ไฟเซอร์

มุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมด้านอายุรแพทย์, การป้องกันการติดเชื้อ, ประสาทวิทยา, ยามะเร็ง และการป้องกันโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบสาธารณสุขไทย

นิตยสารฟอร์บส์ได้เปิดเผยรายชื่อบริษัทที่ติดอันดับนายจ้างยอดเยี่ยมของโลกประจำปี 2024 และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ไฟเซอร์ได้รับการยกย่อง โดยในปีนี้ไฟเซอร์ได้รับการจัดอันดับที่ #34 โดยรวม และในอันดับ #1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมยาและเทคโนโลยีชีวภาพ Forbes World’s Best Employers 2024 – Best Companies To Work For Worldwide

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั่วโลกต่างต้องเผชิญกับความยากลำบากจากสถานการณ์โควิด-19 แต่เราก็ร่วมกันต่อสู้ฟันฝ่ามาได้ในที่สุด ทำให้ความรู้สึกและมุมมองเกี่ยวกับคนสำคัญที่น่ายกย่องที่มาช่วยกอบกู้สถานการณ์หรือต่อสู้รับมือกับเหล่าร้ายที่เรียกกันแบบสากลว่า “ฮีโร่” นั้นเปลี่ยนไป เพราะคนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงแต่บรรดาเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ ผู้มีพลังและอาวุธพิเศษในภาพยนตร์ The Marvels แต่เราต่างรู้กันดีว่า “ฮีโร่” ตัวจริงเมื่อเกิดโรคระบาดโควิด -19 ก็คือพวกเราทุกคนที่เป็นคนธรรมดาที่ได้รวมพลังร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฯ อย่างเคร่งครัด

สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ร่วมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 (ไฟเซอร์) ฟรี!  อายุ 12 ปีขึ้นไป ทุกสัญชาติ ระหว่างวันที่ 27-29 ธันวาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 12.00 – 20.00 น. ณ ชั้น 5 โซน Atrium ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

Albert Bourla ผู้บริหารบริษัทวัคซีนยี่ห้อดัง “ไฟเซอร์” เผยกับสื่อตะวันตกอย่าง CNBC ว่าบริษัทกำลังพัฒนาวัคซีนสำหรับโอมิครอนอยู่ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมนี้ หลังยอมรับว่าวัคซีนของบริษัทเพียงสองโดสอาจไม่เพียงพอที่จะยับยั้งไวรัสกลายพันธุ์ได้อีกต่อไป

ไม่เฉพาะธุรกิจยาสูบที่ให้ความสนใจในกัญชา แต่ตอนนี้ แม้แต่บริษัทผลิตยาก็หันมามองตลาดนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยล่าสุดคือไฟเซอร์ (Pfizer) ที่ประกาศควบกิจการ Arena Pharmaceuticals บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่มีการวิจัยและพัฒนาการรักษาโรคด้วยสารแคนนาบินอยด์ (ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้สูงในกัญชา) ด้วยการซื้อหุ้นทั้งหมดในราคาหุ้นละ 100 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นมูลค่ารวม 6,700 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย. อนุมัติวัคซีนตัวแรก “ไฟเซอร์” ฉีดเด็กอายุ 5-11 ปี ปริมาณฉีด 10 ไมโครกรัม เข้ากล้ามเนื้อ จำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 21 วัน

การประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ (27 ก.ย.2564 ) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. สรุปแผนจัดหาวัคซีนโควิด-19 ปี 2564 รวม 178.2 ล้านโดส เพิ่มขึ้นจากแผนเดิมที่จะจัดหา 125.9 ล้านโดส

สรุปตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยถึงวันที่ 10 กันยายน 2564 มีจำนวน 39.6 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 26.9 ล้านราย เข็มที่ 2 จำนวน 12 ล้านราย

หลังจากยืดเยื้อและรอคอยมานาน ในที่สุดคนไทยก็ได้รับทราบความคืบหน้าของวัคซีน mRNA ที่จะเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มเติม โดยวันนี้ (20 กรกฎาคม 2564) ทางไฟเซอร์ และไบออนเทค ได้ส่งเอกสารประชาสัมพันธ์ เพื่อประกาศว่า ได้ลงนามทำสัญญากับ “กรมควบคุมโรค” กระทรวงสาธารณสุข ของไทย เพื่อจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 20 ล้านโดส สำหรับปี 2564 โดยกำหนดการส่งมอบภายในไตรมาส 4 ปี 2564

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (6 กรกฎาคม) ได้มีมติอนุมัติลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) โดยให้อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นผู้ลงนามสัญญาจัดซื้อจำนวน 20 ล้านโดส คาดว่าวัคซีนจะเข้ามาในไตรมาส 4 ปี 2564 โดยไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของสัญญาได้ เพราะเป็นหนึ่งในข้อตกลงกับผู้ผลิต

จากกรณีที่มีบุคคลให้ข่าวทางสื่อมวลชนว่า สัญญาจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เพราะองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ยังไม่ได้เซ็นสัญญาจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นากับผู้ขาย เพราะการตรวจร่างสัญญาจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา ยังคงค้างอยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นเวลานานหลายเดือนแล้วนั้น วันนี้ (2 กรกฎาคม 2564) สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ออกหนังสือชี้แจงดังนี้ 1. ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริง เพราะไม่เคยมีหน่วยงานใด หรือองค์กรใดส่งร่างสัญญาเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา ให้กับสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาตรวจแต่อย่างใด 2. ที่ผ่านมาสำนักงานอัยการสูงสุดเคยได้รับการร้องขอจากองค์การเภสัชกรรม ให้ตรวจร่างสัญญาจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้พิจารณาตรวจร่างสัญญาให้กับองค์กรเภสัชกรรมแล้วเสร็จภายใน 1 วัน สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับการร้องขอจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมควบคุมโรคให้ตรวจร่างสัญญาจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) …

หลังจาก “หอการค้าไทย” จัดประชุมระดมความคิดเห็นกับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัทใหญ่กว่า 40 บริษัท เพื่อหาทางคลี่คลายสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ ร่วมกันวางแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของภาคเอกชน และจัดหา “วัคซีนทางเลือก” ให้เพียงพอ

หลังจากข่าวประสบความสำเร็จของ Pfizer(ไฟเซอร์) และ BioNTech(ไบโอเอ็นเทค) ที่ทำการทดลองวัคซีน Covid-19 ในระยะที่ 3 ได้ผลมากกว่า 90% รายงานข่าวจาก Financial Times ระบุว่า รัฐบาลอังกฤษ เตรียมอนุมัติวัคซีนดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ และอาจจะเริ่มใช้จริง 7 ธันวาคม

Albert Bourla ซีอีโอของ Pfizer(ไฟเซอร์) กล่าวว่า “นี่คือวันที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ” และ “เหมือนเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” หลังจากบริษัทจากยักษ์ใหญ่ ไฟเซอร์และ BioNTech พันธมิตรจากเยอรมนี ประกาศว่าวัคซีนที่กำลังทดลองอยู่ได้ผลเป็นอย่างดี 90% สามารถป้องกัน Covid-19 ในกลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยติดเชื้อมาก่อน