ตั้งเป้าเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งของโลกในปี 2020 แต่นาทีนี้ดูเหมือน Huawei จะเจออุปสรรคถาโถมเข้ามาไม่น้อย โดยอุปสรรคข้อล่าสุดก็คือ “Google” เมื่อมีรายงานว่า Google ได้ยุติการทำธุรกิจกับ Huawei ทั้งในด้านซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ แล้ว นอกเหนือจากส่วนที่เป็นโอเพ่นซอร์สของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่เปิดให้เข้าถึงได้ปกติ
ดูเหมือนจะเป็นวิกฤติของบริษัทเทคโนโลยีต่อเนื่องกันไปเลย เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวานกับเหตุการณ์ที่ Gmail กับ Google Drive ล่มทั่วโลก ส่งผลให้ผู้ใช้งานไม่สามารถอัปโหลดไฟล์ขึ้นสู่ระบบได้ ก่อนที่ตกดึกเมื่อประมาณ 01.00 น.ของวันนี้ ปรากฏการณ์แอปฯล่มจะลามต่อเนื่องมาถึง Facebook และบริษัทในเครือที่เข้าใช้งานไม่ได้แล้วเช่นกัน
การทำ Digital Marketing ได้ผ่านพ้นช่วง Early Stage ที่สื่อดิจิทัลเพิ่งเข้าถึงผู้คนได้จำกัดเฉพาะกลุ่ม รวมทั้งการเติบโตและความพร้อมขององค์ประกอบอื่นๆ ที่ยังไม่เอื้ออำนวยมากนัก ส่งผลให้การวัดประสิทธิภาพของสื่อดิจิทัลขณะนั้น ให้ความสำคัญกับความสามารถในการเข้าถึง Audience หรือให้ความสำคัญกับการสร้าง Reach เป็นสำคัญ
เราชินกับการพิมพ์ด้วยแชทพูดข้อความ แล้วแอปพลิเคชั่นจะเติมคำให้เอง ซึ่งยุคแรกๆ ก็อาจจะมั่วได้ใจ แต่ในระยะหลัง ก็มีการพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด Gmail ไม่แค่เติมคำแล้ว โดยกลับช่วยผู้ใช้งานโดยเสนอคำตอบที่เหมาะสม 3 อย่าง ให้เราเลือก เมื่อเลือกแล้วเราจะส่งตอบทันที หรือจะเพิ่มเติมข้อความอีกก็ได้
นอกเหนือจากการโอนเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ที่เป็นช่องทางปกติแล้ว เทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งตู้ ATM หรืออินเตอร์เน็ต หรือมือถือ ก็ทำให้คนเราสะดวกในการโอนเงิน ชำระเงินต่างๆ ง่ายขึ้น แต่เราจะยิ่งสะดวกสบายมากขึ้นไปอีก ล่าสุด Google เปิดตัวให้บริการโอนเงินผ่านทาง Gmail และ Google Wallet ซึ่งหมายถึงคุณสามารถโอนเงินให้เพื่อนเพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านอีเมลล์ Google ได้เลย โดยกดปุ่ม Attach Money ในอีเมลล์ (เหมือนการแนบไฟล์ภาพและไฟล์เอกสารปกติ) แต่บริการพิเศษนี้เริ่มต้นใช้ในเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา คนไทยก็นั่งอิจฉาไปก่อน โอนเงิน …
วันที่ 1 เมษายน ของทุกปี เป็นวัน April Fools’ Day หรือ “เมษาหน้าโง่” ที่เราจะสามารถโกหก กุเรื่องราว ตบตาคนรอบข้าง แต่จะต้องจบภายในเวลาเที่ยงของวันดังกล่าว นักการตลาดหรือแบรนด์ไม่น้อยที่ลงเข้ามาร่วมกับวันนี้ด้วย Brand Buffet สรุปแบรนด์ดังๆ ไว้ดังนี้ (Top 12 Brand for April Fool’s Day)
ในเมื่ออินเตอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีพไปเสียแล้ว ข้อมูลส่วนตัวต่างๆของคุณจึงเวียนว่ายอยู่ในออนไลน์ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสทองของนักโจรกรรมข้อมูล หรือ บุคคลที่ไม่ประสงค์ดีต่อคุณ ที่จะเข้ามาล้วงความลับนั้นไป Forbes เปิดเผย 10 วิธีป้องกันการข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลง่ายๆ ดังนี้ 1.ตั้งรหัสผ่านป้องกันในอุปกรณ์ต่างๆ บางคนบอกว่าการนั่งพิมพ์รหัสผ่านเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุ แต่การไม่รหัสผ่านสำหรับการเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ต่างอะไรกับการเปิดประตูบ้านหรือประตูรถทิ้งเอาไว้แต่ตัวคุณไม่อยู่ ถ้าหากคุณโชคดีก็ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ถ้าหากโชคร้ายข้อมูลสำคัญหรือข้อมูลลับต่างๆจะถูกขุดคุ้ยออกมาจนหมด 2.Google Alert ช่วยเตือน ใช้บริการ Google Alert ที่จะใช้แจ้งเตือน เมื่อชื่อหรือข้อมมูลส่วนตัวเรา ไปอยู่ในโลกออนไลน์ Google Alert …
