ครีเอเตอร์ช่อง HayanTree ขณะโพสต์คลิปขอโทษทางร้าน
เจ้าของร้านอาหารในเกาหลีใต้จำใจปิดกิจการหลังจากโดนครีเอเตอร์จากช่อง HayanTree โพสต์รีวิวถึงร้านในทางที่ไม่ดีจนกลายเป็นไวรัล
Korean Herald ระบุว่า ครีเอเตอร์จากช่อง HayanTree ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 700,000 รายได้โพสต์คลิปว่าพบเมล็ดข้าวในจานปูดองแบบรีฟิลซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของทางร้าน พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าร้านอาหารดังกล่าวอาจนำอาหารมาเวียนเสิร์ฟใหม่ โดยคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ไปเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2020 ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบตามมามากมาย
อย่างไรก็ตาม มีการตรวจสอบภาพจากกล้องรักษาความปลอดภัยและพบความจริงว่า เมล็ดข้าวที่ HayanTree พบในจานปูนั้น เป็นของเหลือจากอาหารจานก่อนของเขาเอง ส่งผลให้เขาโพสต์วิดีโอขอโทษทางร้านเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม
“ผมอยากขอโทษเจ้าของร้านอาหารที่ลงคลิปวิดีโอโดยไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่ตามมา แต่เจ้าของร้านเองก็ไม่สบายใจที่จะให้ผมถ่ายทำวิดีโอที่ร้านเพิ่มเพื่อขอโทษ” เขากล่าวพร้อมขอโทษสำหรับความไม่รู้ของตนเอง
ทั้งนี้ ทางเจ้าของร้านอาหารได้โพสต์คำร้องบนเว็บไซต์ชองวาแด หรือเว็บประธานาธิบดีเพื่อขอให้มีการคุ้มครองเจ้าของธุรกิจอิสระจากครีเอเตอร์ของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่อาจใช้พลังของแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง
“กว่าครีเอเตอร์คนนั้นจะกลับมาถ่ายวิดีโอให้ใหม่อีกครั้ง ร้านเราก็ปิดตัวลงแล้ว ผมรู้สึกท้อแท้และอยากทราบว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะป้องกันการละเมิดจากบรรดาครีเอเตอร์ที่มีอิทธิพลน่ากลัวกว่าไวรัสโคโรนา” เจ้าของร้านกล่าว
เจ้าของร้านอ้างว่าหลังจาก HayanTree โพสต์รีวิวไปนั้น ทีมงานของเขาพยายามอธิบายให้ผู้ชมเข้าใจว่าร้านอาหารไม่ได้นำอาหารกลับมาเวียนซ้ำโดยอาศัยภาพจากกล้องรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นดังกล่าวถูกปิดกั้นทำให้ผู้ชมคนอื่นไม่สามารถเห็นได้
นอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่าไม่เข้าใจว่าทำไม HayanTree จึงปล่อยให้คลิปวิดีโอกระจายไปทั่วทั้ง ๆ ที่เขาพยายามอธิบายแล้ว
คลิปดังกล่าวมีผู้เข้าชมถึงหนึ่งล้านครั้งก่อนที่ HayanTree จะลบออก นับตั้งแต่เกิดปัญหาขึ้นจำนวนสมาชิกของ HayanTree ก็ลดลงเหลือ 670,000 คน เขาได้ปิดคอมเม้นท์ในวิดีโอทั้งหมดของเขาด้วย
สำหรับช่อง HayanTree พวกเขาให้คำนิยามตัวเองว่าเป็น “restaurant explorer” และมีการโพสต์เนื้อหาเกี่ยวกับอาหารมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งมีผู้เข้าชมช่องของเขามากกว่า 200 ล้านครั้ง
จะเห็นได้ว่าเกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ Influencer ทั้งหลายมีอิทธิพลสมชื่อ และสามารถสร้างแรงกระเพื่อมบางอย่างให้เกิดขึ้นในสังคมได้จริง แต่หากใช้พลังเหล่านั้นในทางที่ผิดก็อาจทำให้มีคนเดือดร้อนในแบบที่ตัวเองไม่สามารถรับผิดชอบหรือแก้ไขอะไรได้เลย