ไม่เคยหยุดนิ่งจริงๆ สำหรับร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่อย่าง 7-Eleven ล่าสุดเดินหน้าเข้าใกล้ผู้บริโภคมากขึ้นอีกขั้น ปล่อยแอปพลิเคชั่น “7-Delivery” บริการเลือกและสั่งซื้อสินค้าในร้าน 7-Eleven โดยจะเลือกรับสินค้าที่หน้าร้าน หรือจะเลือกให้จัดส่งสินค้าที่บ้านก็ได้ พร้อมกระจาย “ตู้จัดจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ” เจาะย่านที่พักอาศัย คอนโด อาคารสำนักงาน โรงเรียน มหาวิทยาลัย รวมถึงโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า มากกว่ารอให้ลูกค้าแวะเข้ามาที่ร้านเพียงอย่างเดียว และนับเป็นการปรับตัวสู้ศึกธุรกิจเดลิเวอรี่ครั้งสำคัญ!
หลังจาก 7-Eleven เริ่มทดลองให้บริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน (Delivery) ในปี 2561 ที่ผ่านมา ให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าที่ต้องการผ่านทาง Official LINE ของ 7-Eleven ได้ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ในพื้นที่ทดลองย่านปิ่นเกล้า ได้แก่ สาขาซอยบรมราชชนนี 4 และสาขาบริเวณหมู่บ้านสีวลี-ราชพฤกษ์
ล่าสุดได้ขยายมาสู่ช่องทางแอปพลิเคชั่น “7-Delivery” ที่เปิดให้ดาวน์โหลดครั้งแรกเมื่อ 3 เดือนก่อน เพื่อทดลองให้บริการส่งสินค้าในเขตพื้นที่ชุมชน ที่อยู่อาศัย ย่านอาคาร สำนักงาน ในช่วงแรกราวๆ 100 สาขา
สำหรับแอปพลิเคชั่น “7-Delivery” ลูกค้าสามารถเลือกและสั่งซื้อสินค้าจากร้าน 7-Eleven ได้ตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น. โดยมีหมวดหมู่สินค้าให้เลือกตั้งแต่ สินค้าเบเกอรี่จากคัดสรร สินค้ากลุ่มของกิน เช่น เครื่องดื่มจาก All Cafe แซนด์วิช อาหารพร้อมทานในเครือ CP สินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม เช่น นม โยเกิร์ต สินค้ากลุ่มของใช้ เช่น ยาสีฟัน แป้ง แชมพู นอกจากนี้ยังมีสินค้าในหมวดอื่นๆ อาทิ อาหารสุนัข-แมว หนังสือการ์ตูน หลอดไฟ รวมไปถึงหมวดสินค้าใหม่ และสินค้าที่มีเฉพาะใน 7-Eleven
จากการทดลองใช้บริการสั่งซื้อสินค้าผ่านแอปฯ 7-Delivery ที่ร้าน 7-Eleven สาขา “โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน” ซึ่งเป็นหนึ่งในสาขาที่ให้บริการสั่งซื้อสินค้า และรับสินค้าท่ีหน้าร้าน พบว่า หลังจากที่กดเลือกและสั่งซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่นแล้ว พนักงานประจำสาขาจะเป็นผู้รับออเดอร์ และจัดเตรียมสินค้า โดยใน 1 กะของการทำงาน จะมีพนักงานประจำสาขา 1 คนที่ทำหน้าที่จัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า ซึ่งจะให้บริการ “ส่งฟรี” สำหรับลูกค้าที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 3 กม. และมียอดคำสั่งซื้อตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป สามารถเลือกชำระเงินได้ 2 ช่องทาง คือ จ่ายเงินสดปลายทาง หรือจ่ายผ่าน TrueMoney Wallet รวมถึงสามารถเลือก “รับ–ไม่รับถุงพลาสติก” ได้ด้วย
จากการสอบถาม “พนักงานประจำสาขา” ระบุว่า ที่สาขาโรงพยาบาลเปาโล สะพานควาย เริ่มให้บริการสั่งซื้อสินค้าผ่านแอป 7-Delivery เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมีออเดอร์เฉลี่ย 20 ออเดอร์ต่อวัน โดยเป็นส่วนมากเป็นลูกค้าจากในโรงพยาบาล ที่มักจะสั่งซื้อเครื่องดื่มของ All Cafe ในช่วงเช้า
นอกจากนี้ฟีเจอร์เลือกและสั่งซื้อสินค้าบนแอปพลิเคชั่นแล้ว ลูกค้าสามารถติดตามสถานะการสั่งซื้อ ที่จะมีการแจ้งเตือนเมื่ออยู่ในสถานะ เช่น รับออเดอร์, กำลังจัดของ รวมถึงสามารถดูประวัติการสั่งซื้อได้ และหากเป็นสมาชิก All Member ระบบจะเชื่อมต่อฐานข้อมูลผู้ใช้เพื่อมอบ “คะแนนสะสม” ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งภายในแอปฯ ยังมีฟีเจอร์ “คูปองของฉัน” ที่ลูกค้าสามารถใช้คูปองโปรโมชั่นได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน พบว่า ที่นี่ยังมีการติดตั้ง “ตู้จัดจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ” (Vending Machine) หลังจากเริ่มให้บริการนำร่องที่โรงพยาบาลคามิลเลียน ทองหล่อ เมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งภายในตู้จำหน่ายมีสินค้า ให้เลือกในหมวดของกิน ดื่ม เช่น สแน็ค อาหารพร้อมทาน นม เครื่องดื่มชูกำลัง ในราคาใกล้เคียงกับที่ร้าน 7-Eleven โดยบริเวณด้านข้างตู้มี “ไมโครเวฟ” เพื่อให้บริการสำหรับสินค้าที่ต้องการอุ่นร้อน
สำหรับการใช้งาน ลูกค้าสามารถกดเลือกสินค้าที่ต้องการได้ผ่านหน้าจอ จากนั้นเลือกช่องทางการชำระเงิน สามารถเลือกจ่ายได้ทั้งเงินสด หรือถ้าไม่มีเงินสดก็สามารถจ่ายผ่าน TrueMoney Wallet, พร้อมเพย์ และบัตรเครดิต บัตรเดบิต ที่สามารถชำระผ่าน QR Code หรือเสียบบัตรที่ตู้เพื่อชำระเงินได้ทันที
อย่างไรก็ตาม บริการเดลิเวอรี่ถือเป็นเทรนด์ที่มาแรงมากในช่วงปีที่ผ่านมา เชื่อว่า หากกระแสตอบรับดี ในอนาคต 7-Eleven จะขยายพื้นที่การจัดส่งสินค้า และติดตั้งตู้จัดจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติให้ครอบคลุมหลากหลายพื้นที่มากยิ่งขึ้น