เชื่อแน่ว่า Coffee Lover ตัวจริง ต้องมีโอกาสลิ้มลองเมนูแก้วโปรด จาก Pacamara Coffee Roasters (พาคามาร่า) กันมาแล้วบ้างอย่างแน่นอน เพราะถือเป็นหนึ่งในร้านปักหมุดที่สาย Café Hopping ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง จากความลงตัวอย่างครบถ้วน ทั้งคุณภาพกาแฟแบบ Specialty ที่รวบรวมเมล็ดพันธุ์จากทุกมุมโลก และเทคนิคการชงโดยบาริสต้าที่เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการเทรนมาอย่างดีหรือจะเป็นบรรยากาศการตกแต่งภายในร้าน ไปจนถึงการครีเอทเมนูเครื่องดื่มแต่ละแก้ว ทั้ง Coffee และ Non-Coffee ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้มีโอกาสได้ลิ้มลองอยู่เสมอ
โดยเฉพาะเมนู Saint Dirty (เซนต์ เดอร์ตี้) กาแฟเดอร์ตี้สุดคลาสสิค ยอดนิยมตลอดกาล 1 ใน signature menu ของพาคามาร่า ที่หลายคนต่างติดใจ Double Ristretto (ดับเบิลริสเทรตโต้) ท็อปอยู่บนนมเย็นจัดสูตรลับเฉพาะ ถูกเสิร์ฟมาแบบแยกชั้นระหว่าง “นมที่แช่ไว้แบบเย็นจัด” นอนนิ่งอยู่ด้านล่างของแก้ว กับ “ช็อตดับเบิลริสเทรตโต้” อยู่ด้านบนนมสีขาวบริสุทธิ์ และค่อยๆ ถูกแทรกซึมโดยน้ำกาแฟ กลายเป็นลวดลายที่มีความสวยงามไม่ต่างจากงานศิลปะที่อยู่ภายใน “แก้วใส” ที่ถูกแช่ไว้อย่างเย็นจัดเช่นกัน
เป็นที่มาของคำว่า Dirty ที่สะดุดหู แต่ไม่ได้แปลว่า สกปรก ตามความหมายเดิมของคำ แต่เป็นการเปรียบเทียบถึงคราบกาแฟสีเข้มจาก “ช็อตเอสเพรสโซ่” หรือ “ช็อตดับเบิลริสเทรตโต้” ที่เปรอะเปื้อนอยู่ภายในแก้วนมสีขาวบริสุทธิ์ และชวนให้ทุกคนอยากลิ้มลองรสชาติของเครื่องดื่มแก้วนี้สักครั้ง
พบ 3 เมนูใหม่ สไตล์ Tokyo Dirty
เพื่อตอกย้ำว่าพาคามาร่า เป็นแบรนด์ผู้นำ Specialty Coffee ตัวจริง มี DNA ความเป็น Specialty มาแต่กำเนิด และใส่ใจทุกการคัดสรรเพื่อให้ได้คุณภาพจากต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การเลือกกาแฟจากแหล่งเพาะปลูกสายพันธุ์ดี เพื่อรักษาคุณภาพของรสชาติตามมาตรฐานที่ได้ออกแบบไว้ การคั่วกาแฟทุกเมล็ดอย่างพิถีพิถัน ด้วยเครื่องคั่วระดับเวิลด์คลาส ควบคุมทุกขั้นตอน โดยทีม Coffee Roast Master มากประสบการณ์ การสกัดกาแฟด้วยเครื่องชงระดับไฮเอนด์จากบาริสต้าที่มีความชำนาญ จนได้แต่ละเมนูที่สร้างสรรค์ ทั้งรสชาติและหน้าตาที่ไม่ต่างกับการตั้งใจจัดวางไว้อย่างลงตัว โดยเฉพาะเมนู “Work Hard, Dirty Harder” ซึ่งหัวใจสำคัญอยู่ที่อุณหภูมิของนมและแก้วที่จะต้องเย็นจัดเพื่อให้ทุกองค์ประกอบออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ล่าสุด พาคามาร่าได้แนะนำเมนูใหม่ ในซีรีส์ Dirty เพิ่มเติมอีก 3 เมนู ที่รังสรรค์จากเมล็ดกาแฟเบลนด์พิเศษ “Tokyo Dirty Blend” ครีเอทขึ้นมาสำหรับกาแฟเดอร์ตี้สไตล์โตเกียวโดยเฉพาะ จากส่วนผสมของเมล็ดกาแฟที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันจาก 3 ทวีป 3 ประเทศ และเป็นเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศทั้งหมด เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์จิบช็อต Double Ristretto ของกาแฟเดอร์ตี้สไตล์โตเกียวแท้ๆ ที่รสชาติออกโทนหวานแบบเมเปิลไซรัป, มอลต์บิสกิต, ดาร์กช็อกโกแลต และมีรสสัมผัสที่ครีมมี่ฟูลบอดี้ สัมผัสได้ถึงฟีลลิ่ง “Work Hard, Dirty Harder” ทำทุกอย่างให้เต็มที่ แล้วให้รางวัลตัวเองด้วยที่สุดของเดอร์ตี้ที่พาคามาร่า
โดยทั้ง 3 เมนูใหม่ ประกอบด้วย
1. Tokyo Style Dirty (โตเกียวสไตล์ เดอร์ตี้) ความลงตัวของช็อต Double Ristretto จาก Tokyo Dirty Blend เมล็ดกาแฟเบลนด์พิเศษ ที่ Coffee Roast Master ออกแบบขึ้นอย่างพิถีพิถัน เพื่อชงกาแฟเดอร์ตี้สไตล์โตเกียวโดยเฉพาะ ท็อปบนนมสดเย็นจัด สัดส่วนที่สมดุลของนมสดและกาแฟที่สกัดด้วยเทคนิคพิเศษ High Concentration จนได้ช็อต Double Ristretto และ Espresso Oil บนผิวหน้าของเครื่องดื่ม แม้ไม่ได้เติมความหวานเลย แต่เดอร์ตี้แก้วนี้ก็สามารถดึงความหวานที่มาจากรสชาติกาแฟอย่างแท้จริงออกมาได้อย่างลงตัว เดอร์ตี้ที่หวานโดยไม่ได้ใส่น้ำตาลเลยเป็นอย่างไรต้องมาพิสูจน์ สายเฮลท์ตี้ต้องไม่พลาดเมนูนี้เช่นกัน
2. Sandcastle Dirty (แซนด์แคสเซิล เดอร์ตี้) เพิ่มมิติกาแฟเดอร์ตี้ให้พิเศษขึ้นไปอีก ด้วยความหวานกลมกล่อมของนมเย็นจัดสูตรเฉพาะ ที่ถูกท็อปด้วยช็อต Double Ristretto สกัดแบบพิเศษจาก Tokyo Dirty Blend ด้วยรสชาติเมล็ดกาแฟโทนหวานแบบเมเปิ้ล ไซรัป ทำให้เดอร์ตี้แก้วนี้ มีรสชาติที่คอมเพล็กซ์ เมื่อจิบไปเรื่อยๆ ก็จะได้รสชาติของแต่ละชั้น มีรสสัมผัสและกลิ่นที่แตกต่างกันไป เสน่ห์พิเศษของเมนูนี้ คือ ความหอมหวานของคาราเมลแคนดี้ และมอลต์ บิสกิต อร่อยจิบเพลิน ละมุนจนแก้วเดียวอาจไม่พอ
3. Green Marble Dirty (กรีนมาร์เบิล เดอร์ตี้) เดอร์ตี้คอนเซปต์ใหม่ เอาใจคนรัก Japanese Matcha โดยเฉพาะ ผงมัทฉะ เกรดพรีเมียม จากเมืองอุจิ (Uji) จังหวัดเกียวโต ผสมผสานกับนมเย็นจัดสูตรลับเฉพาะ นอกจากสีสันของเครื่องดื่มที่นุ่มนวลเหมือนหินอ่อนสีมรกตแล้ว รสชาติของมัทฉะ เดอร์ตี้แก้วนี้ก็กลมกล่อม หอม และนุ่มนวลเป็นพิเศษไม่แพ้หน้าตา รับรองว่าต้องถูกใจสาวก Specialty Matcha อย่างแน่นอน
ส่วนสาวกที่ยังรักมั่นคงกับ Saint Dirty (เซนต์ เดอร์ตี้) ก็สามารถเลือกเปลี่ยนเมล็ดกาแฟจากเดิมที่ใช้ Classic Blend มาเป็น Tokyo Dirty Blend เพื่อสัมผัสอรรถรสจากเมล็ดกาแฟเบลนด์พิเศษในแบบที่ต่างออกไป โดยเมนู “Work Hard, Dirty Harder” จะเสิร์ฟให้ได้ลิ้มลองกันเพียง 78 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2565 นี้ เท่านั้น พร้อมความพิเศษสำหรับสมาชิก Pacamara Application ระดับ Platinum เฉพาะวันพุธ Wonderful Wednesday รับสิทธิ์ ซื้อ 1 แถม 1 เมนู “Work Hard, Dirty Harder” ได้ทันที
งานนี้สาย Café Hopping ไม่ควรพลาด และสามารถร่วมสัมผัสประสบการณ์ “Work Hard, Dirty Harder” ได้ที่ Pacamara Coffee Roasters ทั้ง 18 สาขา ได้แก่ ICONSIAM, Thonglor25, Velaa Sindhorn Village, S&A Building Silom, Central Rama9, Central Pinklao, Central Rama2, The Offices @CentralwOrld, SB Design Square @CDC, Fashion Island, MDCU หอสมุดคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ, Rain Hill Sukhumvit 47, Market Place Nanglinchee, PCMC ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ, Star Avenue 2 เชียงใหม่ พร้อมเตรียมพบสาขาใหม่ของ Pacamara Coffee Roasters – Everyday Specialty ซึ่งมีแผนจะขยายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2565 นี้ อาทิ Tops Food Hall Sukhumvit 39 , Energy Complex และ Central Ladprao เป็นต้น เพื่อสามารถเสิร์ฟ “Specialty Coffee” ให้ลูกค้าดื่มด่ำรสชาติกาแฟที่ชื่นชอบได้ทุกวัน ในราคาที่เหมาะสม และโลเคชั่นที่เข้าถึงได้ง่าย
