HomeBrand Move !!เปิดตัว “iPhone 15” กระหึ่ม ถึงเวลา รองรับ USB-C หนีความท้าทายตลาดจีน?

เปิดตัว “iPhone 15” กระหึ่ม ถึงเวลา รองรับ USB-C หนีความท้าทายตลาดจีน?

แชร์ :

เปิดตัวแล้วเรียบร้อยสำหรับสมาร์ทโฟนในตระกูล iPhone 15 ท่ามกลางข่าวการห้ามใช้งาน iPhone ของทางการจีน ที่ทำให้หุ้นของบริษัทร่วงไปถึง 6% เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยต้องบอกว่า ในเวอร์ชันนี้ Apple เอาใจแฟน ๆ ที่อยากได้สายชาร์จแบบ USB-C เสียที ส่วนราคาเริ่มต้นก็ไม่ทำให้แฟนคลับต้องร้าวใจกันมากนัก เพราะ iPhone 15 เริ่มต้นที่ 32,900 บาท ส่วน iPhone 15 Pro และ Pro Max ราคาเริ่มต้นที่ 41,900  บาท และ 48,900 บาทตามลำดับ เว้นแต่ใครสนใจรุ่น Pro Max ความจุ 1 เทราไบต์อาจต้องควักกระเป๋ากันที่ 66,900 บาทเลยทีเดียว

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เปิดตัวท่ามกลางความท้าทาย

การเปิดตัว iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ของ Apple ในปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของบริษัทยักษ์ใหญ่ เนื่องจากมาในช่วงเวลาที่ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกกำลังซบเซา จนหลาย ๆ แบรนด์ต้องหันไปโฟกัสที่สมาร์ทโฟนระดับบน เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังพอเติบโตได้อยู่บ้าง

นอกจากนั้น Apple ยังเผชิญมรสุมอีกด้านกับการที่รัฐบาลจีนประกาศห้ามไม่ให้ข้าราชการใช้ iPhone ในการทำงาน ซึ่งแม้จะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็กระทบต่อบริษัทที่มีฐานการผลิตอยู่ในจีน รวมถึงมียอดขายจากจีนแผ่นดินใหญ่อย่างต่อเนื่องยาวนานด้วย (จีนเป็นตลาดอันดับ 3 ของ Apple)

ความพิเศษของ iPhone 15, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max

สำหรับคนที่ตั้งใจรอคอยและคาดหวังจะได้เห็นความพิเศษของ iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ในการแถลงข่าวพบว่ามีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย

  • ชิป A17 Pro (สำหรับ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max) ซึ่งเป็นชิป 3 นาโนเมตรตัวแรกในอุตสาหกรรม รวมถึงมีการออกแบบ GPU ใหม่ทำให้สามารถแสดงผลกราฟฟิกที่ราบรื่นขึ้นและทำงานกับแอปพลิเคชัน AR หรือการเล่นเกมได้ดีขึ้น
  • รองรับความเร็วระดับ USB 3 บน iPhone เป็นครั้งแรก ทำให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ที่ความเร็ว 10 กิกะบิตต่อวินาที หรือเร็วขึ้นกว่าที่ผ่านมาถึง 20 เท่า  และรองรับการส่งสัญญาณวิดีโอ HDR ระดับ 4K ที่ 60 fps ด้วย ซึ่งการใช้หัวชาร์จ USB‑C ทำให้อุปกรณ์ Apple ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น iPhone, Mac, iPad และ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ที่ได้รับการอัปเดตใหม่ สามารถใช้หัวชาร์จเดียวกันได้ และผู้ใช้ยังสามารถชาร์จ AirPods หรือ Apple Watch ได้โดยตรงจาก iPhone โดยใช้ขั้วต่อ USB‑C ได้ด้วย
  • ความสามารถในการบันทึกวิดีโอเชิงมิติพื้นที่ที่จะมาใน iPhone 15 Pro สำหรับทำคอนเทนต์วิดีโอให้กับ Apple Vision Pro ที่กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้าในสหรัฐอเมริกา
  • รองรับ eSIM ซึ่งคาดว่าจะทำให้การเดินทางในปัจจุบันสะดวกขึ้น สำหรับการใช้งานโรมมิ่งในต่างประเทศจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของตนเอง หรือจะซื้อแผนบริการ eSIM แบบเติมเงินในกว่า 50 ประเทศและภูมิภาคก็ได้
  • ระบบปฏิบัติการ iOS 17 ที่ภายในมีอัปเดทมากมาย เช่น คุณสมบัติวอยซ์เมลแบบสดเพื่อให้ผู้ใช้เห็นข้อความจากการถอดเสียงบนอุปกรณ์แบบเรียลไทม์ในขณะที่มีคนกำลังฝากข้อความวอยซ์เมล, แอปข้อความมีสติกเกอร์แบบใหม่ คุณสมบัติเช็คอินที่ผู้ใช้สามารถแจ้งเพื่อนและครอบครัวโดยอัตโนมัติเมื่อเดินทางไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย ฟีเจอร์ NameDrop ที่แชร์ข้อมูลรายชื่อได้ง่ายขึ้นเพียงแค่นำ iPhone ทั้ง 2 เครื่องมาอยู่ด้วยกัน ฯลฯ

ราคาและการวางจำหน่าย

iPhone 15 และ iPhone 15 Plus วางจำหน่ายในสีชมพู สีเหลือง สีเขียว สีฟ้า และสีดำ โดยมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ความจุ 128GB 256GB และ 512GB ในราคาเริ่มต้นที่ 32,900 บาท และ 37,900 บาท ตามลำดับ

iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max วางจำหน่ายในสีไทเทเนียมดำ สีไทเทเนียมขาว สีไทเทเนียมน้ำเงิน และสีไทเทเนียมธรรมชาติ โดย iPhone 15 Pro มีราคาเริ่มต้นที่ 41,900 บาท หรือ 4,190 บาท ต่อเดือน และมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ความจุ 128GB 256GB 512GB และ 1TB

ส่วน iPhone 15 Pro Max มีราคาเริ่มต้นที่ 48,900 บาท หรือ 4,890 บาท ต่อเดือน และมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ความจุ 256GB  512GB และ 1TB โดยลูกค้าในกว่า 40 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงออสเตรเลีย แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก สหรัฐอาหรับเอมิเรตน์ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และประเทศไทย จะสามารถสั่งซื้อ iPhone 15 ทุกรุ่นได้ล่วงหน้าได้ตั้งแต่เวลา 19:00 น. ตามเวลาในประเทศไทยของวันศุกร์ที่ 15 กันยายน 2566 และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2566

Source

Source

Source


แชร์ :

You may also like