HomeBrand Move !!“KFC” เตรียมใช้ “3D Bioprinting” ผลิตเนื้อแห่งอนาคต! หรือจะเป็นเทรนด์ใหม่ธุรกิจร้านอาหาร ?

“KFC” เตรียมใช้ “3D Bioprinting” ผลิตเนื้อแห่งอนาคต! หรือจะเป็นเทรนด์ใหม่ธุรกิจร้านอาหาร ?

แชร์ :

KFC-3D Bioprinting

หลังจากก่อนหน้านี้ “KFC” เปิดตัวเมนู “เนื้อทางเลือกทำจากพืช” (Plant-based Meat) โดยใช้วัตถุดิบของ “Beyond Meat” หนึ่งในผู้ผลิตวัตถุดิบเนื้อสัตว์ทำจากพืชรายใหญ่ ล่าสุด “KFC” ที่ประเทศรัสเซีย เตรียมต่อยอดการพัฒนา เนื้อทางเลือก ไปอีกสเต็ป ด้วยการตั้งโปรเจคคิดค้นและพัฒนา เนื้อแห่งอนาคต โดยจับมือกับบริษัทวิจัยและทดลอง “3D Bioprinting Solutions” ของรัสเซีย ในการพัฒนาเนื้อไก่ ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3D Bioprinting” (เทคโนโลยีการพิมพ์ชีวภาพ 3 มิติ)

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่จะเป็นผู้พัฒนาและผลิต นักเก็ตไก่รายแรกที่ผลิตจากห้องปฏิบัติการ โดยเนื้อไก่ที่ผลิตได้นั้นต้องมีรสชาติ รูปลักษณ์ และเนื้อสัมผัสใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ไก่ KFC ต้นตำรับให้ได้มากที่สุด ในขณะที่กระบวนการผลิตเนื้อไก่จาก 3D Bioprinting เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากกว่ากระบวนการ Supply Chain การผลิตเนื้อสัตว์ทั่วไป 

ขณะที่ขั้นตอนการพัฒนาเนื้อไก่จาก 3D Bioprinting ทาง บริษัท 3D Bioprinting Solutions” จะใช้องค์ประกอบสำคัญคือ เซลล์ไก่ และวัตถุดิบจากพืช เพื่อสร้างรสชาติ และเนื้อสัมผัสของเนื้อไก่ ส่วนทาง “KFC” จัดเตรียมส่วนผสมที่จำเป็นให้ เช่น เครื่องเทศ เพื่อให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของ KFC 

โดย KFC รัสเซีย วางแผนไว้ว่าการทดลองขั้นสุดท้ายจะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในปี 2020

ทั้งนี้เทคโนโลยี 3D Bioprinting เป็นเทคโนโลยีที่เริ่มนำมาใช้ในวงการแพทย์ ในการพิมพ์ “อวัยวะเทียม” ให้กับมนุษย์ โดยใช้เซลล์เนื้อเยื้อของผู้ป่วยคนนั้นๆ เพื่อให้ได้อวัยวะเทียม ซึ่งปัจจุบัน 3D Bioprinting เป็นทางออกของปัญหาการขาดแคลนอวัยวะปลูกถ่าย 

chicken nuggets

จับตาทำไมเนื้อทางเลือกถึงเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ผู้ผลิต และธุรกิจร้านอาหารทั่วโลกให้ความสำคัญ ? 

1. การเพิ่มขึ้นของผู้คนที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ และโภชนาการ จึงทำให้ความต้องการ “เนื้อทางเลือก” มีมากขึ้น 

2. กระบวนการผลิตเนื้อทางเลือก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผลการศึกษาของ American Environmental Science & Technology Journal รายงานว่าเทคโนโลยีการผลิตเนื้อสัตว์จากเซลล์ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย เนื่องจากลดการใช้พลังงานลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง, ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 25 เท่า และใช้พื้นที่น้อยกว่าการทำฟาร์มปศุสัตว์แบบดั้งเดิม 

3. ผลิตภัณฑ์ Biomeat ด้วยกระบวนการ 3D Bioprinting เนื้อสัตว์ที่ได้ ไม่มีสารเติมแต่งใดๆ อย่างที่ใช้กันในฟาร์มแบบดั้งเดิม

4. เพื่อสวัสดิภาพของสัตว์ (Animal Welfare) ถึงแม้จะเป็นสัตว์เศรษฐกิจ ที่เลี้ยงเพื่อการบริโภคก็ตาม แต่ปัจจุบันในหลายประเทศทั่วโลก ตระหนักต่อปัญหาการเลี้ยงที่ฝืนธรรมชาติของสัตว์ ซึ่งเป็นการทรมานสัตว์ เพื่อให้ได้ผลผลิตจำนวนมาก  

5. แก้ปัญหา “Supply Shortage” คือ ความต้องการอาหารจะเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่การผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ 

SCB EIC เคยรายงานว่า องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations: FAO) คาดว่า ความต้องการเนื้อสัตว์เพื่อบริโภคทั้งโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 73% จากปี 2005 ถึง 2050 จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรกว่า 49% หรือคิดเป็น 9,777 ล้านคนในปี 2050 จาก 6,542 ล้านคนในปี 2005 

โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของประชากรในประเทศรายได้ปานกลางเป็นหลัก ทำให้ต้องใช้พื้นที่และทรัพยากรเพื่อทำฟาร์มปศุสัตว์อีกกว่าเท่าตัว เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว

หากใช้วิธีการผลิตเนื้อสัตว์ที่ทำอย่างในปัจจุบัน ย่อมไม่มีพื้นที่เพียงพอในการเลี้ยงสัตว์ เพราะในปัจจุบันพื้นที่เลี้ยงสัตว์ขนาดถึง 70% ของพื้นที่เกษตรทั้งหมดแล้ว 

ประกอบกับโรคระบาดในสัตว์อาจทำให้จำนวนสัตว์ลดลงด้วย โดยการระบาดของโรคไข้หวัดนกในเอเชียทำให้สัตว์ต้องตายปีละกว่าหลายล้านตัว ด้วยสาเหตุดังกล่าว ทำให้ปริมาณเนื้อสัตว์ที่ผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคในอนาคต

KFC

“KFC เราติดตามเทรนด์ และนวัตกรรมล่าสุด เพื่อนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้กับเครือข่ายธุรกิจร้าน KFC และการผลิตเนื้อสัตว์จาก 3D Bioprinting ครั้งนี้เป็นก้าวต่อไปของการพัฒนาร้านอาหารแห่งอนาคต 

เรามองว่าการทดลองนำเทคโนโลยี 3D Bioprinting มาผลิตผลิตภัณฑ์ไก่ของ KFC สามารถช่วยแก้ปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในหลายด้าน ซึ่งพวกเรายินดีที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา และดำเนินการเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในรัสเซีย 

และถ้าเป็นไปได้ เราหวังอย่างยิ่งว่าการพัฒนาเนื้อสัตว์จาก 3D Bioprinting นี้จะตอบโจทย์คนทั่วโลกได้ด้วยเช่นกัน” Raisa Polyakova ผู้จัดการทั่วไปของ KFC Russia & CIS. กล่าวถึงเป้าประสงค์การริเริ่มโปรเจค 

ทางด้าน Yusef Khesuani ผู้ร่วมก่อตั้ง และหุ้นส่วนผู้จัดการ, 3D Bioprinting Solutions ขยายความเพิ่มเติมว่า เทคโนโลยี 3D Bioprinting เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์ และขณะนี้กำลังได้รับความนิยมในการผลิตอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ซึ่งในอนาคตการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี 3D Printing จะทำให้มีการผลิตเนื้อจากเทคโนโลยีนี้ได้มากขึ้น 

เราหวังว่าการพัฒนาเทคโนโลยีจากความร่วมมือกับ “KFC” จะช่วยเร่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่ทำจากเซลล์ของสัตว์ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น 

 

Credit Photo : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand

Source 

Source


แชร์ :

You may also like