HomeBrand Move !!ถอดรหัสความสำเร็จ สยามพิวรรธน์ ผลักดัน สยามดิสคัฟเวอรี่ สู่รางวัล “Store Design of the Year” จากงาน World Retail Awards 2017

ถอดรหัสความสำเร็จ สยามพิวรรธน์ ผลักดัน สยามดิสคัฟเวอรี่ สู่รางวัล “Store Design of the Year” จากงาน World Retail Awards 2017

แชร์ :

นับว่าเป็นภูมิใจอีกครั้งขององค์กรที่มีอายุเกือบ 60 ปี อย่าง บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กับการคว้ารางวัลระดับโลกจาก World Retail Awards ในสาขา Store Design of the Year กับ สยามดิสคัฟเวอรี่ – ดิ เอ็กซ์พลอราทอเรียม (Siam Discovery – The Exploratorium) ไฮบริดรีเทลสโตร์แห่งแรกของประเทศไทย โดยยังเป็นศูนย์การค้าเดียวจากเอเชียที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศติดอันดับ 1 ใน 10 ในอีกหนึ่งสาขา คือ Best Instore Customer Experience Initiative ซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จที่สำคัญยิ่งของการก้าวมาทำธุรกิจค้าปลีกที่สร้างความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็ได้กวาดรางวัลจากเวทีทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมาครอบครองมากมาย อาทิ Thailand Property Awards, Southeast Asia Property Awards

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

การคว้ารางวัลในครั้งนี้นับว่าเป็นการการีนตีว่า แนวคิด “ผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย” ซึ่งสยามพิวรรธน์ใช้เป็นแนวทางในการออกแบบและบริหารศูนย์การค้าในช่วงนี้ เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยอย่างแท้จริง

คุณแป๋ม-ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “หลังจากที่ได้ประกาศนโยบายและแผนการลงทุน 5 ปี ไปเมื่อปี 2557 สยามพิวรรธน์มีจุดยืนที่มั่นคงและแข็งแกร่ง ในฐานะ “ผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย” เน้น “สร้างประสบการณ์แตกต่างที่ตรงใจ” ใน 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ลงทุนในธุรกิจค้าปลีกที่ปฎิวัติวงการโดยสิ้นเชิงนอกจากจะช่วยต่อยอดความสำเร็จให้แก่ ผู้ประกอบการร้านค้า และพันธมิตรทางธุรกิจแล้วยังร่วมกันสร้างประสบการณ์ที่ตื่นเต้นล้ำยุคอยู่เสมอ”

ด้วยโครงการที่ถูกสร้างสรรค์ตลอด 3-5 ปีที่ผ่านมาของสยามพิวรรธน์ ไม่ว่าจะเป็น สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ เรามุ่งเน้นความสำคัญในการออกแบบตกแต่งพื้นที่ให้มีความแตกต่าง โดยเลิกยึดติดกับกรอบเดิมๆ ในการออกแบบพื้นที่ศูนย์การค้า หรือการออกแบบ ร้านค้าทั่วๆไป สยามพิวรรธน์จึงเริ่มใช้หลักการในการ “สร้างพื้นที่” ที่เปิดโล่งเพื่ออำนวยต่อการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ลูกค้าได้เห็นอยู่เสมอ เราเป็นคนแรกในวงการที่แนะนำการสร้าง Open space ขนาดใหญ่ ที่สามารถนำเสนอ Pop-up Store, Event Marketing และสินค้าที่เป็น Limited collection และ Collaborative collection ที่เราร่วมกันผลิตกับ Retailer นำเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ลูกค้าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่หมุนเวียน เร้าใจ และในขณะเดียวกัน คนรุ่นใหม่ปรารถนาที่จะได้สัมผัสกับงานศิลปะต่างๆ ไปพร้อมๆกับการทำกิจกรรมที่สนุกสนาน พร้อมๆกับการจับจ่ายใช้สอย  เราจึงต้องทำงานร่วมกับที่ปรึกษาจากต่างประเทศที่มีชื่อเสียง Artist ที่ได้รับรางวัลระดับโลก ในการสร้าง Space ที่แปลกใหม่ อีกทั้งได้ร่วมกับสถาปนิก มัณฑนากร และ Artist ไทย เพื่อสร้าง Space ที่ผสมผสาน Art, Fashion, Technology เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เป็นมากกว่าร้านค้า เพื่อลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ระดับโลก อย่างแท้จริง

สยามพิวรรธน์เชื่อว่า วัฎจักรค้าปลีกมี Life Cycle ที่สั้นลงมาก สินค้าบางประเภท บางยี่ห้ออาจได้รับความนิยมอย่างสูงเพียงระยะสั้น เพราะผู้บริโภคมองหาความแปลกใหม่ตลอดเวลา อีกทั้งการค้าปลีกทั่วโลกก็ได้รับผลกระทบจากการจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทาง Online และ E-Commerce ดังนั้น บริษัทจึงยึดมั่นใน 4  กลยุทธ์หลักที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจใน 3 ปีที่ผ่านมาเพื่อความสำเร็จในระยะยาว คือ

1.การเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมอันล้ำสมัย ที่นำหน้าคู่แข่งอยู่เสมอ

สยามพิวรรธน์มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมและประสบการณ์แตกต่างที่ตรงใจ ออกมาในรูปแบบคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ในการพัฒนาโครงการ ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ไลฟ์สไตล์ล้ำยุคที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย และเป็นครั้งแรกในโลกในทุกโครงการ

2.พิชิตใจลูกค้าด้วยการเข้าถึง เข้าใจและมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง (Customer Centric)

อิทธิพลของเทคโนโลยีทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งทำให้เราคาดเดาพฤติกรรมผู้บริโภคในระยะยาวได้ยากขึ้น สยามพิวรรธน์จึงต้องเตรียมพร้อมรับความปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้ ความสำคัญคือเราต้องเข้าใจกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการหลากหลายเราจึงมีหน่วยงานที่ทำการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทรนด์ในปัจจุบัน เพื่อให้สามารถตอบรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

3.สร้างคุณค่าผ่านการบอกเล่าเรื่องราวที่มีความหมายให้แก่แบรนด์สินค้าอย่างต่อเนื่อง

สยามพิวรรธน์ มีเป้าหมายในการสร้างแบรนด์ให้แก่ธุรกิจของสยามพิวรรธน์ และเสริมคุณค่าแบรนด์สินค้าของผู้ประกอบการ ผู้เช่า ด้วยการปฏิวัติวิธีการทำการตลาดใหม่ทั้งหมด โดยหัวใจของการบริหารแบรนด์ให้สำเร็จในปัจจุบัน คือ ความสามารถในการเปลี่ยน “คุณค่า” เป็น “มูลค่า” จะต้องสร้าง “คุณค่า” ให้กับแบรนด์เป็นอันดับแรก ทำให้ผู้คนรู้สึกรักและผูกพันกับแบรนด์ เราจึงเน้นการสื่อสารที่เชื่อมโยงกับลูกค้าในทุกช่องทาง เพื่อสร้างความผูกพันที่แข็งแกร่งระหว่างกับแบรนด์กับลูกค้า เน้นการสร้างประสบการณ์ ให้ลูกค้ากลายเป็น Brand advocacy ที่กลับออกไป Post, Chat ,Share ใน Community ของตน

4.การร่วมงานกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อความสำเร็จร่วมกันของทุกฝ่ายอย่างแท้จริง

สยามพิวรรธน์เชื่อว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนและการผนึกกำลังของพันธมิตรทางธุรกิจจะทำให้เกิดความสัมพันธ์ระยะยาวซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจที่ดี ถ้าเราปฏิบัติอย่างถูกวิธี ด้วยการ empowering ลูกค้าได้มีส่วนร่วม ก็สามารถทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้

“รางวัลที่สยามพิวรรธน์ได้รับในครั้งนี้ เป็นความสำเร็จของผู้ประกอบการกว่า 5,000 แบรนด์ที่อยู่ในสยามดิสคัฟเวอรี่ – ดิ เอ็กซ์พลอราทอเรียม รวมถึงบรรดาลูกค้าที่เป็นคนให้แนวคิด ทำให้สยามดิสคัฟเวอรี่ – ดิ เอ็กซ์พลอราทอเรียม สามารถสร้างเรื่องราวแปลกใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง และถือเป็นรางวัลเกียรติยศสำหรับคนไทยและประเทศไทย ที่สามารถสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการธุรกิจค้าปลีกไทยไปสู่การยกย่องระดับโลก ทั้งยังเป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นผู้นำที่ล้ำสมัยของสยามพิวรรธน์ ที่พร้อมต่อยอดการสร้างมหาปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นที่โครงการไอคอนสยามในเร็ว ๆ นี้” คุณชฎาทิพกล่าวปิดท้าย

จากแนวคิดนำมาสู่รูปธรรมที่เกิดขึ้น การรีโนเวท สยามดิสคัพเวอรี่มีมูลค่าสูงถึง 4,000 ล้านบาท ใช้เวลาทั้งหมด 18 เดือน ด้วยคอนเซ็ปท์ที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นที่ต้องการให้เป็น ไฮบริดรีเทลสโตร์ “The Biggest Arena of Lifestyle Experiments หรือ สนามประลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์” ทำให้จากเดิมที่ร้านค้าภายในศูนย์มีเพียงหลักแบรนด์ กลายเป็นมีสินค้ากว่า 5,000 แบรนด์ที่สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนตามเทรนด์ในช่วงนั้นๆ อีกทั้งยังมีพื้นที่โล่งที่สามารถจัดกิจกรรมได้หลากหลาย ส่งผลให้มีผู้บริโภคแวะเวียนมาตามหาสินค้าหรือร่วมอีเว้นท์ที่ตัวเองสนใจ สร้างทราฟฟิคให้กับศูนย์คึกคักอยู่เสมอ โดยที่ยังคงภาพลักษณ์ของความน่าค้นหา และสนุกอยู่ตลอด สยามพิวรรธน์สร้างสรรค์ให้ สยามดิสคัฟเวอรี่ในวันนี้ ไม่ใช่แค่ศูนย์การค้าที่ลูกค้ามาช็อปปิ้ง แต่เป็นการมอบประสบการณ์ ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจมากมายกระจายอยู่ทั่วศูนย์ …  Siam Discovery – The Exploratorium จึงเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาถึงการปรับตัวของธุรกิจรีเทลในช่วงเวลาที่กระแสการมาของ E-Commerce ร้านค้าออนไลน์ทั้งหลายกำลังท้าทายร้านค้าแบบดั้งเดิม และนับเป็นอีกความภูมิใจของคนไทย

ในฐานะสื่อมวลชนที่ติดตามข่าวของสยามพิวรรธน์ ต้องบอกว่าหลังจากคว้าสุดยอดรางวัลนี้มาแล้ว ก็ขอตั้งตารอ(และจับตาดู)โปรเจ็กท์ “ไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมือง” ที่สยามพิวรรธน์เป็นหนึ่งในพันธมิตรดูแลด้านรีเทล ในเมื่อ สยามดิสฯ ยังขนาดนี้ ไอคอนสยาม คุณแป๋ม ต้องจัดหนักกว่านี้อีกชัวร์! 


แชร์ :

You may also like