HomeDigitalเทรนด์ใหม่ของการขิง ไมโครซอฟท์ใช้ AI เขียนโค้ดแล้ว 30% แต่ Meta ยังตอบไม่ได้

เทรนด์ใหม่ของการขิง ไมโครซอฟท์ใช้ AI เขียนโค้ดแล้ว 30% แต่ Meta ยังตอบไม่ได้

แชร์ :

งานนี้มีความช็อตฟีลเบา ๆ เกิดขึ้นบนเวที เมื่อ 2 ซีอีโอจากบริษัทเทคโนโลยีมาเจอกัน นั่นคือ “สัตยา นาเดลลา” จากไมโครซอฟท์ และมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กจาก Meta ผ่านเวทีเสวนาในงาน LlamaCon 2025 งาน Conference ที่ Meta จัดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เวทีดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กมีการถามถึงภาพรวมของวงการเทคโนโลยีในปัจจุบัน และความเปลี่ยนแปลงที่สัตยา นาเดลลา มองเห็น โดยสิ่งที่สัตยาแลกเปลี่ยนกลับมาก็คือเรื่องของ Infrastructure ของโลกเทคโนโลยี โดยเฉพาะในยุค AI ซึ่งแตกต่างจากยุคก่อน ซึ่งทำให้รูปแบบงานของคนสายเทคโนโลยีต้องเปลี่ยนไป เช่น ต้องหันมาฝึก AI แทน

นอกจากนี้ สัตยายังได้กล่าวถึง Moore’s Law ที่ปัจจุบันกลายเป็น Moore’s Law แบบติดจรวด หรือก็คือ การที่เทคโนโลยีต่าง ๆ พัฒนาไปอย่างรวดเร็วมากกว่าเดิม ทำให้ไมโครซอฟท์มองว่า บริษัทเทคโนโลยีควรจะยึดที่ความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ

ด้วยเหตุนี้ ทางบริษัทจึงได้มีการออกแบบระบบที่รองรับ Workload แบบใหม่ รวมถึงเปิดรับทั้ง open source และ closed source เพื่อเป็นทางเลือกของลูกค้าด้วย โดยสัตยาชี้ว่า Productivity จะเกิดขึ้นจริงก็ต่อเมื่อ ระบบใหม่นั้นสามารถผสานเข้ากับระบบเดิมได้อย่างราบรื่น

สัตยายังได้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้นว่า การประชุมของลูกค้า ที่จากเดิมต้องรอรายงานจากทีม แต่ปัจจุบันสามารถใช้ Copilot ดึงข้อมูลจากระบบ CRM, Web, และข้อมูลภายในได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ workflow ขององค์กรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง (มีการนำไปเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนผ่านจากระบบแฟกซ์ เอกสารกระดาษ มาเป็นการใช้อีเมล – Excel ด้วย)

ก่อนที่สัตยา จะถูกมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กถามในประเด็นว่า ปัจจุบัน ซอร์สโค้ดของไมโครซอฟท์นั้นสร้างขึ้นโดย AI แล้วกี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสัตยาตอบว่า อยู่ที่ประมาณ 20 – 30% ของซอร์สโค้ดทั้งหมด พร้อมอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่าขึ้นอยู่กับภาษา โดยหากเป็นภาษา Python ก็จะมีประสิทธิภาพสูงหน่อย และลดหลั่นกันไปหากเป็นภาษาอื่น ๆ เช่น ภาษา C++ หรือ C#

ไมโครซอฟท์ใช้ AI เขียนโค้ด 30% แล้ว Meta ล่ะ? 

อย่างไรก็ดี ความช็อตฟีลเกิดขึ้นบนเวที เมื่อสัตยา นาเดลลา ถามกลับมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ว่าแล้ว Meta ล่ะ ใช้ AI เขียนโค้ดให้มากน้อยเท่าไร ซึ่งคำตอบจากมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กก็คือ การตอบว่า “ไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน” ก่อนที่จะเปลี่ยนไปตอบว่า Meta กำลังใช้ AI พัฒนาซอร์สโค้ดในส่วนใดแทน เช่น การทดลอง feed ranking (การจัดลำดับฟีด) และ ads ranking (การจัดอันดับโฆษณา)

มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กยังกล่าวย้ำด้วยว่า งานหลักของ Meta ในตอนนี้คือการสร้างวิศวกรด้าน AI และ วิศวกรด้านแมชชีนเลิร์นนิง เพื่อช่วยพัฒนาโมเดล Llama (โมเดล AI ของ Meta) นั่นเอง

“เราคาดว่า ภายในปีหน้า การพัฒนา (ซอร์สโค้ด) ประมาณครึ่งหนึ่งจะทำโดย AI และตัวเลขนี้ก็น่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ”

ส่วนในด้านคู่แข่งของไมโครซอฟท์อย่าง Google นั้น พบว่า ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอ Google ได้เคยกล่าวถึงการใช้ AI เขียนโค้ดให้กับบริษัทว่าสามารถทำได้แล้วมากกว่า 30% ของซอร์สโค้ดทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งจากภาพที่เป็นอยู่ นี่อาจเป็นเทรนด์ใหม่ของการขิงระหว่างซีอีโอบริษัทเทคโนโลยีก็เป็นได้

Source


แชร์ :

You may also like