี 2030

ผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่ม นมข้าวโอ๊ตที่จะได้เห็นในปีนี้ ประกอบด้วย

  • Starbucks Multi-serve Cold Brew:Dark ChocolateOatmilk ขนาด 40 ออนซ์ สำหรับบริโภคหลายคน (Multi-serve) จำหน่ายในราคา 4.99 เหรียญสหรัฐต่อขวด

Starbucks-Oatmilk-Cold-Brew-Dark-Chocolate

 

  • Starbucks Frappuccino® Coffee Drink with Oatmilk มี 2 รสชาติคือ Caramel Waffle Cookie และ Dark Chocolate Brownie จำหน่ายในราคา 3.40 เหรียญสหรัฐต่อขวด

Starbucks-Frappuccino-Oatmilk– Starbucks Nitro Cold Brew Splash of Sweet Cream กาแฟไนโตรสกัดเย็นบรรจุกระป๋อง รสชาติใหม่ผสมผสานระหว่างกาแฟไนโตร กับครีมรสหวาน จำหน่ายในราคา 3.69 เหรียญสหรัฐต่อกระป๋อง

Nitro-Cold-Brew-Splash-of-Sweet-Cream

– Starbucks TripleshotTMZero Sugar Milk Chocolate กาแฟรสช็อกโกแลต ไม่มีน้ำตาล จำหน่ายในราคา 2.92 เหรียญสหรัฐต่อกระป๋อง

Starbucks-Tripleshot-Energy-Zero-Sugar

– Starbucks Frappuccino Passport Series Hazelnut Tiramisu กาแฟพร้อมดื่มรสเฮเซลนัท ทีรามิสุ เป็นรสชาติใหม่ของผลิตภัณฑ์ซีรีส์ Frappuccino Passport Series ได้แรงบันดาลใจจากรสชาติยอดนิยมทั่วโลก ต่อยอดเป็นกาแฟพร้อมดื่มบรรจุขวด

Starbucks-Frappuccino-Hazelnut-Tiramisu

 

Source

Photo Credit : Starbucks


แชร์ :

You may also like