การ์ทเนอร์

การ์ทเนอร์คาดการณ์ความต้องการพลังงานไฟฟ้าสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ เพิ่มขึ้น 16% ในปีนี้  และจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยการใช้เซิร์ฟเวอร์ที่รองรับ AI จะคิดเป็น 44% ของการใช้พลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์ ในปี 2573

การ์ทเนอร์คาดยอดใช้จ่ายด้าน AI ในตลาดไอทีทั่วโลกปีนี้ แตะ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มพุ่งขึ้นเป็น 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2026 โดยส่วนหนึ่งมาจากการนำเทคโนโลยี AI ไปฝังเข้ากับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น สมาร์ทโฟน, พีซี ดันให้การใช้งานเพิ่มขึ้น

การ์ทเนอร์คาดการณ์ ยอดจัดส่ง “AI PC” แตะ 77 ล้านยูนิตภายในสิ้นปีนี้ (2568) พร้อมเติบโตต่อเนื่องในปี 2569 โดยจะมีส่วนแบ่งตลาด เพิ่มขึ้นเป็น 55% จนกระทั่งกลายเป็นมาตรฐานของพีซีภายในปี 2572

การ์ทเนอร์คาดการณ์ยอดใช้จ่ายสำหรับเทคโนโลยีมาแรงแห่งยุคอย่าง Gen AI ทั่วโลกปีนี้ถีบตัวสูงขึ้น แตะ 6.44 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 76.4% จากปีที่แล้ว เตือน CIO เตรียมพร้อมรับมือค่าใช้จ่าย

การ์ทเนอร์ (Gartner) เผยรายได้ชิปทั่วโลกปี 2024 เติบโต 18% โดยมี AI เป็นตัวผลักดันการใช้งาน ด้าน Samsung Electronics กลับมาครองอันดับ 1 แทน Intel ส่วน NVIDIA ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 คาดการณ์ปี 2025 อุตสาหกรรมชิปทั่วโลกจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 705,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

การ์ทเนอร์คาด ยอดจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้าปีนี้เติบโต 17% และภายใน 5 ปีข้างหน้ารถยนต์รุ่นต่าง ๆ ที่จำหน่ายกว่าครึ่งจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และจะมีโรงงานผลิตรถยนต์บางแห่งต้องปิดตัวลง หรือถูกขายต่อให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ

การ์ทเนอร์ระบุ AI และ Generative AI (GenAI) กำลังผลักดันการใช้พลังงานไฟฟ้าให้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคาดการณ์ว่าในอีกสองปีข้างหน้าตลาดดาต้าเซ็นเตอร์อาจเติบโตสูงถึง 160% และในปี 2570 AI ดาต้าเซ็นเตอร์ถึง 40% จะประสบกับการถูกจำกัดประสิทธิภาพการดำเนินงานเนื่องจากขีดจำกัดด้านพลังงาน

การสำรวจของบริษัทที่ปรึกษากำลังชี้ว่า Gen AI กำลังถูกนำไปใช้ในองค์กรต่าง ๆ อย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา เช่น ผลการศึกษาของ McKinsey ที่คาดการณ์ว่า Gen AI อาจเพิ่มมูลค่าให้กับกำไรต่อปีของบริษัททั่วโลกได้ถึง 4.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 75% ขององค์กรกำลังทดลองใช้ Gen AI ใน 5 หรือมากกว่า 5 ฟังก์ชันอยู่

การ์ทเนอร์ (Gartner) คาดการณ์ ปี 2568 ยอดการจัดส่ง AI PC ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 43% ของยอดจัดส่ง PC ทั้งหมด โดยปริมาณการจัดส่ง AI PC จะอยู่ที่ 114 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 165.5% จากปี 2567 และภายในปี 2569 จะเหลือเพียง Al Laptops เป็นตัวเลือกเดียวของ Laptop …

การ์ทเนอร์เตือนองค์กรรับมือค่าใช้จ่ายด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้เพิ่ม หลังพบแนวโน้มค่าใช้จ่าย “ความปลอดภัยของข้อมูล” ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 15% ในปี 2568 และภายในปี 2570 การโจมตีทางไซเบอร์มากถึง 17% จะเกี่ยวข้องกับ Generative AI 

การ์ทเนอร์คาดการณ์รายได้ชิป AI ทั่วโลกมีแนวโน้มโตขึ้น 33% จากปี 2023 แตะ 71,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักเป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะ AI PC ที่กำลังมาแรง และภาคธุรกิจมีแผนจะอัปเกรดไปสู่ AI PC เป็นจำนวนมากในอนาคตอันใกล้

การ์ทเนอร์เผยในปีนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ ยังต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจากบทบาทที่เพิ่มขึ้นของทั้งซอฟต์แวร์และการใช้พลังงานไฟฟ้า ที่เป็นปัจจัยกำหนดยุคถัดไปของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยคาดว่าในปี 2570 รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEVs) รุ่นใหม่ ๆ จะมีราคาเฉลี่ยในการผลิตถูกกว่ารถยนต์เครื่องสันดาปภายใน (ICE) และ 15% ของบริษัท EV ที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจะถูกซื้อกิจการหรือล้มละลาย

จากที่เผชิญปัญหาด้านซัพพลายเชนจากวิกฤติ Covid-19 มาพักใหญ่จนกระทบต่อยอดขายของคอมพิวเตอร์พีซีและสมาร์ทโฟน ปี 2024 อาจเป็นปีที่สดใสมากขึ้นสำหรับตลาดดังกล่าว เมื่อการ์ทเนอร์ (Gartner) ได้ออกมาคาดการณ์ว่า กระแสของ AI ที่ฮอตมากขึ้นในปีนี้ จะมีผลต่อยอดขายทั้งในตลาดพีซีและสมาร์ทโฟน โดยคาดว่ายอดการส่งมอบ AI PC และ GenAI Smartphone รวมกันมีโอกาสแตะ 295 ล้านเครื่องเลยทีเดียว (เพิ่มขึ้นจาก 29 ล้านเครื่องในปี 2023)

ธุรกิจเตรียมลงทุนด้านความปลอดภัยเพิ่ม โดยเฉพาะในวันที่ AI พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เพราะมีการคาดการณ์จากการ์ทเนอร์ว่าในปี 2569 การโจมตีแบบ Deepfakes ที่สร้างโดยปัญญาประดิษฐ์ จะทำให้เทคโนโลยีระบุตัวตนด้วยใบหน้าหรือ Face Biometrics ไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป

การ์ทเนอร์เปิดตัวเลขยอดขายพีซีโลก 2566 แตะ 241.8 ล้านเครื่อง ลดลง 14.8% เมื่อเทียบกับปี 2565 และถือเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีที่ยอดขายพีซีต่ำกว่า 250 ล้านเครื่องด้วย (เคยทำยอดขายต่ำสุด 230 ล้านเครื่องในปี 2549) โดย Lenovo, HP, Apple และ Acer เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ Dell และ ASUS มีอัตราการเติบโตลดลง

การ์ทเนอร์เผยเทรนด์ด้านการควบรวมและซื้อกิจการ หรือ Mergers and Acquisitions (M&A) ในปี 2567 พบมีการนำ AI มาปรับปรุงกระบวนการ M&A การเข้าซื้อกิจการในธุรกิจกลุ่ม AI และสำรวจสภาพแวดล้อมของกฎระเบียบที่ซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น

การ์ทเนอร์คาดการณ์ยอดการจัดส่งรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั่วโลก (แบบใช้พลังงานจากแบตเตอรี่และแบบปลั๊กอิน-ไฮบริด) ในปี 2023 จะมีปริมาณเกือบ 15 ล้านคัน และเป็นตลาดที่พร้อมเติบโตต่อ โดยคาดว่าในปี 2024 จะมียอดขายรวม 17.9 ล้านคัน หรือคิดเป็นการเติบโต 19% เลยทีเดียว

จากนี้ไป เราอาจได้คุยกับมนุษย์ “น้อยลง” เมื่อโทรหาคอลเซนเตอร์ของแบรนด์ต่าง ๆ สะท้อนได้จากตัวเลขคาดการณ์จากบริษัทวิเคราะห์ยักษ์ใหญ่ที่พบว่าการเติบโตรอบใหม่ของธุรกิจคอลเซนเตอร์อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “มนุษย์” อีกต่อไป เนื่องจากความสามารถของ Conversational AI หรือ AI สำหรับใช้สร้างบทสนทนาที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนธุรกิจดังกล่าวให้เติบโตได้มากถึง 16% ในปีนี้ หรือคิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั่วโลก 1.86 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว

การ์ทเนอร์ อิงค์ เปิด 3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของปริมาณการใช้จ่ายด้านความปลอดภัย ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของการทำงานแบบไฮบริดและการทำงานระยะไกล การเปลี่ยนผ่านของเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (หรือ VPN) ไปเป็นเทคโนโลยีการเข้าถึงเครือข่าย Zero Trust Network Access (หรือ ZTNA) และการเปลี่ยนไปใช้รูปแบบการจัดส่งข้อมูลบนคลาวด์

  การ์ทเนอร์เผยผลสำรวจล่าสุด พบพนักงาน “สายไอที” มีแนวโน้มลาออกจากงานที่ทำอยู่มากกว่าพนักงานสายอื่น ๆ หากบริษัทมีการปรับนโยบายการทำงาน โดยเฉพาะการกลับเข้าทำงานในออฟฟิศ

การ์ทเนอร์คาดการณ์ภายในปี 2026 ผู้คนราว 25% ทั่วโลกจะใช้เวลาอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงไปกับการทำงาน ช้อปปิ้ง เรียนรู้ เข้าสังคม ตลอดจนรับความบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ ในโลก “Metaverse”

ที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ของบริษัทยักษ์ใหญ่จำนวนมากเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และนี่คืออีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจจากการ์ทเนอร์ (Gartner Inc.) ยักษ์ใหญ่ในแวดวงธุรกิจ กับ 10 ความเป็นไปได้ที่จะเกิดกับโลก ทั้งในปีนี้ และอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า

กลุ่มบริษัทจีเอเบิล ผู้นำในการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลโซลูชันครบวงจร โชว์ศักยภาพความเป็นผู้นำด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้  ย้ำชัดธุรกิจไทยต้องต่อกรกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นได้ ความท้าทายของผู้ประกอบการ และภาคธุรกิจ ในการปรับตัวเพื่อให้เกิดความปลอดภัยจากการคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัวและเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต เผยเทรนด์ซีเคียวริตี้ที่จะเกิดขึ้นภายใน 3-4 ปีข้างหน้า ที่ทุกองค์กรต้องรู้เพื่อรับมือกับภัยใกล้ตัวที่จะเกิดขึ้น