เมื่อตลาดเครื่องดื่มเริ่มอิ่มตัวและพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วแถมมีทางเลือกมากขึ้น ผู้ประกอบการและผู้ผลิตต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเครื่องดื่มที่มีมูลค่าสูงและคู่แข่งอยู่จำนวนมากต่างพากันปรับกลยุทธ์ที่จะผลักดันสินค้าเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นเครื่องดื่มใหม่ๆ ออกมาเพิ่มในท้องตลาดให้เราหยิบเลือกมากขึ้น แต่เครื่องดื่มแบบไหนกันแน่ที่จะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้จริงๆ สิ่งเหล่านี้เป็นโจทย์ที่ทำให้ผู้ผลิตต้องทำความเข้าใจพฤติกรรม รสนิยม และความต้องการที่หลากหลายผ่านการเลือกซื้อสินค้าเครื่องดื่มที่เปลี่ยนแปลงไปในอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน
เครื่องดื่มหวานน้อยยังคงมาแรง
กระแสรักสุขภาพ หรือ Healthy Trend ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย เป็นหนึ่งในกระแสที่ทำให้ผู้ผลิตในไทยต่างพากันปรับตัวเพื่อตอบโจทย์รับกระแสนี้ ผู้ผลิตจำนวนมากต่างทำการออกสินค้าใหม่ ปรับสูตรเพื่อลดความหวาน หรือเปลี่ยนมาใช้ส่วนผสมทดแทนน้ำตาล ซึ่งเมื่อผนวกกับเรื่องของต้นทุนของผู้ผลิตที่จะสูงขึ้นจากการจัดเก็บภาษีน้ำตาลที่มากขึ้นตามมาตรการของรัฐ ทำให้เทรนด์การออกสินค้าเหล่านี้เด่นชัดยิ่งขึ้น
เมื่อมองในมุมของผู้บริโภคแล้ว จากข้อมูลวิจัยของ Kantar Worldpanel (คันทาร์ เวิร์ลพาแนล) แม้ว่าสัดส่วนของปริมาณเครื่องดื่มหวานน้อยที่คนไทยจับจ่ายและซื้อเข้าบ้านในปัจจุบันนั้นจะยังมีสัดส่วนเพียงประมาณ 3.8% ของปริมาณเครื่องดื่มทั้งหมดในตลาด แต่ว่าสัดส่วนนี้กลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแง่ของปริมาณที่ถูกขายออกไปทั้งหมดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และถ้าพูดถึงจำนวนคนแล้ว ถือว่ามีจำนวนกว่าครึ่งของครัวเรือนไทยทั้งหมด หรือประมาณ 13 ล้านครัวเรือนที่เคยซื้อเครื่องดื่มหวานน้อยอย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นอีกกว่า 6 แสนครัวเรือนในปีนี้ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมากและสามารถช่วยยืนยันถึงการเข้าถึงและชื่นชอบของสินค้าประเภทนี้จากผู้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคโดยทั่วไปที่มากขึ้นจริงๆ
นอกจากมีคนเข้าถึงที่สูงขึ้นแล้ว จำนวนครั้งที่ซื้อยังเฉลี่ยเพิ่มขึ้น…
จากการศึกษาพฤติกรรมของผู้ซื้อเชิงลึกพบว่า สินค้ากลุ่มที่เป็นเครื่องดื่มหวานน้อยหรือไม่หวาน ผู้ซื้อสินค้ายังมีแนวโน้มซื้อสินค้าในกลุ่มนี้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 5.1 ครั้งต่อปี เมื่อรวมกับการที่มีผู้คนซื้อมากขึ้นแล้ว เทรนด์กระแสสุขภาพเกี่ยวกับสินค้าเครื่องดื่มหวานน้อยหรือไม่หวานนี้จึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ผลิตต่างๆ ในประเทศไทยในปัจจุบันในการออกสินค้าประเภทเดียวกันนี้มากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องดื่มประเภทนมถั่วเหลือง นมเปรี้ยว น้ำอัดลม เครื่องดื่มชอกโกแลตมอลต์ หรือแม้กระทั่ง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่เป็นสินค้านำร่องของกระแสเครื่องดื่มหวานน้อยหรือไม่หวานนี้
เครื่องดื่มมีคุณประโยชน์ยังถูกเลือกซื้ออย่างต่อเนื่อง
เครื่องดื่มที่มีคุณประโยชน์สูง หรือ Value Added Beverage ที่หลักๆ แล้วมักจะพบในกลุ่มสินค้าที่มีส่วนผสมของนม เป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่มีความสำคัญมากขึ้นในตลาด เรามักจะพบว่าช่วงหลังมานี้ นอกจากสินค้าเครื่องดื่มประเภทหวานน้อยหรือไม่หวานแล้ว ผู้ผลิตบางส่วนได้ให้ความสำคัญกับเครื่องดื่มที่มีการเน้นย้ำเรื่องของคุณประโยชน์มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพ ซึ่งจะเห็นได้จากข้อมูลในตลาดว่า กลุ่มสินค้าหลักๆ อย่างกลุ่มสินค้าที่มีส่วนผสมของนมที่ปกติจะเน้นย้ำเรื่องคุณประโยชน์ ได้มีความสำคัญมากขึ้นในตลาดกว่าแต่ก่อนมาก ปัจจุบันกว่า 1 ใน 5 ของปริมาณเครื่องดื่มทั้งหมดที่ถูกซื้อ ได้มาจากสินค้าที่เน้นย้ำเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยที่สาเหตุมาจากการที่ในช่วงหลังมานี้ผู้บริโภคได้เข้ามาลองหรือทำการเพิ่มสินค้าประเภทนี้ลงไปในตะกร้าของตนกันมากขึ้น อีกทั้งยังมีผู้ซื้อบางส่วนที่ปกติซื้อสินค้าประเภทนี้อยู่แล้ว ได้ซื้อเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
หากกล่าวเฉพาะเจาะจงถึงประเภทของเครื่องดื่มมีคุณประโยชน์ เครื่องดื่มอย่างนมถั่วเหลืองเป็นสินค้าที่โดดเด่นในเรื่องของการให้ความสำคัญเกี่ยวกับคุณประโยชน์มาก เรามักจะพบเห็นแบรนด์อย่าง ดีน่า ออกมาพูดถึงคุณประโยชน์ที่ผู้ดื่มจะได้รับมากขึ้น หรือถ้าดูจากเครื่องดื่มประเภทอื่น นอกเหนือกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนม ก็จะเห็นเครื่องดื่มอย่างแบรนด์ กู้ดมู้ด ยันฮี หรือแบรนด์ วิต-ซี ที่ช่วงหลังออกมาเน้นย้ำเกี่ยวกับคุณประโยชน์ที่คนดื่มจะได้รับ และมีการวางจุดยืนของแบรนด์ในตลาดได้อย่างน่าสนใจ สามารถดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามาลองและเติบโตตามกระแสของผู้บริโภคในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี
จากทั้งหมดนี้ เราจึงเห็นได้ว่า กลุ่มเครื่องดื่ม 2 ประเภทนี้แหละ เป็นกลุ่มเครื่องดื่มที่กำลังมาแรงและน่าสนใจสำหรับผู้ผลิตเครื่องดื่มในประเทศไทยในปัจจุบัน