HomeBig Featuredสรุป 4 Marketing Trends พร้อมถอดรหัส 5 มิติการตลาดยุคใหม่ ไปต่อกับกลยุทธ์เชิงรุก Reframe + Reform

สรุป 4 Marketing Trends พร้อมถอดรหัส 5 มิติการตลาดยุคใหม่ ไปต่อกับกลยุทธ์เชิงรุก Reframe + Reform

แชร์ :

ยังเป็นปีที่มีความท้าทายของโลกธุรกิจการตลาด จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความซับซ้อนขึ้น ความแตกต่างทางความคิดของคนละ Generation มองประเด็นเดียวกันในมุมที่ต่างกัน ยุคนี้ผู้บริโภคมองหาคุณค่าและประสบการณ์ใหม่

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ปัจจุบันเป็นยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ทั้งพฤติกรรม ความต้องการ และความคาดหวังของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นแผนการตลาดแบบเดิมๆ อาจไม่นำไปสู่ผลสำเร็จแบบที่ต้องการอีกต่อไป สิ่งที่ผู้บริหารและนักการตลาด ควรให้ความสำคัญกับการปรับกลยุทธ์ เปลี่ยนวิธีการ ใส่เลนส์การตลาดในมุมใหม่ เพื่อโอกาสก้าวสู่ความสำเร็จในโลกการตลาดยุคใหม่

4 เทรนด์การตลาดยุคใหม่

มาอัพเดทเทรนด์การตลาดครึ่งปีหลัง 2023 ที่น่าจับตามอง พร้อมกลยุทธ์การใช้เครื่องมือการตลาดใหม่ๆ เพื่อมัดใจผู้บริโภค โดย ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ที่บอกว่าการเกิดขึ้นของโควิดและหลังจากโควิดจบลงไปแล้ว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโลกหลายด้าน โดยมี 3 ปัจจัยสำคัญผลักดันให้เกิดขึ้น

1. พลังของเทคโนโลยีดิจิทัล ที่เชื่อมโลกจริงโลกเสมือนเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ ผู้บริโภคคาดหวังความสะดวกสบายจากทุกช่องทางที่ใช้บริการ และแบรนด์ต้องตอบความต้องการนี้ให้ได้

2. พลังของคนรุ่นใหม่ ที่มีความเป็น Individual มากขึ้น เห็นได้จากในหลายประเทศคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง จะเห็นอิทธิพลของคนรุ่นใหม่ที่ส่งผลต่อบทบาทการตลาดที่เปลี่ยนไป

3. ความเปราะบางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง นับจากยุคโลกสองขั้ว (ยุคสงครามโลก) มาสู่โลกใบเดียวในยุค Globalization และเข้าสู่ยุค Multipolar โลกที่มีผู้นำหลายกลุ่ม ส่งผลต่อนโยบายเศรษฐกิจ กลยุทธ์การตลาดต้องปรับตัวตามให้ทัน

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทั่วไป (Traditional) ปรับก้าวสู่โลกดิจิทัลเป็นประชากรอินเทอร์เน็ต (Netizen) มากขึ้น ไม่เพียงแค่นั้นการพัฒนาเทคโนโลยีในยุค AI ทำให้เกิด Botizen ตัวตนในโลกเสมือนของผู้บริโภคเพิ่มเข้ามาอีก ในยุคนี้ผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด หรือ Gen ใด ต่างมองหาคุณค่าและประสบการณ์ใหม่ๆ จากแบรนด์ทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอด หากใครปรับตัวไม่ได้ก็จะหายไป

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ

จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย สรุป Marketing Trends หลักๆ ในครึ่งปีหลัง 2023 มี 4 เทรนด์ใหญ่

1. Personalized Marketing การตลาดรู้ใจ : เพราะพลังของความเป็น Individual มีความสำคัญมากขึ้น จึงต้องเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคแต่ละคนให้ได้ และนำความต้องการของแต่ละคนมาหา “จุดร่วม” ที่สนใจเหมือนกัน เพื่อพัฒนาเป็นสินค้าและบริการ

2. Marketing on Multiverse การตลาดเชื่อมโลก : เป็นการตลาดบนโลกหลายใบแบบไร้รอยต่อ คือทั้งโลกจริง (Physical) โลกเสมือน (Digital) และโลกอื่นๆ ที่ผู้บริโภคต่างใช้ชีวิตอยู่ในโลกเหล่านี้โดยไม่แยกแยะอีกต่อไป

3. Real Marketing การตลาดจริงใจ : เมื่อทุกอย่างถูกเชื่อมอยู่ในโลกเดียวกัน Real Marketing จึงมีความสำคัญ เพราะต้องตอบสนองความสนใจผู้บริโภคแบบ Realtime ทั้งสินค้าและประสบการณ์ เพื่อทำให้แบรนด์อยู่ในความสนใจของผู้บริโภค “การตลาดที่จุดกระแสติดจะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก แต่การตลาดที่จริงใจ จะทำให้กระแสที่จุดติด เป็นกระแสที่ยั่งยืน สร้าง Brand Experience ที่ดีให้กับผู้บริโภค”

4. Dynamic Brand การตลาดพร้อมปรับ : ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ดัง แบรนด์หรู ต่างก็พร้อมปรับเปลี่ยนในโลกยุคใหม่ จะเห็นการทำ Co-branding มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์อายุเป็น 100 ปี Co-branding กับแบรนด์เกิดใหม่ เพื่อทำให้เห็นว่าเป็นแบรนด์ที่ปรับตัวอยู่ตลอดเวลา โดยที่แบรนด์ยังรักษากลุ่มเป้าหมายเดิมไว้ได้ และได้กลุ่มลูกค้าใหม่ เพราะสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็ว แบรนด์ที่อยู่เฉยๆ มีโอกาสถูกดิสรัปต์หรือคู่แข่งเข้ามาแย่งมาร์เก็ตแชร์ได้

4 แนวทางองค์กรปรับตัวตามเทรนด์ใหม่

เมื่อรู้จักเทรนด์การตลาดในโลกยุคใหม่แล้ว แนวทางกลยุทธ์ที่องค์กรต้องปรับตัวมี 4 ประเด็นหลัก

1. Customer Empowerment : ธุรกิจให้ความสำคัญและให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ต้องสร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของลูกค้าได้ เพราะลูกค้าที่มีความเป็น Individual พวกเขาจะออกแบบสินค้าและบริการที่ต้องการใช้เอง ดังนั้นสิ่งสำคัญในการวางกลยุทธ์ต้องให้อำนาจลูกค้าเป็นคนบอกว่าแบรนด์ควรทำอะไรและไม่ควรทำอะไร

2. Applying Data Analytics and Machine Learning: องค์กรต้องรู้จักนำเทคโนโลยีมาใช้การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อสร้างประโยชน์ในการตลาดและการขาย เพราะการเข้าใจความต้องการผู้บริโภคอย่างรวดเร็วต้องอาศัยดาต้าจำนวนมากมาวิเคราะห์

3. Accelerating Personalized Marketing at Scale: ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและดาต้ามาสร้างประสบการณ์แบบรู้ใจและโดนใจให้ลูกค้า

4. Building Ecosystems: การสร้างระบบนิเวศน์ (Ecosystems) ครบวงจร ไม่ใช่เพียงให้ความสำคัญกับแบรนด์หรือตัวสินค้าเท่านั้น ด้วยการหาจุดเชื่อมโยงความสนใจของลูกค้าแต่ละคนที่เหมือนกันมาทำให้เกิดสเกลและ สร้าง Ecosystem ร่วมกับพันธมิตรที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือนอกอุตสาหกรรม เพื่อสร้างโอกาสให้แบรนด์เติบโตในตลาดที่ใหญ่ขึ้น

สรุปกลยุทธ์ที่จะมาใช้เป็นแนวทางตอบโจทย์เทรนด์การตลาดในยุคใหม่ด้วย 4 คำ คือ “ฉลาด ว่องไว เข้าใจความแตกต่าง และต้องมีพันธมิตร”

Modern Marketing เปลี่ยนเป็น Postmodern Marketing

หากดูแนวทางการตลาดแบบ Modern Marketing คือ สิ่งที่กลั่นกรอง ค้นพบออกมาเป็นทฤษฎีแล้ว เช่น การแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็น Mass, Segmentation, Fragmentation และย่อยเป็น Individual

แต่ Postmodern Marketing คือ ความจริงไม่ได้มีสิ่งเดียวอีกต่อไป แต่เป็นความจริงในแต่ละโลกที่ผู้บริโภคในชีวิต และความจริงขึ้นอยู่กับบริบทการเล่าเรื่องแต่ละคน

ดังนั้นการตลาดในยุคหน้าจึงไม่แยกผู้บริโภคเป็นกลุ่มคนเหมือนเดิม แต่จะถูกมองในมุมใหม่ ด้วยการหา Common Expectation และ Common Activity เพื่อสร้าง Brand Experience ร่วมกัน ทำให้กลุ่ม Individual ที่มีความแยกย่อยกระจายตัว สามารถ Scale ได้ เพื่อที่แบรนด์จะได้พัฒนาสินค้าและบริการตอบสนองกลุ่มคนที่สนใจในจุดร่วมเดียวกัน

“การตลาดยุคใหม่โลกจริงและโลกเสมือนจะเดินคู่กัน การนำ AI มาใช้เป็นเครื่องมือการตลาด เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ โดย Modern Marketing จะเปลี่ยนตัวเองไปสู่ Postmodern Marketing มากขึ้น ที่สามารถเข้าถึงได้ทุก Gen จากจุดร่วมที่มีความสนใจ ความคาดหวัง และความต้องการเดียวกัน”

ผศ.ดร. เอกก์ ภทรธนกุล

ถอดรหัส PILOT 5 มิติการตลาดใหม่

รู้จักเทรนด์การตลาดยุคใหม่ในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงกันแล้ว คราวนี้ ผศ.ดร. เอกก์ ภทรธนกุล อุปนายกฝ่ายกิจกรรมการสื่อสารและการตลาดยั่งยืน สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ให้มุมมองการใส่เลนส์การตลาดเพิ่มเติมจากกลยุทธ์ดั้งเดิม 4P ที่ว่าด้วย Product, Price, Place, Promotion กับ PILOT “5 มิติการตลาดใหม่” ที่ต้องมีเข้ามาเพิ่ม สำหรับผู้บริหารและนักการตลาดที่จะไปต่อได้

P : Pioneering มุ่งหน้า : เพิ่มเติมความรู้และเทคโนโลยีทางการตลาดใหม่ๆ ต้องมุ่งหน้าไปให้ได้ เพราะกลยุทธ์ที่เป็นท่าไม้ตายเดิมๆ อาจใช้ยากขึ้น เพราะผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกมิติ

I : Insights ลงลึก : ต้องชัดเจนในข้อมูลผู้บริโภคแต่ละ Gen ว่ามีความสนใจ ความคาดหวังและความต้องการในเรื่องใด และตอบโจทย์สิ่งนั้น

L : Long-term มองยาว : มองเรื่องความยั่งยืน (sustainability) เป็นสำคัญ เพราะในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย กลยุทธ์ที่มักนำมาใช้ คือ “สงครามราคา” แต่เป็นเรื่องที่อันตรายในระยะยาวกับธุรกิจและแบรนด์

O : Openness เปิดรับ : การปรับเปลี่ยน (Reframe) แนวทางการตลาดยุคใหม่ มีความสำคัญมาก เป็นสิ่งที่ทั้งองค์กรต้องทำร่วมกัน

T :Timeliness ทันที : กลยุทธ์การตลาดเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ เพราะคู่แข่ง เรียนรู้ เข้าใจและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อเอาชนะใจผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา

“หากเสริม 5 มิติการตลาดใหม่เข้าไป สิ่งที่ได้ คือ กำแพง ใช้กั้นลูกค้าไม่ให้ออกไปจากแบรนด์เรา และเป็นกำแพงกั้นคู่แข่งไม่ให้เข้ามาแย่งตลาดและลูกค้าของเรา”

กลยุทธ์เชิงรุก Reframe + Reform

วิธีการในการสร้างความเปลี่ยนแปลง เพื่อก้าวสู่การตลาดยุคใหม่ให้สำเร็จ คือ “ปรับเปลี่ยนและปฏิรูปแนวคิด” หรือ Reframe & Reform

Reframe – ปรับเปลี่ยน : ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้บริโภค หรือองค์กรธุรกิจ ก็มี Generation หลากหลายอยู่ด้วยกัน ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำ คือ เชื่อมความเก๋าเข้ากับโลกยุคใหม่ เมื่อเทคโนโลยีก้าวกระโดด ผู้บริโภคก้าวกระโดด เด็กยุคใหม่ก้าวกระโดด ผู้นำองค์กรหรือนักการตลาด ก็ต้องกระโดดข้ามรูปแบบเดิมๆ เพื่อปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ให้เชื่อมกับความเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจและแบรนด์ไปต่อได้กับผู้บริโภคทุก Gen

Reform – ปฏิรูป : หากต้องการให้ธุรกิจไปต่อได้ในโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงรอบด้าน เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริหาร (รุ่นใหญ่) ต้องเปิดมุมมองสู่แนวคิดใหม่ๆ เพื่อจะได้พบความเป็นไปได้ของการไปต่อและเติบโต

ล่าสุด สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เปิด 2 หลักสูตร Flagship ใหม่ ที่จะมาตอบโจทย์ให้แก่ผู้บริหารที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงในโลกการตลาดยุคใหม่

1. Reframe สร้างความเปลี่ยนแปลงกับหลักสูตร “XYZ : Experience Your Zero” รูปแบบ Cross-Generation Experience-Based Learning ที่มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมหลักสูตร ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง (Gen X) ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ให้เข้าใจโลกการตลาด Gen Z ให้ลึกกว่าที่เคยรู้ โดยเนื้อหาครอบคลุม 4 Insights สำคัญ คือ

– Gen Z Insight: เข้าใจแนวคิดและโลกที่แตกต่างของคน Gen Z
– Business Insight: เปิดวิสัยทัศน์การทำธุรกิจในโลกที่เปลี่ยนแปลง
– Communication Insight: ปรับมุมมองการสื่อสารเพื่อ Connect กับคนรุ่นใหม่
– Technology Insight: เปลี่ยนโลกการทำงานแบบเดิมๆ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ

ระยะเวลาหลักสูตรระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม – 20 กันยายน 2566

2. Reform ปฎิรูปความคิด ในหลักสูตร “MORPH : Visionary Re-Defined” หลักสูตรการตลาดหลักสูตรแรกกับการเปิดโลกแห่งความเปลี่ยนแปลงในแบบของ ‘Morphology’ Growth Mindset Marketing Program ด้วยการ transform แนวคิด ผ่านเรื่องราวชีวิตของผู้บริหารตัวจริง ที่เป็นทั้งนักคิด นักทำ นักเสี่ยง นักคำนวณ และนักสร้างความเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้าง Community ของผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่พร้อม รู้ รับ ปรับ เปลี่ยนได้รอบด้าน เสริมศักยภาพผู้นำธุรกิจไทย ให้ก้าวไปสู่การเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก ระยะเวลาหลักสูตรระหว่างวันที่ 8 กันยายน – 3 พฤศจิกายน 2566

อ่านเพิ่มเติม

รู้จัก 7 เทรนด์การตลาดยุคใหม่ จาก Meta สู่กลยุทธ์ Metta + Mitri (เมตตา+ไมตรี) การตลาดเกื้อกูลคนตัวเล็ก


แชร์ :

You may also like