HomeBrand Move !!“เกาหลีใต้” รุกหนักตลาดท่องเที่ยวไทย ชู ‘Travel Tech’ ปั้นนวัตกรรมมัดใจนักเดินทาง ตั้งเป้าสิ้นปีดึงดูดนักท่องเที่ยวไทย 3.6 แสนคน

“เกาหลีใต้” รุกหนักตลาดท่องเที่ยวไทย ชู ‘Travel Tech’ ปั้นนวัตกรรมมัดใจนักเดินทาง ตั้งเป้าสิ้นปีดึงดูดนักท่องเที่ยวไทย 3.6 แสนคน

แชร์ :

“เกาหลีใต้” ปรับเกมรบในตลาดท่องเที่ยวไทย จากเดิมที่เน้นการโปรโมตแหล่งท่องเที่ยว สู่การวางรากฐานเป็น “หุ้นส่วนทางธุรกิจระยะยาว” ผ่านกลยุทธ์เชิงรุกด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยว (Travel Tech) ดัน 10 สตาร์ทอัพชั้นนำบุกตลาดไทย หวังสร้างระบบนิเวศการเดินทางที่ไร้รอยต่อ พร้อมตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยให้ถึง 360,000 คนภายในสิ้นปี 2568

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ปรากฏการณ์ความนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อเกาหลีใต้ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ข้อมูลล่าสุดจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) ระบุว่า เพียงครึ่งแรกของปี 2568 มีคนไทยเดินทางไปเยือนเกาหลีแล้วกว่า 180,000 คน เพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตัวเลขนี้สะท้อนการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เกาหลีใต้ต้องยกระดับกลยุทธ์เพื่อมัดใจตลาดคุณภาพแห่งนี้

ล่าสุด ภายในงาน Techsauce Global Summit 2025 ศูนย์ส่งเสริมสตาร์ทอัพการท่องเที่ยวเกาหลี (KTSC) ได้จัดเวที KTSC Demo Day 2025 เพื่อเปิดตัว 10 สตาร์ทอัพดาวรุ่งด้าน Travel Tech ที่นำเสนอนวัตกรรมล้ำสมัย ครอบคลุมตั้งแต่แพลตฟอร์มบริหารจัดการโรงแรม (DOWHAT), เทคโนโลยีแปลภาษาเรียลไทม์ (ND Soft), แพลตฟอร์มท่องเที่ยวเชิงความงามและการแพทย์ (Healing Paper), ไปจนถึงแพลตฟอร์มการศึกษาควบคู่การท่องเที่ยว (Nanugi World)

 

 

ไม่ใช่แค่ตลาดแต่คือพาร์ตเนอร์

คุณยัง คยองซู รองประธานบริหาร สายงานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว KTO กล่าวอย่างชัดเจนว่า “เรามองประเทศไทยไม่ใช่แค่ฐานตลาด แต่คือพาร์ตเนอร์ระดับภูมิภาคที่พร้อมเติบโตไปด้วยกัน ธุรกิจไทยแข็งแกร่งด้านบริการ ส่วนเกาหลีมีจุดแข็งด้านนวัตกรรม หากเชื่อมสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน เราจะเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกๆ ที่ได้เปรียบในตลาดท่องเที่ยวยุคใหม่”

วิสัยทัศน์ดังกล่าวถูกทำให้เป็นรูปธรรมผ่านการทำงานของ KTSC กรุงเทพฯ ซึ่งเปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2567 และได้กลายเป็น “ตัวกลางขับเคลื่อนความร่วมมือทางธุรกิจ” อย่างแท้จริง มีเป้าหมายเชื่อมโยงสตาร์ทอัพเกาหลีกับภาคธุรกิจไทย ตั้งแต่การวิจัยตลาดไปจนถึงการอำนวยความสะดวกด้านกฎหมาย โดยไทยถือเป็นแห่งที่ 3 ต่อจากสิงคโปร์และโตเกียว ได้พัฒนาบทบาทจากแพลตฟอร์ม soft-landing สำหรับสตาร์ทอัพเกาหลี

ไปสู่การเป็น “ตัวกลางขับเคลื่อนความร่วมมือทางธุรกิจ” ที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการเกาหลีกับภาคธุรกิจไทยในหลายมิติ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการขยายตลาดของสตาร์ทอัพท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีนวัตกรรมด้านแพลตฟอร์มท่องเที่ยว, คอนเทนต์เสมือนจริง และ AI ตั้งแต่การวิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจ การวิจัยตลาด และการทดลองใช้เทคโนโลยี (PoC) โดยมุ่งหวังให้เกิดการปรับผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับตลาดไทย ตลอดจนการอำนวยความสะดวกด้านข้อกฎหมายและกระบวนการจัดตั้งธุรกิจในประเทศไทย ปัจจุบันมี 12 บริษัทเข้าร่วมโครงการ โดย 2 ราย ได้แก่ Lala Station และ Seoul Unniedeul (Star Secret Korea) ได้จดทะเบียนบริษัทในไทยแล้ว และมีความร่วมมือมากกว่า 16 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ

ขณะเดียวกัน GroundK ผู้ให้บริการโซลูชันการเดินทางครบวงจรสำหรับลูกค้าองค์กร ทั้งในด้านพัฒนาซอฟต์แวร์ Mobility และบริการท่องเที่ยว ได้จับมือกับ The Trago แพลตฟอร์มจองตั๋วเรือและเรือเฟอร์รี่ออนไลน์ของไทย ถือเป็นหนึ่งในความร่วมมือทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจริงจากการสนับสนุนของ KTSC ตลอดปีที่ผ่านมา

 

เจาะลึกกลยุทธ์ผ่านนวัตกรรมที่ตอบโจทย์

กลยุทธ์ของเกาหลีใต้มุ่งเน้นการแก้ปัญหาและสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้นักเดินทางไทย ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ (Independent Travelers) ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีตัวอย่างความสำเร็จที่น่าสนใจ เช่น:

  • Healing Paper (GangnamUnni): แพลตฟอร์มท่องเที่ยวเชิงความงามที่ให้ข้อมูลศัลยกรรมและการแพทย์ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานจากไทยกว่า 2,000 รายต่อเดือน
  • Seoul Unniedeul (Star Secret Korea): แพลตฟอร์มทัวร์คอมเมิร์ซที่ผสมผสาน K-Beauty และแฟชั่น เตรียมเปิดตัวสินค้ากว่า 300 รายการที่ออกแบบมาเพื่อตลาดไทยโดยเฉพาะ
  • GroundK: ผู้ให้บริการโซลูชันการเดินทาง ได้จับมือกับ The Trago แพลตฟอร์มจองตั๋วเรือของไทย เพื่อสร้างบริการที่ครบวงจรยิ่งขึ้น

ความท้าทายและมุมมองในอนาคต

แม้ความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ก็ยังมีความท้าทายอยู่บ้าง โดย KTO ยอมรับว่าปัญหาการติดด่านตรวจคนเข้าเมืองยังคงมีอยู่ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงเมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวไทยทั้งหมด

ในขณะเดียวกัน มุมมองของนักท่องเที่ยวเกาหลีที่เดินทางมาไทยก็เปลี่ยนไป พวกเขาไม่ได้กังวลเรื่องความปลอดภัยมากนัก แต่ระมัดระวังมากขึ้นและให้ความสำคัญกับความโปร่งใสของบริการและความคุ้มค่าของเงินที่จ่าย

คุณยัง คยองซู ทิ้งท้ายด้วยมุมมองเชิงยุทธศาสตร์ว่า “ถ้าการท่องเที่ยวจะอยู่รอดในเศรษฐกิจแบบนี้ เราต้องเปลี่ยนเกม ไม่ใช่แค่เพิ่มงบโฆษณา แต่ต้องยกระดับ ‘ระบบ’ ที่รองรับการเดินทางจริงๆ เราไม่ได้มองว่าไทยเป็นแค่ตลาดปลายทาง แต่คือพาร์ตเนอร์ที่กล้าทดลองและพร้อมเติบโตไปกับเรา”

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของเกาหลีใต้จึงไม่ใช่เพียงการดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่เป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่จะทำให้การเดินทางไปเกาหลีของคนไทยเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาฐานแฟนคลับชาวไทยและบรรลุเป้าหมาย 360,000 คนในระยะยาว


แชร์ :

You may also like