HomeDigitalคลิปวิดีโอสั้นแข่งดุ “Instagram Reels” มาถึงไทยแล้ว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์เพลงเต็มพิกัด

คลิปวิดีโอสั้นแข่งดุ “Instagram Reels” มาถึงไทยแล้ว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์เพลงเต็มพิกัด

แชร์ :

facebook reels instagram

ตัวอย่างการใช้ Instagram Reels ของ ส้ม-มารี

หลังจากปล่อยให้แพลตฟอร์มโซเชียลแนวคลิปวิดีโอสั้นเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย (และทั่วโลก) ไปหลายปี ดูเหมือนว่าตอนนี้ Facebook จะพร้อมแล้วสำหรับการส่งโปรดักท์ของตัวเองออกมาให้คนไทยได้ใช้งานกัน โดยในวันนี้ได้มีการประกาศเปิดตัว Instagram Reels อย่างเป็นทางการ และจะมาปรากฏเป็น Tab ที่ 5 บน Instagram นอกเหนือจาก Feed, Stories, IGTV และ Live

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ด้วยฟีเจอร์ใหม่นี้ ทาง Facebook บอกว่า จะทำให้ผู้ใช้งาน Instagram ในประเทศไทยมีช่องทางในการนำเสนอตัวตนเพิ่มขึ้นนอกเหนือจาก Feed – Stories ที่ไว้โชว์ความเป็นไปของเพื่อน ๆ ส่วน IGTV ก็เป็นการนำเสนอคอนเทนต์วิดีโอ และ Live เป็นการถ่ายทอดสด โดย Reels นั้นก็จะเป็นพื้นที่สำหรับคลิปวิดีโอสั้น ที่สามารถใส่ภาพ ใส่ข้อความ ตกแต่งด้วย AR – สติ๊กเกอร์ และใส่เพลงได้

ของเล่นบน Reels

สำหรับการพัฒนาคอนเทนต์เพื่อโพสต์ใน Reels นั้น สามารถตั้งค่าต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบได้ใส่เครื่องมือต่าง ๆ มาให้ด้วย 4 ตัว ได้แก่

  • สามารถเร่งความเร็ว หรือทำให้วิดีโอหรือเสียงดนตรีช้าลงได้ เพื่อให้วิดีโอเข้ากับจังหวะ หรือทำเป็นวิดีโอสโลโมชันด้วยก็ยังได้
  • สามารถตั้งหรือเรียงสิ่งที่ต้องการจะถ่ายจากคลิปก่อนหน้าให้ตรงกันก่อนที่จะอัดคลิปต่อไป เพื่อให้แต่ละเทคลื่นไหล ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนชุดหรือเพิ่มเพื่อนเข้าไปในวิดีโอเครื่องมือสำหรับจัดวางภาพ
  • มีเครื่องมือสำหรับใส่ AR Effects เช่น ทำให้ดาวหล่นลงมา หรือมีแสงระยิบระยับได้
  • เครื่องมือเปลี่ยนฉากหลัง ด้วยการทำ Green Screen ก่อนจากนั้นก็เพิ่มสื่อต่าง ๆ ที่ต้องการลงไปบนพื้นหลัง
  • เครื่องมือสำหรับตั้งเวลาให้ตัวหนังสือปรากฏออกมาในเวลาที่กำหนดได้
  • สามารถตั้งเวลาอัดคลิปได้โดยไม่ต้องใช้มือจับ
  • สามารถใส่ดนตรีได้ทั้งแบบดนตรีที่สร้างขึ้นเอง หรือดนตรีที่ไม่ละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์
  • สามารถเพิ่มความเนียนสวยให้กับวิดีโอ โดยสามารถเลือกความเข้มของเอฟเฟกต์ได้

instagram reel facebook

สำหรับการนำคลิปมาตัดต่อบน Reels นั้น สามารถทำได้ทั้งจากการถ่ายภาพด้วยกล้องของ Instagram หรือจะนำวิดีโอที่เก็บไว้ในเครื่องมาตัดต่อก็ได้เช่นกัน

Facebook บอกด้วยว่า การเปิดตัว Reels ในประเทศไทยครั้งนี้เป็นการมอบช่องทางใหม่ ๆ ให้ผู้ใช้งานชาวไทยได้สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและสะท้อนคาแรคเตอร์และความคิดสร้างสรรค์ที่ผู้ใช้งานมี อีกทั้งยังมองว่าแท็บ Reels นั้นจะทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้เจอวิดีโอดี ๆ จากผู้ใช้งานคนอื่น ๆ และครีเอเตอร์บน Instagram ด้วย

“ดนตรี” อนาคตความบันเทิงของ Facebook

นอกเหนือจากการเปิดตัว Reels บน Instagram แล้ว Facebook ยังมองว่าดนตรีจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางของการสร้างชุมชน และการทำให้ผู้คนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น  ทำให้การเปิดตัว Reels ครั้งนี้มีการจัดเต็มด้านฟีเจอร์เพลงบน Facebook และ Instagram ประกอบด้วย

  • คลังเพลงถูกลิขสิทธิ์ที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์เนื้อหาไปพร้อมกับเพลงโดยไม่ถูกแบน
  • สติกเกอร์เพลงบน Facebook Stories และ Instagram Stories
  • สติกเกอร์เนื้อเพลงบน Facebook Stories และ Instagram Stories
  • การใส่เพลงบนโปรไฟล์ Facebook เป็นการเข้าไปปักหมุดเพลงไว้ที่ด้านบนของโปรไฟล์ ปัจจุบันทำได้เฉพาะในโทรศัพท์มือถือเท่านั้น และใช้ได้กับโปรไฟล์ใน Facebook ส่วนในเพจยังทำไม่ได้ โดยเพลงที่เลือกมานั้นจะเล่นได้นานสูงสุด 90 วินาที (ทำงานร่วมกับ Spotify และ Apple Music)

ทั้งนี้ การเปิดตัวฟีเจอร์ด้านดนตรีในประเทศไทยเกิดขึ้นได้ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลาย รวมถึงบริษัท ลิขสิทธิ์ดนตรี (ประเทศไทย) จำกัด โดยคุณณฐพล ศรีจอมขวัญ ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า “ในยุคปัจจุบัน คนปรับเปลี่ยนวิธีการฟังเพลงและใช้งานดนตรีด้วยรูปแบบใหม่ ๆ ตลอดเวลา สำหรับฟีเจอร์เพลงของ Facebook และ Instagram ที่เปิดตัวใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ที่ชอบดนตรีได้สัมผัสผลงานและรู้จักอุตสาหกรรมดนตรีในมิติใหม่ ๆ มากขึ้น อีกทั้งยังเข้าถึงดนตรีได้ง่ายขึ้นในชีวิตประจำวัน”

ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือการท้าชนกันตรง ๆ ของ Facebook กับ TikTok ซึ่งข้อได้เปรียบของ Facebook – Instagram อาจมีมากกว่าตรงที่ผู้ใช้งานในไทยมีความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มมานาน แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ นี่อาจเป็นไม่กี่ครั้งที่ Facebook ใส่เครื่องมือในการทำคลิปลงมาให้ในแพลตฟอร์ม แถมยังลงทุนเรื่องเพลงเพื่อให้ผู้ใช้งานเอาไปใส่ในคลิปกันอีกด้วย ความท้าทายหลังจากนี้จึงอยู่ที่ว่า เครื่องมือที่ Facebook เตรียมมาให้นั้น จะสามารถครองใจผู้ใช้งานคนไทยได้มากน้อยแค่ไหน และจะส่งผลอย่างไรต่อ TikTok แพลตฟอร์มซึ่งครั้งหนึ่งเคยเกือบเอาชนะ Facebook ในสหรัฐอเมริกามาได้แล้วนั่นเอง


แชร์ :

You may also like