HomeSponsoredผ่าวิสัยทัศน์ 35 ปี “เอไอเอส” วิวัฒน์ใหม่สู่การเป็น “Cognitive Techo” ในยุค AI

ผ่าวิสัยทัศน์ 35 ปี “เอไอเอส” วิวัฒน์ใหม่สู่การเป็น “Cognitive Techo” ในยุค AI

แชร์ :

อาจกล่าวได้ว่าเส้นทาง 35 ปีของ “เอไอเอส” (AIS) จาก Telecom Operator สู่การเป็น Cognitive Techo (หรือ Digital Service Provider ที่อัจฉริยะขึ้นกว่าเดิม) นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางการเปลี่ยนผ่านที่น่าสนใจ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า เพราะเอไอเอสอยู่ใน “อุตสาหกรรมโทรคมนาคม” ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เต็มไปด้วยความท้าทายจากรอบด้าน โดยเฉพาะความท้าทายรอบใหม่ที่ไม่ได้เกิดจากมนุษย์ หากแต่เป็นเครื่องมืออย่าง  “ปัญญาประดิษฐ์” (AI) ที่หลายภาคส่วนกำลังตั้งคำถามว่า จะใช้ AI อย่างไรให้ธุรกิจเติบโตได้อย่าง “ยั่งยืน”

การออกมาประกาศตัวเป็น Cognitive Techo ของเอไอเอสเมื่อ 3 ปีก่อนหน้าจึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นของคำตอบนี้ โดยคุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS ได้นิยามปี 2025 ว่า เป็นปีแห่งการ “วิวัฒน์” ใหม่อีกครั้งขององค์กร กับการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่เชื่อถือได้ ไว้ใจได้ และสามารถเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง (Trusted Connectivity) รวมถึงต้องขยายการเติบโตไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการให้ความสำคัญกับทรัพยากรมนุษย์ ทั้งในเรื่องการส่งมอบองค์ความรู้ด้าน AI ท้ังกับคนภายในองค์กร และคนภายนอกองค์กรผ่านงานสัมมนาครั้งใหญ่ “Academy for Thais” รวมถึง การมอบความช่วยเหลือด้านสุขภาพให้กับหน่วยงานสาธารณสุข ทั้งระดับองค์กร และในระดับประเทศ ซึ่งคุณสมชัยมองว่า การเดินหน้า 3 ภารกิจนี้ไปพร้อมกันจึงจะเป็นการสร้าง “การเติบโตที่ยั่งยืน” ให้กับสังคมไทยอย่างแท้จริง

เปิดภารกิจ “เติมเต็มชีวิต”

“พันธกิจของเรา คือ การเติมเต็มการใช้ชีวิต และการทำธุรกิจผ่านโครงข่ายดิจิทัลที่ล้ำสมัย ผมจะบอกกับทีมงานทุกคนว่า เอไอเอสมี 3 คีย์เวิร์ด หนึ่งคือ Trusted Connectivity เราคือบริษัทที่สร้าง Digital Infrastructure ที่เชื่อมต่อกับคน เพราะฉะนั้น เราต้องติดต่อได้ตลอดเวลา”

“สองคือ เราต้องมี Growth engine นั่นคือเรื่องของ Retail, Entertainment และ Digital Finance เพื่อสร้างการเติบโตใหม่ ๆ วันนี้เรามีแพลตฟอร์มด้านความบันเทิงเพื่อคนไทยอย่าง AIS Play เรามีดิจิทัลไฟแนนซ์ที่ร่วมมือกับ OR และธนาคารกรุงไทย (KTB) รวมถึงธุรกิจดาต้าเซนเตอร์ และคลาวด์ในระดับ Hyperscale ผ่านการร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกอย่างออราเคิล ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้ภาคธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว และปลอดภัย”

“และเรายังมีภารกิจใหญ่ นั่นคือการส่งมอบความรู้ด้าน AI เพื่อเพิ่มศักยภาพให้คนไทย ในงานสัมมนา AIS ACADEMY for THAIs รวมถึงการสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล เช่น โรงพยาบาลเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี และโรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก เพื่อขยายโอกาสด้านสุขภาพด้วย” คุณสมชัยกล่าว

เปิดตัว 3 แม่ทัพ “กานติมา-ธีร์-ปรัธนา” สานต่อ 3 แกนหลัก

ภายใต้การวิวัฒน์ใหม่ดังกล่าว เอไอเอสได้มีการเปิดตัว 3 แม่ทัพเพื่อสานต่อภารกิจแกนหลักอย่างเป็นทางการ นั่นคือ คุณกานติมา เลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร, คุณธีร์ สีอัมพรโรจน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และคุณปรัธนา ลีลพนัง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านปฏิบัติการ โดยคุณกานติมา ได้กล่าวถึงหัวใจหลักของการพัฒนาทรัพยากรบุคคลไว้อย่างน่าสนใจว่า มาจาก DNA ของคนเอไอเอส

“เอไอเอสเราเชื่อเรื่องการเป็น Good Citizen นั่นคือการมีความรับผิดชอบ และการตอบแทนคืนสู่สังคม เรามีการจัดตั้งทีมงานชื่อ อุ่นใจอาสา โดยทุกครั้งที่เกิดความท้าทาย เกิดภัยพิบัติ หรือโรคระบาด ทีมงานทีมนี้จะสามารถลงพื้นที่ไปช่วยเหลือสังคมได้ตามความต้องการ”

แต่คำว่า Good Citizen ไม่ได้หมายความถึงคนภายในองค์กรอย่างเดียว สังคมที่ล้อมรอบก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน โดยคุณกานติมาเผยว่า คำว่าคนของเอไอเอสยังหมายรวมถึงคนไทยที่ต้องเติบโตไปพร้อมกันด้วย ซึ่งในปีนี้ ภารกิจด้านการพัฒนาคนครั้งใหญ่ของเอไอเอสเกิดขึ้นผ่านงานสัมมนา Academy for Thais เพื่อเสริมแกร่งทักษะด้าน AI ให้กับคนไทย ทั้งในโลกส่วนตัวและโลกการทำงาน

Growth Engine เครื่องมือนำพา “ความสุข”

ด้านคุณธีร์ กล่าวเสริมถึงภารกิจการสร้าง Growth Engine ใหม่ ของเอไอเอสด้วยการบุกโลก Retail, Entertainment และ Digital Finance ว่า มีจุดเริ่มต้นมาจากคำว่า “ความเชื่อมั่น”

“ความเชื่อมั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทเราก้าวมาได้ถึงวันนี้ ส่วนหนึ่งเพราะเรามีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ สามารถจัดการต้นทุน และโครงสร้างทางธุรกิจให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึง คณะกรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นก็ให้ความสำคัญกับธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราได้รับรางวัลจากหลาย ๆ เวที ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก”

ในปี 2025 ความเชื่อมั่นดังกล่าวได้ถูกนำไปผนวกเข้ากับเป้าหมายใหม่ นั่นคือการสร้าง “ความสุข” ให้กับผู้บริโภค โดยเอไอเอสตั้งเป้าว่าจะใช้ช่องทางต่าง ๆ ที่มี ทั้งบริการ AIS Play, ร้าน AIS Shop, อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ AIS 3BB Fibre3, AIS 5G และบริการด้าน Digital Finance อย่างเวอร์ชวลแบงค์ ที่ทำร่วมกับ OR และ KTB ไปตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

“ส่วนหนึ่งเพราะมุมมองของเราเปลี่ยนไป เราไม่ได้มองว่า เอไอเอสจะให้บริการแค่การสื่อสารอย่างเดียวอีกแล้ว แต่เราสามารถนำพาความสุขเข้าไปถึงตัวบุคคล หรือสมาชิกในบ้านได้ผ่านบริการต่าง ๆ ซึ่งเชื่อว่า เราสามารถนำความรู้ความเข้าใจในลูกค้าที่มีมาช่วยให้ลูกค้าเหล่านั้นเข้าถึงบริการทางการเงิน ความบันเทิง ฯลฯ ได้ดีขึ้น และขอยืนยันว่า เอไอเอสอยากสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้ลูกค้าของเรา และอยากเติบโตไปกับลูกค้า ประชาชนไทย รวมถึงสังคมไทยด้วยครับ”

สุดท้ายคือคุณปรัธนา ลีลพนัง แม่ทัพด้านโอเปอเรชั่น ผู้กุมบังเหียนธุรกิจหลักของเอไอเอสอย่างบริการบรอดแบนด์ AIS 3BB Fibre3, AIS 5G และ AIS business ที่ออกมากล่าวถึงภารกิจด้านโอเปอเรชั่นว่า เป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้แข็งแกร่งเพื่อให้การเติบโตเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน

“โครงสร้างดิจิทัลที่เอไอเอสสร้างมา ถือเป็นเสาหลักด้านดิจิทัลของประเทศไทย ทั้งโครงข่ายไร้สายอย่าง AIS 5G, โครงข่ายบรอดแบนด์ใยแก้วนำแสงที่เราเรียกว่า AIS 3BB Fibre3 และที่สำคัญมากก็คือ Digital Infrastructure สำหรับเอนเทอร์ไพรส์ อย่าง AIS Business ที่ล่าสุด เราได้ขยาย Data Center ไปอีกหนึ่งที่ และพร้อมให้บริการในเร็ว ๆ นี้”

แต่ที่มากไปกว่าการสร้างบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและภาคธุรกิจ ก็คือการส่งแคมเปญใหญ่ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี อย่าง AIS 1 Point 12 Weeks 12 Wow ที่คุณปรัธนาเผยว่า เป็นการทำเพื่อขอบคุณลูกค้ากว่า 51 ล้านราย ที่ใช้เพียง 1 พอยท์ก็สามารถแลกรับสิทธิพิเศษได้ต่อเนื่อง 12 สัปดาห์ โดยจะเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 นี้เป็นต้นไป

จะเห็นได้ว่า การวิวัฒน์ใหม่ของเอไอเอสในครั้งนี้ เป็นการดึงความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักอย่างบริการ 5G, บรอดแบนด์ ตลอดจน Digital Infrastructure อย่าง Hyperscale Cloud มาสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างรอบด้าน

ซึ่งไม่เพียงต่อยอดให้เอไอเอสสร้างรายได้ใหม่ที่หลากหลายมากขึ้น แต่ DNA ของคนเอไอเอสกับ “ภารกิจคิดเผื่อ” ยังทำให้สังคมไทยเติบโตจากภายใน นั่นคือมีความตระหนัก และเข้าใจในเทคโนโลยี AI ที่กำลังสร้างการเปลี่ยนผ่านทางสังคมอย่างมากในเวลานี้ไปพร้อมกันด้วย

“เราอยากเติบโตยั่งยืน ทุกกิจกรรม ทุกแคมเปญ ต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และสร้างมูลค่าการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ด้วย ที่สำคัญ เราจะทำในสิ่งที่เราชำนาญเท่านั้น ซึ่ง 35 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า เราอยู่เคียงข้างคนไทยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานของคอนซูเมอร์ หรือการใช้งานระดับเอนเตอร์ไพรส์ ที่สำคัญคือ ในทุกครั้งที่ประเทศเกิดวิกฤติ บริการของเราสามารถเข้าไปช่วยและทำให้วิกฤติต่าง ๆ ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งนั่นสะท้อนว่า การเป็น Cognitive Techo คือวิสัยทัศน์ที่ขับเคลื่อนสังคมไทยสู่สังคมดิจิทัลได้อย่างแท้จริง” คุณสมชัยกล่าวสรุป


แชร์ :

You may also like