แม้ว่าเชนกาแฟชื่อดังของจีนอย่าง Luckin Coffee จะล้มระเนระนาดจนกลายเป็นข่าวครึกโครมเมื่อปีก่อน แต่ดูเหมือนว่าความร้อนแรงในธุรกิจกาแฟของจีนแผ่นดินใหญ่จะไม่ได้จางหายไปไหน แถมตอนนี้ ยังมีบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Tencent Holdings และ ByteDance ให้ความสนใจลงทุนในธุรกิจกาแฟเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นก็คือ บริษัทอย่าง ByteDance เจ้าของแพลตฟอร์ม TikTok ได้ลงทุนในธุรกิจกาแฟอย่าง Manner Coffee แล้วเรียบร้อย เช่นเดียวกับ Tencent ที่ลงเงินสนับสนุนในเชนกาแฟสัญชาติแคนาดาชื่อดังอย่าง Tim Hortons ไปแล้วถึงสองรอบ โดยในรอบแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 ก่อนจะใส่เงินลงทุนเพิ่มไปอีกครั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
การได้รับเงินสนับสนุนจาก Tencent ทำให้ Tim Hortons วางแผนจะขยายสาขาเพิ่มในปีนี้ราว 200 แห่ง และตั้งเป้าว่าจะมีสาขาในจีนให้ได้ 1,500 แห่งภายใน 2 – 3 ปีข้างหน้า
ส่วน Manner Coffee ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 และใช้กลยุทธ์ด้านราคาที่ถูกกว่า Starbucks ราวครึ่งหนึ่ง (ราคาขายของ Manner Coffee อยู่ระหว่าง 10 – 20 หยวน ขณะที่ราคาขายของ Starbucks ในจีนแผ่นดินใหญ่นั้นอยู่ระหว่าง 20 – 40 หยวน) เป็นตัวดึงดูดใจผู้คนนั้น ปัจจุบันมีสาขาอยู่ราว 130 แห่ง และเคยมีบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลอย่าง ITJuzi ประเมินมูลค่าของ Manner Coffee เอาไว้สูงถึง 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
เหตุที่เป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งอาจมาจากการคาดการณ์ของ Qianzhan Industry Research Institute ที่ประเมินว่า ตลาดกาแฟของจีนอาจมีมูลค่าสูงถึง 120,000 ล้านหยวนภายในปี 2023 จากที่เคยมีมูลค่าราว 90,000 ล้านหยวนในปี 2020 ซึ่งเท่ากับว่าตลาดนี้มีการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 15% ต่อปี
ใช้ร้านกาแฟต่อยอดอีสปอร์ต
ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อปี 2018 จะพบว่าพี่ใหญ่ในวงการอีคอมเมิร์ซอย่าง Alibaba Group Holding ก็เข้ามาในธุรกิจนี้แล้ว โดยในตอนนั้น อาลีบาบาได้ใช้แอปในเครืออย่าง Ele.me ในการจัดส่งกาแฟของ Starbucks และได้รับความสำเร็จด้วยดี
แต่แผนของ Tencent นั้นต่างออกไป เพราะ Tencent ตั้งเป้าว่าจะใช้การลงทุนครั้งนี้ต่อยอดธุรกิจของตัวเองที่โดดเด่นเป็นพิเศษเรื่องเกมออนไลน์ นั่นคือการเปิดตัวร้านกาแฟอีสปอร์ต ร่วมกับ Tim Hortons เช่นเดียวกับ ByteDance ที่จะใช้พื้นที่ของ Manner Coffee ให้บรรดาอินฟลูเอนเซอร์บน Douyin (TikTok เวอร์ชันจีน) มาช่วยโปรโมตสินค้าต่าง ๆ ได้เช่นกัน
สิ่งที่บริษัทเทคโนโลยีต่างมองเห็นก็คือ ร้านกาแฟมักเป็นศูนย์รวมของคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นโลเคชันชั้นดีในการโปรโมตสินค้าและบริการของแบรนด์นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ การล่มสลายของ Luckin จึงไม่ใช่สิ่งที่ Starbucks ในจีนแผ่นดินใหญ่จะสบายใจได้แต่อย่างใด เพราะเชนกาแฟอย่าง Tim Hortons และ Manner Coffee ที่มีเงินทุนจากบริษัทเทคโนโลยีก็พร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นมาแย่งชิงส่วนแบ่งธุรกิจกาแฟมูลค่า 1.2 แสนล้านหยวนนี้
(ข้อมูลจาก Statista ระบุว่า เมื่อสิ้นปี 2020 Starbucks มีสาขาในจีนแผ่นดินใหญ่ 4,704 แห่ง จากสาขาทั่วโลกที่มีทั้งหมดกว่า 32,000 แห่ง)
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand