Audi

ความวุ่นวายรอบใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น หลังมีแบรนด์ยักษ์ใหญ่จำนวนมากออกมาประกาศยุติการลงโฆษณาบนทวิตเตอร์ (Twitter) แล้วเป็นการชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า ขอรอดูความเปลี่ยนแปลงของสื่อโซเชียลมีเดียรายนี้ก่อนว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปภายใต้การกุมบังเหียนของอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ด้านพนักงานที่ถูกเลย์ออฟเตรียมฟ้องร้องบริษัทครั้งใหญ่แล้วเช่นกัน

ต้องบอกว่า ปีนี้เป็นอีกปีที่ “ยากลำบาก” สำหรับธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ เพราะนอกจากต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาจนทำให้ยอดขายรถยนต์ปี 2562 อยู่ที่ 1.07 ล้านคัน ลดลง 3.3% แล้ว ยังต้องรับศึกหนักจากพิษร้ายของโควิด-19 ส่งผลให้ภาพรวมตลาดรถยนต์ยิ่งซึมหนัก โดยมีการประเมินว่าหากสถานการณ์แย่สุด ยอดขายรถยนต์ปีนี้อาจลดลงเหลือเพียง 570,000 คัน และอาจต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี กว่ายอดขายรถยนต์จะกลับมาจุดเดิม หรือมียอดขาย 1 ล้านคัน การปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับสภาพตลาดในบริบทใหม่จึงเป็นสิ่งที่ดีลเลอร์รถยนต์ต้องทำอย่างเร่งด่วน เพราะหากปรับตัวได้เร็ว โอกาสที่จะประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติก็มีมากเช่นกัน ลองมาฟังบทวิเคราะห์แนวทางการปรับตัวที่น่าสนใจจากศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย …

หากเอ่ยชื่อบริษัทเทคโนโลยีด้านแผนที่อายุ 30 กว่าปีที่ชื่อ HERE กันตอนนี้ อาจทำให้บางคนเกาหัวแกรก ๆ ว่าเขาเป็นใคร อยู่มาได้อย่างไรโดยที่ไม่ค่อยมีตัวตนในตลาดไทย และตลาด APAC มากนัก แต่ถ้าใครยังพอย้อนอดีตไหว คงพอจำได้ว่า ชื่อของ HERE เคยเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีด้านแผนที่ที่ Nokia พัฒนาขึ้นหวังใช้เป็นอาวุธสำคัญของธุรกิจในการบุกตลาดต่อไป

หลังจากเป็นพาร์ทเนอร์ในภาพยนตร์ Spider-Man มานาน ครั้งนี้เนื่องในโอกาสที่ Spider-Man: Far From Home กำลังจะเข้าฉายเร็วๆ นี้ รถยนต์ Audi จึงส่งโฆษณาเรื่องใหม่ เล่าผ่านชีวิตนักเรียนไฮสคูลของ Peter Parker

เป็นไอเดียดิจิทัลที่ภาษาวงการเอเจนซี่ต้องบอกว่า “ไอเดียกลม” จริงๆ เมื่อค่ายรถยนต์อย่าง Audi เป็นห่วงเป็นใยลูกค้าหรือว่าที่ลูกค้า ด้วยการกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการ “ไม่เล่น” โทรศัพท์ขณะขับรถ จึงทำเว็บไซต์ซึ่งติดตั้ง Script เอาไว้เมื่อคุณขับรถจะไม่สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลในเว็บไซต์ได้ แถมยังขึ้นข้อความเตือนไว้อีก

Audi สุดแสบ ตั้งชื่อ Wi-Fi เกทับ BMW ในงาน New York Auto Show เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อโปรโมทรถยนต์รุ่น A4 ของ Audi แต่อีกนัยหนึ่งก็โจมตี BMW รุ่น 328i 

Fifty Shades of Grey ภาพยนตร์ที่มาแรงที่สุดในชั่วโมงนี้ด้านกระแสความร้อนแรงจากฉากอีโรติค แน่นอนว่าเมื่อภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีของโลกแบบนี้เข้าโรงภาพยนตร์ในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ทำให้หลากหลายแบรนด์ต่างก็เข้ามาเกาะกระแสของหนังเรื่องนี้ จะมีอะไรบ้างไปลองดูกัน

  จะเกิดอะไรขึ้นหากแบรนด์ที่เป็นไม้เื่บื่อไม้เมา หรือ เป็นแบรนด์ฝั่งตรงกันข้าม  จะมาอยู่รวมกันเป็นหนึ่งเ้ดียวผ่านทางโลโก้  Graham Smith  นักออกแบบโลโก้ (@imjustcreative)  ได้นำโลโก้ของแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งทางธุรกิจมาอยู่รวมกันเป็นโลโก้ใหม่ในชื่อโปรเจคว่า “Brand Reversions”