HomeBrand Move !!ไมโครซอฟท์ชี้ พนง. 41% เตรียมลาออก เหตุเบิร์นเอาท์เพราะ Pandemic! Gen Z กระทบหนักสุด

ไมโครซอฟท์ชี้ พนง. 41% เตรียมลาออก เหตุเบิร์นเอาท์เพราะ Pandemic! Gen Z กระทบหนักสุด

แชร์ :

เป็นผลกระทบจากการทำงานในภาวะ Pandemic ที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับการสำรวจของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง “ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ที่พบว่า พนักงานจำนวนไม่น้อยรู้สึกลำบากใจกับการทำงานในยุค Work From Anywhere และหลายคนเตรียมยื่นซองขาวเพื่อลาออกจากบริษัทในปีนี้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

การสำรวจดังกล่าวเป็นการทำแบบสอบถามผู้คนจำนวน 30,000 คนจาก 31 ประเทศ รวมถึงอ้างอิงข้อมูลจากแพลตฟอร์ม LinkedIn และซอฟต์แวร์ในเครืออย่าง Office365 ซึ่งพบว่า 46% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีแผนจะย้ายที่อยู่ใหม่ในปีนี้ โดยเป็นผลจากที่ออฟฟิศให้ทำงานจากบ้านได้ ทำให้ชีวิตยืดหยุ่นได้มากขึ้น ขณะที่อีก 41% บอกว่า พวกเขากำลังตัดสินใจลาออกจากงาน

การสำรวจนี้ยังพบว่า พนักงานจำนวนมากมีอาการเบิร์นเอาท์ หรืออาการหมดไฟในการทำงานร่วมด้วย โดย 54% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่าพวกเขาทำงานมากเกินไป และอีก 39% บอกว่าพวกเขารู้สึกเหนื่อยล้าจนไม่ไหวแล้ว

Gen Z อาการหนักสุด

ที่น่าสนใจคือการสำรวจชิ้นนี้พบว่า กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือคน Gen Z ที่มีอายุระหว่าง 18 – 25 ปี และกลุ่มคนโสด โดยนักวิเคราะห์ให้เหตุผลว่า เด็ก Gen Z เพิ่งเริ่มเข้าทำงานได้ไม่นาน การที่ออฟฟิศประกาศให้ Work From Anywhere ทำให้พวกเขารู้สึกรู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวได้ง่ายกว่ารุ่นพี่ ๆ ที่ทำงานมานานแล้วนั่นเอง

ส่วนระดับผู้บริหาร หรือผู้นำองค์กรนั้น ผลสำรวจชิ้นนี้กลับชี้ว่า เป็นกลุ่มที่ไม่รู้สึกว่าการทำงานจากระยะไกลนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบาก โดยเฉพาะหัวหน้างานที่เป็น “ผู้ชาย” ขณะที่กลุ่มผู้หญิง, คนทำงานฝ่ายปฏิบัติการ และพนักงานใหม่ต่างรู้สึกว่าการ Work From Home นั้นเป็นความท้าทายของชีวิตกันทั้งสิ้น

Microsoft research burnout pandemic

กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่ให้ความเห็นแตกต่างกัน โดยกลุ่มที่มีปัญหามากที่สุดคือกลุ่มพนักงานใหม่ และกลุ่มคนโสด (ขอบคุณภาพจาก Microsoft)

ส่วนที่บอกว่า การสำรวจชิ้นนี้ได้รวมเอาข้อมูลจากซอฟต์แวร์ที่ไมโครซอฟท์เป็นเจ้าของมาประเมินร่วมด้วยนั้น ก็ทำให้ทางทีมวิจัยพบข้อมูลที่น่าสนใจเช่นกัน นั่นคือ การใช้โปรแกรม Microsoft Team ในการแชท และการทำวิดีโอคอนเฟอเรนส์ได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว และตัวเลขก็ยังคงเติบโตต่อไป จนนักวิจัยมองว่า มันอาจเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้พนักงานหมดไฟได้เลยทีเดียว นอกจากนั้น นักวิจัยยังพบว่า การส่งข้อความแชทผ่านโปรแกรมดังกล่าวก็เพิ่มขึ้น 45% ด้วยเช่นกัน และ 42% ของข้อความเหล่านั้นเกิดขึ้นหลังเวลาเลิกงาน

รับสมัครคนทำงาน WFH เพิ่ม 5 เท่า

ส่วนบนแพลตฟอร์ม LinkedIn นั้น ทีมวิจัยพบว่ามีการโพสต์ประกาศรับพนักงานแบบ Work From Anywhere เพิ่มขึ้น 5 เท่า พร้อม ๆ กับพบว่า การทำงานแบบระยะไกลนี้ ทำให้ผู้คนมีการติดต่อกันน้อยลง หรือทำความรู้จักกันน้อยลงกว่าเดิม

อีกข้อมูลหนึ่งมาจาก Microsoft Teams และบริการอีเมล Outlook ที่พบว่า การส่งข้อความหาเพื่อนพนักงานทุกคนที่อยู่รวมกันในกลุ่มใหญ่ลดลง แต่หันไปโฟกัสมากขึ้นกับกลุ่มเล็ก ๆ ของคนที่ทำงานด้วยกันเป็นหลัก ซึ่งในมุมของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ไมโครซอฟท์ระบุว่า เทรนด์ดังกล่าวไม่ค่อยส่งผลดีนักต่อการพัฒนานวัตกรรม

เพื่อแก้ปัญหานี้ ไมโครซอฟท์เองมีแผนจะเปิดสำนักงานใน Redmond ในเดือนมีนาคมเช่นกัน เพื่อให้พนักงานที่อยากเข้าออฟฟิศได้กลับมาทำงาน แต่ห้องประชุมจะยังคงจำกัดการใช้งานต่อไป โดยพวกเขาบอกพนักงานเสมอว่า แม้ออฟฟิศจะกลับมาเปิดได้แล้วก็ตาม แต่พนักงานยังได้สิทธิ Work From Home อยู่โดยไม่ต้องขออนุญาตเป็นการพิเศษ

Source


แชร์ :

You may also like