เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงานแถลงข่าว “New Season New Home” สำหรับ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ผู้ได้ลิขสิทธิ์จาก The Football Association Premier League Limited (Premier League) อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity right) ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ 6 ฤดูกาล …
หลังจากบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าได้รับสิทธิถ่ายทอดสดรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ ครอบคลุมประเทศไทย ลาว และกัมพูชา
ถึงแม้ว่าทาง Premier League จะไม่เปิดเผยยอดผู้ชมในฤดูกาล 2021/22 ที่ผ่านมา แต่ Nielsen* ผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดผลเรตติ้งระดับโลก ประเมินว่า การแข่งขันระหว่าง แมนเชสเตอร์ซิตี้-ลิเวอร์พูล น่าจะมีผู้ชมราว 20 ล้านคนทั่วโลก และตลอดฤดูกาลการแข่งขัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็น่าจะมีผู้ชมทั้งหมด 3 พันล้านวิว ขณะที่สถิติฟุตบอลโลกปี 2018 จาก FIFA ระบุว่าในนัดชิงชนะเลิศ ที่พบว่ามีผู้ชม 884 ล้านจอทั่วโลก ตอกย้ำให้เห็นว่า …
“กีฬา” ถือเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่ผู้คนชื่นชอบและติดตามเป็นแฟนตัวยง ในประเทศไทยคนที่ติดตามดูกีฬาทุกประเภท โดยเฉพาะฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่มีสัดส่วนผู้สนใจมากกว่า 20% แต่ก็ไม่ใช่ข้อจำกัดของการเข้าถึงกีฬาของคนอีก 80% เพราะความสวยงามของ “น้ำใจนักกีฬา” (Sportsmanship) สามารถมาอยู่นอกสนาม เกิดขึ้นได้ในทุกที่และอยู่ในใจทุกคน
Facebook แสดงความตั้งใจในการเข้าสู่สังเวียนถ่ายทอดสดกีฬาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยว่าจ้าง CEO ของ Eurosport อย่าง Peter Hutton มาเป็นหัวหน้าทีมต่อรองกับการถ่ายทอดสดทั่วโลก ซึ่งดูเหมือนว่า Hutton จะทำสำเร็จ ล่าสุดตกลงสัญญากับพรีเมียร์ลีก ด้วยมูลค่ากว่า 200 ล้านปอนด์ (หรือกว่า 8.78 พันล้านบาท) คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกมาได้
ช็อค !! วงการกีฬาและวงการสื่อไปตามๆ กัน เมื่อ TRUE Vision เจ้าของลิขสิทธิ์ผูกขาดการถ่ายทอดสดฟุตบอลมานานนับเกินสิบปี ถ้ารวมตั้งแต่เป็น UBC งานนี้มีข่าวลือว่า CTH ผู้มาใหม่วางเงินประมูลถึง 300 ล้านเหรียญมากกว่าที่ทรูประมูลคราวที่แล้วถึง 5 เท่า เพื่อแลกกับลิขสิทธิ์รายการแข่งขันแบบฤดูกาลที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลกและในประเทศไทยใน 3 ฤดูกาลข้างหน้า ทีนี้เราลองมาทำความรู้จักกับ CTH กันแบบฉบับสั้นๆ เพราะรับรองว่าชื่อนี้จะติดหูคอบอลไปอีกอย่างน้อย 3 ปีแน่นอน
