ท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องกำแพงภาษีที่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาสร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก หนึ่งในบริษัทที่มีการบริหารจัดการซัพพลายเชนในระดับโลกอย่าง Apple ก็เผชิญหน้ากับความท้าทายนี้แล้ว ด้วยการประกาศว่า การผลิต iPhone สำหรับจะวางขายในตลาดสหรัฐฯ จะมาจากประเทศ “อินเดีย” แทนจีนแผ่นดินใหญ่ นัยว่าเพื่อลดผลกระทบจากภาษีศุลกากรที่รัฐบาลอเมริกาจะเรียกเก็บจากสินค้าจีน โดยคาดว่าจะเริ่มในเดือนมิถุนายนนี้
จากแนวทางดังกล่าว ส่งผลให้ Foxconn และ Tata Group ต้องรับบทหนัก เพิ่มกำลังผลิต iPhone มากขึ้น จากเดิมที่ผลิตสำหรับจำหน่ายภายในประเทศ เป็นการผลิตเพื่อรองรับตลาดอเมริกาด้วย
ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น iPad, Mac, Apple Watch และ AirPods ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ พบว่าจะถูกย้ายไปผลิตที่ “เวียดนาม” เพื่อลดผลกระทบจากภาษีเช่นกัน
เมื่อมีคำถามว่า แล้วโรงงานผลิตในจีนแผ่นดินใหญ่จะเป็นอย่างไรต่อไป ทาง Apple เผยว่า จะผลิตเพื่อรองรับตลาดอื่น ๆ นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ Apple มีการประเมินว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาสร้างขึ้นนี้ อาจทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 900 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตาม Apple ยังคงมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยรายได้ในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 95.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีกำไรถึง 24.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (นำโดย iPhone) เลยทีเดียว
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE