HomeBig Featuredแกร็บพร้อมบุก “สุวรรณภูมิ” ดีเดย์ 28 มี.ค. ชูกลยุทธ์ 4A จับตลาด นทท.ต่างชาติ

แกร็บพร้อมบุก “สุวรรณภูมิ” ดีเดย์ 28 มี.ค. ชูกลยุทธ์ 4A จับตลาด นทท.ต่างชาติ

แชร์ :

แกร็บเตรียมบุกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดีเดย์ 28 มีนาคม 2024 โดยจะเป็นจุดรับผู้โดยสารแยกออกมาจากแท็กซี่ทั่วไป และจะมีการแบ่งรายได้ให้กับการท่าฯ ด้วย ด้านผู้บริหารแกร็บคาดเป็นตัวช่วยเพิ่มประสบการณ์เชิงบวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังพบว่า มียอดจองของลูกค้ากลุ่มดังกล่าวจากสนามบินเพิ่มขึ้นสองเท่าในปี 2023 ที่ผ่านมา

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

การประกาศบุกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของแพลตฟอร์มเรียกรถยักษ์ใหญ่มีขึ้นในการแถลงข่าวแผนธุรกิจประจำปี 2024 ของบริษัท โดยคุณวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยถึงการรุกไปให้บริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า มาจากกลยุทธ์ของแกร็บที่จะโฟกัสการเติบโตไปที่ 4A ซึ่งประกอบด้วย การมุ่งรักษาลูกค้าหลัก (Active Users ได้แก่ นักท่องเที่ยวต่างชาติ สมาชิกแพ็กเกจ GrabUnlimited และสมาชิกแบบรายปี) การทำให้ราคาบนแพลตฟอร์มจับต้องได้ (Affordability) การใช้ AI Technology เข้ามาเสริมการบริการ และการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ตลอดจนธุรกิจโฆษณา (Ads & New Services) โดยการส่งรถจากแกร็บเข้าไปรับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อรักษาลูกค้าหลักของแพลตฟอร์มนั่นเอง (ก่อนหน้านี้ แกร็บได้มีการนำรถของทางค่ายไปรับผู้โดยสารในสนามบินต่าง ๆ มาแล้วมากมาย เช่น สนามบินภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย)

ยอดเรียกรถ นทท.ต่างชาติโต 139%

คุณวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย

เหตุที่กล่าวเช่นนั้น เพราะปัจจุบัน แกร็บมีตัวเลขการเรียกรถจากนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2023 เติบโตขึ้น 139% เมื่อเทียบกับปี 2022 นอกจากนั้น อัตราการเรียกรถจากสนามบินบนแพลตฟอร์มของแกร็บก็เพิ่มขึ้นสองเท่าตัวด้วยเช่นกัน

คุณวรฉัตรยังได้กล่าวถึงความสำเร็จในปีที่ผ่านมาของแกร็บด้วย โดยมีจุดน่าสนใจดังนี้

บริการเรียกรถ

  • ช่วยผู้ใช้งานที่สมัคร GrabUnlimited ประหยัดเงินได้ 4 พันล้านบาท เช่น การไม่คิดค่าส่งสินค้า
  • รายได้ของพาร์ทเนอร์ผู้ขับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10%
  • บริการพรีเมียม (รถระดับบนที่นำเข้ามาให้บริการในแพลตฟอร์ม) เติบโตสองเท่า เนื่องจากนักท่องเที่ยวชอบ และราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่มีให้บริการ

บริการดิลิเวอรี

  • มีร้านขนาดเล็กสมัครเข้ามาในแกร็บเพิ่มขึ้น 32%
  • Average Order Value หรือการใช้จ่ายต่อหนึ่งออเดอร์ เติบโต 17% เมื่อเทียบกับปี 2020
  • ลดการใช้ช้อนส้อมพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งลงได้ 300 ล้านชุดในเขตกรุงเทพฯ

บริการทางการเงิน

  • มีการให้สินเชื่อแก่ร้านค้า – พาร์ทเนอร์คนขับไปแล้วกว่า 100,000 ราย
  • มีการขยายวงเงินการให้สินเชื่อ 500,000 บาทกับร้านค้าในแพลตฟอร์ม และอาจขยายไปถึงหลักล้านในปีนี้
  • จับมือกับ alipay และ kakaopay ทำให้นักท่องเที่ยวจีน และนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้สามารถจ่ายเงินได้อย่างสะดวกมากขึ้น รวมถึงมีการจับมือกับธนาคารกรุงไทย รองรับการจ่ายผ่าน Krungthai Next สำหรับการใช้งานในต่างจังหวัด เป็นต้น

บริการ GrabAds

  • อัตรา Click through Rate บน GrabAds สูงกว่าค่าเฉลี่ยของแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในประเทศไทย 3 – 5 เท่า
  • ปัจจุบัน GrabAds มีลูกค้าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ใช้บริการเพิ่มขึ้น เช่น Apple, Coca-Cola, Xiaomi, Volvo, SCB

คาดปี 2023 – 2025 ตลาดโต 15%

สำหรับการเติบโตของแกร็บนั้น ทางบริษัทได้อ้างอิงผลการศึกษา e-conomy SEA 2023 ของ Google ร่วมกับเทมาเส็ก และ Bain Company ที่คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรม Food & Transport มีแนวโน้มเติบโต 15% ในช่วงปี 2023 -2025 โดยทางผู้บริหารแกร็บ ระบุว่า ทางบริษัทจะใช้กลยุทธ์ 4A ในการสร้างการเติบโต ประกอบด้วย

  • Active Users โดยมาจาก 3 ช่องทางคือ นักท่องเที่ยวต่างชาติ Grab unlimited subscribers และลูกค้าคุณภาพที่ใช้บริการเป็นประจำ (quality customers)
  • Affordability การทำให้ราคาบนแพลตฟอร์มจับต้องได้ เช่น การเปิดตัว GrabCar SAVER สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ขนาดเล็กในราคาประหยัดลงสูงสุดถึง 15% (เมื่อเทียบกับบริการ GrabCar) และบริการ “GrabBike SAVER” สำหรับการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ในระยะทางไม่เกิน 4 กิโลเมตรในราคาเริ่มต้น 26 บาท
  • AI Technology การนำ AI มาสร้างประสบการณ์การใช้งานบนแอปให้ดีขึ้น เช่น แปลที่อยู่ แปลเมนูอาหาร โดยปัจจุบันสามารถช่วยร้านค้าแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีนได้แล้ว และมีการพัฒนา GrabGPT เพื่อใช้ในการทำคอนเทนต์หรืองานออกแบบภายในองค์กร เป็นต้น
  • Ads & New Services ในปีนี้ แกร็บเตรียมขยายบริการ GrabAds ไปสู่ Self-serve Ads หรือเครื่องมือในการโฆษณาสำหรับพาร์ทเนอร์ร้านค้าที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กสามารถแนะนำโปรโมชันกับลูกค้าได้ด้วยตัวเอง

ส่วนบริการใหม่ ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ ผู้บริหารแกร็บเผยว่า จะมีทั้งการจับมือกับซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ขายอาหารสด ที่สามารถชั่งน้ำหนักเป็นกิโลกรัมได้ การผลักดันให้พาร์ทเนอร์คนขับผู้หญิงเติบโตขึ้น ตลอดจนการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการสนับสนุนรถ EV บนแพลตฟอร์มที่เคยระบุว่าจะทำให้ได้ 10% ในปี 2026 ซึ่งแกร็บคาดว่าจะทำได้เร็วกว่าที่เคยกล่าวไว้ด้วย

ไม่สนใจเวอร์ชวลแบงค์?

สำหรับการยื่นขอใบอนุญาตเวอร์ชวลแบงค์ หรือธนาคารไร้สาขาที่กำลังเป็นกระแสอย่างมากในเวลานี้ ในมุมของแกร็บ คุณวรฉัตรเผยว่า แกร็บยังไม่มีความสนใจ อีกทั้งธนาคารไทยมีความแข็งแกร่งมาก จึงมองว่า การเข้าสู่สมรภูมิของเวอร์ชวลแบงค์อาจยังไม่ใช่แนวทางสำหรับแกร็บในเวลานี้

 


แชร์ :

You may also like