HomeBrand Move !!เจาะเทรนด์การใช้เงินผู้บริโภคยุคฝ่า Covid-19 “จ่ายออนไลน์เพิ่ม ซื้อเติมสิ่งจำเป็น มีเงินเย็นต้องลงทุน”

เจาะเทรนด์การใช้เงินผู้บริโภคยุคฝ่า Covid-19 “จ่ายออนไลน์เพิ่ม ซื้อเติมสิ่งจำเป็น มีเงินเย็นต้องลงทุน”

แชร์ :

หลังจากผ่านมรสุมการปิดเมือง จนเข้าสู่ระยะผ่อนคลาย เชื่อว่าหลายธุรกิจอาจเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภคจากวิกฤติ Covid-19 ที่ชัดเจนมากขึ้น โดยหนึ่งในข้อมูลที่ยืนยันถึงความเปลี่ยนแปลงนี้มาจากฝ่าย Data Intelligence & Customer Insights (DICI) ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ที่มีการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อในเครือของบริษัท ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนเมษายน 2020

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

โดยสิ่งที่ข้อมูลดังกล่าวพบก็คือ ผู้คนในยุค New Normal มีการเดินทางออกนอกบ้านน้อยลง และหันมารับชมความบันเทิงต่าง ๆ ผ่านทางออนไลน์ รวมถึงเริ่มคุ้นเคยกับไลฟ์สไตล์ดิจิทัล เช่น สั่งอาหาร และช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น

DICI ยังพบด้วยว่า ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของบริษัทมีการปรับตัวลดลง 37% ในเดือนเมษายน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จากข้อมูลชี้ให้เห็นว่า ยังคงมีความต้องการซื้อในตลาด เพียงแต่เปลี่ยนหมวดการใช้จ่ายไปอยู่ในกลุ่มบริการส่งอาหาร ช้อปปิ้งออนไลน์ สินค้าไอที และซูเปอร์มาร์เก็ต แทน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้คนในช่วงล็อกดาวน์นั่นเอง

โดยฝ่าย DICI ชี้ว่ามี 5 เทรนด์พฤติกรรมการใช้จ่ายหลัง COVID-19 ของผู้บริโภคที่แบรนด์ควรทราบกัน นั่นคือ

1. ทุกวัยหันมาใช้จ่ายออนไลน์

จากข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตร ชี้ให้เห็นว่าช่วงมีนาคม – เมษายน 2020 จำนวนผู้ใช้บัตรเครดิตที่ทำรายการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เฉลี่ยต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นถึง 37% โดยในจำนวนนี้ 10% เป็นผู้ใช้รายใหม่

DICI ยังพบว่า คนทุกวัยมีแนวโน้มใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น แม้ว่ากลุ่มผู้ใช้ที่มีจำนวนมากที่สุดจะเป็นกลุ่ม Gen Y แต่กลุ่ม Baby Boomers ก็ปรับตัวมาใช้ช่องทางดิจิทัลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหมวดบริการส่งอาหาร และการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยพบว่ากลุ่ม Baby Boomer มีจำนวนครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในบางแพลทฟอร์มเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า แสดงให้เห็นว่า ชีวิตวิถีใหม่เป็นตัวเร่งให้สังคมไทยก้าวสู่ยุคสังคมไร้เงินสด

2. ช้อปปิ้งออนไลน์ บริการส่งอาหาร เติบโตก้าวกระโดด

จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสทำให้ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ไม่สามารถเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบนั้น ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มปรับตัวกับวิถีชีวิตแบบใหม่อย่างการสั่งอาหาร ช้อปปิ้งผ่านทางออนไลน์ เห็นได้จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรในหมวดดังกล่าวในช่วงเดือนมีนาคม และเมษายน 2020 ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยหมวดช้อปปิ้งออนไลน์มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น 46% ในเดือนมีนาคม และ 75% ในเดือนเมษายน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนบริการส่งอาหาร มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรในเดือนมีนาคมและเมษายนเพิ่มขึ้น ถึง 300% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ช่วงเวลาการสั่งอาหารก่อนเที่ยงมีการเติบโตขึ้นมากจากก่อนหน้าช่วง Covid-19 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นการหลีกเลี่ยงการกระจุกตัวของคำสั่งซื้อในช่วงเที่ยงถึงบ่ายโมง

นอกจากนั้น DICI ยังพบว่า 92% ของลูกค้ามักใช้ผู้ให้บริการเพียงรายเดียว มากกว่าจะเปลี่ยนผู้ให้บริการไปมา ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแบรนด์ผู้ให้บริการที่ควรเร่งสร้าง brand loyalty ในหมู่ลูกค้าด้วย

3. เทคโนโลยีจำเป็นในการเว้นระยะห่างทางสังคม

จากข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตร พบว่า หมวดอุปกรณ์ไอทีมียอดใช้จ่ายสูงขึ้น ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ก่อนที่จะเริ่มลดลงในเดือนเมษายน เนื่องจากนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม ส่งผลให้หลายบริษัทให้พนักงาน Work from Home โดยกลุ่มที่มียอดใช้จ่ายในหมวดนี้สูงสุด คือ กลุ่ม Gen Y

นอกจากนี้ การใช้จ่ายในหมวดความบันเทิงออนไลน์ เช่น บริการสตรีมมิ่ง เกมออนไลน์ โซเชียลมีเดียในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2563 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เทียบกับค่าเฉลี่ยยอดใช้จ่ายในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

4. เน้นใช้จ่ายในสิ่งจำเป็น “หมวดซูเปอร์มาร์เก็ต” เติบโตต่อเนื่อง

วิกฤติที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้จ่ายในหมวดสินค้าฟุ่มเฟือยลดลง แต่หันมาใช้จ่ายในหมวดสินค้าจำเป็นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหมวดซูเปอร์มาร์เก็ต

ทั้งนี้ หมวดที่ได้รับผลกระทบ คือ หมวดสายการบิน หมวดโรงแรมและหมวดท่องเที่ยว ซึ่งยอดใช้จ่ายผ่านบัตรลดลงถึง 100%, 89% และ 66% ตามลำดับในเดือนเมษายน 2563 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนหมวดร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า รวมถึงสินค้าแฟชั่น ลดลง 85%, 72% และ 77% ตามลำดับ

ในทางตรงกันข้าม หมวดซูเปอร์มาร์เก็ต ในเดือนมีนาคม เติบโตถึง 34% และมียอดใช้จ่ายรายวันเฉลี่ยเติบโตถึงสองเท่า เทียบกับยอดเมื่อปีที่ผ่านมา

สำหรับพฤติกรรมการซื้อเห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนไป โดยลูกค้าจำนวนมาก ใช้จ่ายในหมวดนี้ “ก่อนเที่ยง” โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และมีจำนวนการใช้จ่ายลดลงหลังสองทุ่ม ยอดใช้จ่ายต่อครั้ง เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ราว 15% ในเดือนมีนาคม และมีการซื้อจำนวนมากในช่วงสัปดาห์ที่สามของเดือนมีนาคม เนื่องจากประชาชนส่วนหนึ่งซื้อเพื่อกักตุนสินค้า ก่อนจะลดลงในเดือนเมษายน โดยยอดใช้จ่ายในหมวดนี้ในเดือนเมษายนเติบโต 2% และมียอดใช้จ่ายรายวัน ใกล้เคียงกับยอดใช้จ่ายรายวันของปีที่ผ่านมา

5. สนใจการออมและความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น

เทรนด์สุดท้ายที่ DICI พบก็คือ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในหมวดกองทุนรวมเพิ่มขึ้น 196% ในเดือนมีนาคม และ 157% ในเดือนเมษายน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้เพื่อซื้อกองทุน SSF และยอดใช้จ่ายเพื่อชำระเบี้ยประกันกรมธรรม์ควบการลงทุน แสดงให้เห็นว่า กลุ่มผู้บริโภคที่ยังมีกำลังซื้อ หันมาให้ความสำคัญกับการออม และการลงทุน เพื่อความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น

จากเทรนด์ทั้งหมดที่กล่าวมา คุณฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้ทัศนะต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า ธุรกิจต่าง ๆ ควรเร่งปรับกลยุทธ์ โดยหันมาให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อจะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ หรือโปรโมชั่นที่เหมาะกับชีวิตวิถีใหม่ของลูกค้า เช่น โปรโมชั่นที่เกี่ยวกับการช้อปปิ้งออนไลน์ บริการส่งอาหาร สินค้าไอที ความบันเทิงออนไลน์ ฯลฯ ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ในเวลาที่ทันท่วงที เพื่อให้ยังคงสามารถครองใจลูกค้าได้แม้ในภาวะวิกฤตินั่นเอง


แชร์ :

You may also like