เปิดประเทศ

สิ้นสุดการรอคอยของนักท่องเที่ยวจีนและผู้ประกอบการการท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ประเทศจีนได้มีการผ่อนปรนมาตรการ และอนุญาตให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ต้องกลับไปกักตัว เช่นเดียวกับนักเดินทางจากต่างประเทศที่ไม่ต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวภาคบังคับ ซึ่งผลของนโยบายดังกล่าวได้ทำให้เกือบทุกเว็บไซต์และแอปท่องเที่ยวของจีนมีจำนวน traffic เพิ่มขึ้นมากกว่า 500% ภายในหนึ่งคืน และจากการสำรวจพบว่าการกลับมาครั้งนี้ นักท่องเที่ยวจีนตั้งงบประมาณสำหรับท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นถึง 32% เทียบกับช่วงก่อนโควิด และแน่นอนว่าประเทศไทยเป็นอันดับหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คนจีนอยากมามากที่สุด

นันยางผู้ผลิตรองเท้าผ้าใบยักษ์ใหญ่คาดการประกาศ “เปิดประเทศและเปิดเรียน” อย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมนี้จะมีผลให้ความต้องการชุดนักเรียน-รองเท้าเพิ่มสูง  ชี้กำลังซื้ออาจเพิ่มทะลุ 2 เท่า หลังต้องเรียนออนไลน์หนีโควิดนาน 2 ปีเต็ม

เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว นับตั้งแต่ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” มาถึงนโยบาย “เปิดประเทศ” รับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 “แอสเสท เวิรด์ คอร์ป” หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือทีซีซี กรุ๊ป ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี นำธุรกิจโรงแรม 19 แห่ง ใน 6 จังหวัดร่วมฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

หลังจาก ศบค.ได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 แต่ละพื้นที่ตามโซนสีทำอะไรได้บ้างสรุปได้ดังนี้

“แอสเสท เวิรด์” ขานรับนโยบายการเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ ลุยจัดแพ็กเกจรับนักท่องเที่ยว ส่งผลยอดจองห้องพักบางโรงแรมพุ่งกว่า 2 เท่า เสริมทัพด้วยการเปิดโรงแรมคอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA+

หลังจากรัฐบาลประกาศนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 โดยมี 46 ประเทศ สามารถเดินทางเข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว และกำหนดพื้นที่ 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว รวมทั้งให้ยกเลิกเคอร์ฟิว

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศคำสั่ง ศบค. เรื่องพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด ยกเลิกเคอร์ฟิว มีผล 5 ทุ่ม วันที่ 31 ต.ค.2564 กำหนดมาตรการป้องกันโรค ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 500 คน สถานบันเทิง ผับ บาร์ ยังให้ปิดอยู่ รอเตรียมความพร้อม

ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ชุดใหญ่วันนี้ (14 ตุลาคม) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันกำหนดการเปิดรับท่องเที่ยวต่างประเทศ จากประเทศเสี่ยงต่ำไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 รวมทั้งเตรียมมาตรการผ่อนคลายกิจการต่างๆ เพิ่มเติมในเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ โดยภาครัฐจะทำงานร่วมกับเอกชน เพื่อเตรียมการต่างๆ ให้พร้อมในช่วงเวลาที่เหลืออยู่อีก 2 สัปดาห์นี้ เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวและฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป

หลังจากนายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบาย “เปิดประเทศ ภายใน 120 วัน” ไปเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา ล่าสุดคุณวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เจ้าของกิจการโรงแรมและร้านอาหารยักษ์ใหญ่ ได้ส่งจดหมาย ชื่นชมและสนับสนุนเป้าหมายการเปิดประเทศภายใน 120 วัน ของรัฐบาล ใจความว่า