มีการศึกษาโดย AlgorithmWatch ระบุว่า อัลกอริทึมของ Instagram เลือกที่จะเอาภาพนุ่งน้อยห่มน้อยของผู้ใช้งานทั้งเพศชาย-หญิงขึ้นมาให้พวกเราดูก่อนเป็นอันดับแรก ๆ ในฟีด ซึ่งอาจส่งผลต่อการสร้างคอนเทนต์ของครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มดังกล่าว หากอยากได้ยอด Reach สูง ๆ
โดยงานวิจัยดังกล่าวใช้ชื่อว่า ‘Undress or fail: Instagram’s algorithm strong-arms users into showing skin’ ซึ่งนักวิจัยเจ้าของผลงานดังกล่าวได้ขอร้องให้อาสาสมัคร 26 คนติดตั้ง Add-on ของเบราว์เซอร์ และฟอลโล่แอคเคาท์ Instagram ที่กำหนด โดยทั้งหมดเป็นแอคเคาท์ของคอนเทนท์ครีเอเตอร์ระดับ Professional ทั้งสิ้น
สำหรับการเก็บข้อมูลจะเริ่มเมื่ออาสาสมัครเปิดหน้าโฮมเพจของ Instagram ขึ้นมา (เวลาใดก็ได้) ตัว Add-on จะบันทึกว่า โพสต์ใดบ้างที่ปรากฏขึ้นในหน้าแรกของ Newsfeed ซึ่งเมื่อนำภาพที่อาสาสมัครได้เห็นทั้งหมด 2,400 ภาพไปวิเคราะห์ มีโพสต์ของผู้หญิงสวมบิกินี่ปรากฏขึ้นบน Newsfeed ของอาสาสมัครราว 54% ขณะที่ภาพผู้ชายเปลือยท่อนบนปรากฏขึ้นราว 28% ส่วนภาพอาหาร และภาพวิวทิวทัศน์ พบว่าถูกลดการแสดงผลลงราว 60% ของ Newsfeed
ทั้งนี้ ทางทีมวิจัยเผยว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจไม่เกิดกับผู้ใช้ Instagram ทุกคน แต่ก็ทำให้รู้ได้ว่า Instagram จัดการกับโพสต์ต่าง ๆ อย่างไร
“เราเลือกครีเอเตอร์ 37 คน (เป็นผู้ชาย 14 คน) จาก 12 ประเทศที่ใช้ Instagram เพื่อโฆษณาแบรนด์หรือหาลูกค้าใหม่สำหรับธุรกิจของพวกเขา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจอาหาร การท่องเที่ยว ฟิตเนส แฟชั่นและความงาม”
สำหรับการเก็บข้อมูล ทำขึ้นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม การเก็บสถิติพบว่ามีการเผยแพร่โพสต์ทั้งหมด 1,737 โพสต์ รวม 2,400 ภาพจากคอนเทนท์ครีเอเตอร์ที่กำหนด โดยทั้งหมดของการโพสต์เหล่านี้ มี 362 ภาพ หรือ 21% จะเป็นรูปภาพผู้หญิงในชุดบิกินี่หรือชุดชั้นใน และภาพผู้ชายเปลือยอก
อย่างไรก็ดี นักวิจัยกล่าวว่ามันเป็นไปได้ที่อัลกอริทึมของ Instagram จะมีแนวโน้ม “โชว์ภาพเนื้อหนังมังสาจนเป็นเรื่องปกติ” แต่ปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยอื่น ๆ ก็อาจมีผลต่อผู้ใช้งานบางคนเช่นกัน นักวิจัยยังกล่าวอีกว่าหากไม่มีการเข้าถึงข้อมูลภายในของ Facebook และเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานจริง ก็ยังไม่สามารถฟันธงข้อสรุปที่ชัดเจนได้
ด้าน Facebook บริษัทแม่ของ Instagram ตอบโต้ต่องานวิจัยนี้ในแถลงการณ์ โดยกล่าวว่าการวิจัยนี้ มีข้อบกพร่องในหลายด้าน และแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีการทำงานของ Instagram เพราะบริษัทมีการจัดอันดับโพสต์ในฟีดของผู้ใช้งานตามเนื้อหาและแอคเคาท์ที่ผู้ใช้งานสนใจ ไม่ใช่ปัจจัยที่มีอิทธิพลอื่น ๆ อย่างชุดว่ายน้ำวาบหวิว
ด้านนักวิจัยตอบโต้แถลงการณ์ดังกล่าวโดยอธิบายว่าในปี 2015 ทาง Facebook แสดงสิทธิบัตรที่มีการเปิดเผยว่าฟีดข่าวสามารถเลือกรูปภาพที่มีอิทธิพลกับผู้ใช้ ในปัจจัยบางอย่างที่ช่วยในการกำหนดลำดับความสำคัญเหล่านี้ รวมถึงเพศ เชื้อชาติ และ “state of undress”
“ในขณะที่ Instagram อ้างว่าฟีดข่าวนั้นถูกจัดเรียงตามสิ่งที่ผู้ใช้ให้ความสนใจมากที่สุด แต่สิทธิบัตรของบริษัทอธิบายว่า ความจริงแล้วระบบสามารถจัดอันดับตามสิ่งที่มันคิดว่าผู้ใช้งานจะสนใจได้” นักวิจัยกล่าว
นักวิจัยยังแสดงความกังวลว่าอัลกอริทึมอาจส่งผลทำให้คอนเทนท์ครีเอเตอร์โพสต์ภาพวาบหวิวมากขึ้น หากพวกเขาต้องการยอด reach เยอะ ๆ โดยกล่าวว่าผลกระทบนี้อาจนำมาสู่ความพยายามในการสร้างคอนเทนท์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุดของธุรกิจที่ลงโฆษณาบน Instagram แม้ว่าคอนเทนท์เหล่านั้นอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจของพวกเขาเลยก็ตาม