Picnic with the Colonel Picnic with the Colonelโดยสิ่งประดิษฐ์ทั้ง 5 ชิ้นนั้นประกอบด้วย Picnic with the Colonel เก้าอี้ปิคนิคที่ผลิตจากกระดาษลัง ซึ่งปัจจุบันระดมทุนไปได้แล้วประมาณ 270 เหรียญสหรัฐ และ KFC กำหนดไว้ว่าจะรับเงินก้อนนี้ก็ต่อเมื่อสามารถระดมทุนได้ 32,248 เหรียญสหรัฐภายใน 25 วัน
ต่อมาเป็นไม้เท้าของผู้พันแซนเดอร์ส Smart Cane Remote ที่สามารถเป็นรีโมตเปลี่ยนช่องทีวีได้ โดยในวิดีโอพรีเซนเทชัน ระบุไว้ว่ามีการติดตั้งไจโรสโคป และไมโครคอนโทรลเลอร์ลงไป เพื่อให้ไม้เท้ารับคำสั่งเปลี่ยนช่องผ่านการเคลื่อนไหวไม้เท้าขึ้น – ลง ซึ่งในขณะที่เราหาข้อมูลอยู่นี้ ไม้เท้าของผู้พันระดมทุนไปได้แล้ว 110 เหรียญสหรัฐจากเป้าที่ตั้งไว้ 195,052 เหรียญสหรัฐภายใน 25 วัน
จริง ๆ อ่านมาถึงตรงนี้ โอกาสที่จะระดมทุนไม่ได้ตามเป้าหมายก็ถือว่าสูงมากแล้วนะ แต่ไม่เป็นไร เราจะนำเสนอต่อไป
เพราะชิ้นที่ 3 คือ Little Colonel Locator สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของผู้พันแซนเดอร์ส กับการผูกหูกระต่าย (แต่ก็อาจทำให้หลายคนคิดถึงนักสืบจิ๋วโคนันด้วยเช่นกัน) สำหรับความพิเศษของหูกระต่ายชิ้นนี้ก็คือ มันสามารถบอกตำแหน่งที่อยู่ของเราได้ผ่านบลูทูธ และทำงานได้ในระยะ 100 เมตรจากสมาร์ทโฟน ชิ้นนี้ตั้งเป้าหมายในการระดมทุนเอาไว้ที่ 10,050 เหรียญสหรัฐ และปัจจุบันมีคนสนับสนุนเงินแล้วประมาณ 1,200 เหรียญสหรัฐ
ชิ้นที่ 4 เป็น Kentucky Fried Hot Tub อ่างแช่น้ำอุ่นกลางแจ้งที่นำกล่องใส่ไก่ทอด KFC มาเป็นต้นแบบ และสามารถลงไปแช่ร่วมกันได้ถึง 5 คน ส่วนการทำความร้อนใช้การเผาไหม้จากถ่านไม้ ชิ้นนี้ก็ตั้งเป้าในการระดมทุนไว้ที่ 46,683 เหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
แคมเปญสุดท้ายคือ Colonel on Ice ที่ KFC บอกว่าอยากจะนำเสนออัตชีวประวัติของผู้พันในรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าการนั่งอ่านหนังสือเล่มใหญ่ หนา และหนัก ก็เลยมาอยู่ในรูปของการแสดงไอซ์สเก็ตโดยนักเล่นไอซ์สเก็ตมืออาชีพพร้อมชุดและฉากหลังที่สามารถเดินทางไปเปิดการแสดงได้ทั่วสหรัฐอเมริกา โดยแคมเปญนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้นเอง
KFC ยังบอกอีกด้วยว่า ทั้งหมดนี้พวกเขาจริงจัง ไม่ได้ทำเอาฮา และใครที่ร่วมสนับสนุนทั้ง 5 แคมเปญก็ควรจะได้รับสินค้าที่ตัวเองใส่เงินลงมาภายใน 1 – 6 เดือน (ถ้าโปรดักท์สามารถระดมทุนได้ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้เท่านั้นนะ แต่ถ้าทำตามเป้าไม่ได้ ทางระบบก็จะรีฟันด์เงินนั้นคืนให้ตามเดิม) พร้อมยืนยันว่าเงินที่ผู้คนให้การสนับสนุนมาจะไม่ได้เล็ดลอดเข้ากระเป๋าของบริษัทแม่อย่าง KFC แน่นอน
เราทำเพื่อนวัตกรรมจริง ๆ เชื่อ KFC เถอะ