HomeReal Estate & CondoSC ASSET ตั้งเป้าปี 67 ยอดขายนิวไฮ 28,000 ล้าน  ชูไฮไลท์บ้านดีไซน์ใหม่ Introvert – Extrovert

SC ASSET ตั้งเป้าปี 67 ยอดขายนิวไฮ 28,000 ล้าน  ชูไฮไลท์บ้านดีไซน์ใหม่ Introvert – Extrovert

แชร์ :


ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ของ SC ASSET กับวิสัยทัศน์ธุรกิจใหม่ The Evolution ด้วย 2 เครื่องยนต์ (Engine) กลุ่มที่อยู่อาศัยและธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) โรงแรม คลังสินค้า ออฟฟิศ ด้วยเป้าหมายรายได้รวม 5 ปี (2567-2571) 150,000 ล้านบาท พร้อมสถิติปี 2567 ยอดขายนิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ที่ตัวเลข 28,000 ล้านบาท

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

SC ASSET เริ่มต้นธุรกิจทศวรรษที่ 1 (2547-2556) กับวิสัยทัศน์ Activation ยุคแห่งการเริ่มต้น เป็นการเริ่มต้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มทำธุรกิจอาคารสำนักงาน รายได้ปีแรก 700 ล้านบาท จบทศวรรษที่ 1 ด้วยรายได้ 13,000 ล้านบาท

เข้าสู่ทศวรรษที่ 2 (2547 – 2566) กับวิสัยทัศน์ Reinvention ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ปรับวัฒนธรรมองค์กรใหม่ จากที่อยู่อาศัยพรีเมียมขยายไปทุกระดับราคา ขยายธุรกิจหลากหลาย จบทศวรรษที่ 2 ด้วยรายได้ 27,945 ล้านบาท

5 ปีวางเป้าหมายรายได้ 1.5 แสนล้านบาท

คุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวว่าทศวรรษที่ 3 เป็นยุค The Evolution มุ่งสร้างคุณค่าให้คนและโลก เติบโตบนความหลากหลาย ผ่านแนวคิดวิวัฒนาการองค์กร ปรับตัวเข้ากับบริบทสังคม เติบโตพร้อมกันทั้ง 3 ด้าน คือ People ลูกค้ามีคุณภาพชีวิตดีด้วยสินค้า-บริการคุณภาพสูง และมีนวัตกรรม พนักงานเติบโต มั่นคง ภูมิใจ แสดงศักยภาพได้เต็มที่ Planet สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และ Profit กำไรเติบโต จากธุรกิจที่หลากหลาย

SC วางทิศทางธุรกิจ 5 ปี (2567-2571) ด้วย 3 แกนหลัก

– มหาศาล : สร้างรายได้รวม (portfolio revenue) รวม 5 ปี จากหลากหลายธุรกิจกว่า 150,000 ล้านบาท เพราะการมีขนาดธุรกิจที่ใหญ่มากพอ จึงสามารถเป็นองค์กรที่สร้างคุณค่าทางสังคมให้กับคนจำนวนมากได้

– มั่นคง : ลงทุนอย่างเหมาะสม เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนทุน D/E น้อยกว่า 1.5

– สมดุล : สร้างส่วนผสมกำไร จากธุรกิจที่หลากหลาย โดยมี “กำไร” จากธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ (recurring income) หรือกลุ่มธุรกิจ Engine 2 สัดส่วน 25% (จากปัจจุบันอยู่ที่ 15%) และกลุ่มที่อยู่อาศัย 75%

ปี 67 ยอดขายนิวไฮ 28,000 ล้าน

สถานการณ์ธุรกิจอสังหาฯ ในปี 2567 มี 3 ปัจจัยหลัก

1. “ขายช้า” เพราะเจอกับภาวะต้นทุนสูง หนี้สูง ดอกเบี้ยสูง ทำให้เศรษฐกิจโตต่ำ กำลังซื้อลดลง ที่อยู่อาศัยโอนยากเพราะธนาคารระวังปล่อยสินเชื่อ

2. “ทุนตึง” จากสถานการณ์ผันผวน คาดเดายาก ธนาคารและนักลงทุนอยู่ในหมวดระวังตัว การระดมทุนทั้งเงินกู้ธนาคาร ออกหุ้นกู้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำได้ยากขึ้น

3. “ความเหลื่อมล้ำ” ในอดีตเป็นยุคที่เรียกว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” หรือ “ปลาเร็วกินปลาช้า” แต่ยุคนี้คือ “ปลาใหญ่กว่ากินปลาใหญ่” เพราะวันนี้ปลาใหญ่ (บริษัทขนาดใหญ่) เข้าถึงทรัพยากรได้มากกว่า คือ เข้าถึงทุนและมีโอกาสเติบโตได้มากกว่า ทำให้การแข่งขันยากขึ้นเรื่อยๆ

SC รับมืออสังหาฯ ปีนี้ ทั้งการทำธุรกิจและสร้างคุณค่าให้องค์กร ด้วย 8 กลยุทธ์ 1. เพิ่มความหลากหลายแหล่งทุน สินค้าและธุรกิจ 2. ลงทุนอย่างเหมาะสม 3. ทำธุรกิจรอบคอบ 4. จัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ 5. รักษามาตรฐานและคุณภาพ 6. พัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการ 7. พัฒนาศักยภาพบุคลากรในองค์กร 8. ดำเนินธุรกิจอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม

– ปี 2567 วางเป้าหมายยอดขาย (พรีเซล) 28,000 ล้านบาท เป็นการทำ New High เป็นปีที่ 5 ต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น แนวราบ 65% แนวสูง 35%
รายได้รวม 26,500 ล้านบาท จากธุรกิจหลากหลาย ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย แนวราบ-แนวสูง (Engine 1) และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Engine 2)
การลงทุน 25,000 ล้านบาท ในหลากหลายธุรกิจ ที่อยู่อาศัย คลังสินค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน

 

“ไฮไลท์บ้านดีไซน์ใหม่ Introvert – Extrovert ราคา 8-12 ล้าน

การลงทุนในปี 2567 ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย แนวราบ-แนวสูง (Engine 1) และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Engine 2) มีจำนวนโครงการรวม 103 โครงการ

Engine 1 – ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย

ปี 2567 SC จะมีโครงการเพื่อขายทั้งสิ้น 86 โครงการ (ทุกทำเลและระดับราคา) มูลค่ารวม 91,000 ล้านบาท เปิดโครงการใหม่รวม 17 โครงการ มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็น

– โครงการใหม่แนวราบ 15 โครงการ มูลค่า 25,000 ล้านบาท มีทุกระดับราคาตั้งแต่ 3 – 150 ล้านบาท รวมกว่า 10 แบรนด์ โดยมีไฮไลท์แนวราบ แบรนด์ใหม่ “Connoisseur” (คอนนาเซอร์) ราคาเริ่มต้น 80 ล้านบาท ทำเลพัฒนาการ

– ดีไซน์บ้านตามไลฟ์สไตล์เฉพาะ จากวิธีคิด One Size Doesn’t Fit All เพราะแต่ละคนมีความหลากหลายและความต้องการแตกต่างกัน ทุกปี SC จะศึกษาอินไซต์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อทำความเข้าใจ เพื่อออกแบบบ้านและโซลูชัน ที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตในแต่ละยุค โดยก่อนหน้านี้ได้นำเสนอดีไซน์บ้านสำหรับ “เกมเมอร์” ซึ่งมีกระแสตอบรับดี

ไฮไลท์ปีนี้โครงการแนวราบที่เปิดใหม่ปีนี้ จะมีบ้านไลฟ์สไตล์เฉพาะ ดีไซน์พิเศษ 2 แบบ คือ บ้าน Introvert และ บ้าน Extrovert โดยจะเปิด 2 โครงการช่วงกลางปี ราคา 8-12 ล้านบาท โดยจะเป็น “ตัวเลือก” รวมอยู่กับดีไซน์อื่นๆ ในโครงการ

– แบบบ้าน Introvert ดีไซน์พื้นที่ใช้ชีวิตส่วนตัวหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน ทำงาน ส่วนพื้นที่ส่วนรวมอย่างห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น จะมีขนาดเล็กลง

– แบบบ้าน Extrovert ดีไซน์พื้นที่ห้องรับแขก พื้นที่เอ็นเตอร์เทน ขนาดใหญ่

ส่วนโครงการแนวสูง หรือคอนโด ปีนี้มี 2 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ Reference ทำเลเอกมัย-ทองหล่อ เปิดช่วงกลางปี และทำเลใกล้มหาวิทยาลัย เปิดช่วงปลายปี

นอกจากนี้ SC พร้อมส่งมอบนวัตกรรม เช่น เทคโนโลยีติดตามดูแลความปลอดภัยด้วยระบบ Command Centre และ เทคโนโลยีอัจฉริยะ ผ่าน RueJai Intelligence และยกระดับ ประสบการณ์ด้วยกิจกรรมที่คัดสรรและออกแบบมาพิเศษผ่าน utility token Morning Coin

Engine 2 – ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ รวม 17 โครงการ จาก 4 ธุรกิจ

1. อาคารสำนักงานให้เช่า – มีพื้นที่เช่ารวม 120,000 ตร.ม. จากอาคารสำนักงานรวม 6 อาคาร โดยตึกชินวัตร 3 ได้เปิดโซนออฟฟิศไซซ์เล็กลง เพื่อเจาะกลุ่มเอสเอ็มอี และโคเวิร์กกิ้ง สเปซ แบรนด์ รีจัส (Regus)

2. โรงแรม – มีจำนวนห้องพักรวม 545 ห้อง จากโรงแรม 3 โครงการ เปิดแล้วที่ YANH ราชวัตร 78 ห้อง ปลายปีนี้จะเปิดโรงแรมใหม่ Kromo (ครอโม) ทำเลสุขุมวิท 29 (ตรงข้ามเอ็มสเฟียร์) บริหารโดย Curio Collection by Hilton จำนวน 306 ห้อง ลงทุน 2,000 ล้านบาท และเปิดต้นปี 2568 เปิดโรงแรมทำเลพัทยา 161 ห้อง

3. คลังสินค้า – มีพื้นที่เช่ารวม 160,000 ตร.ม. จากคลังสินค้ารวม 4 โครงการ ดำเนินการแล้วที่ทำเลนครสววรค์ 16,000 ตร.ม. กำลังจะเปิดในปีนี้และปีหน้าอีก 144,000 ตร.ม. ใน 3 ทำเล บางนา กม.20  บางนา กม.22 และแหลมฉบัง ได้ร่วมลงทุนกับสตอเรจ เอเชีย บุกตลาด Self Storage ภายใต้แบรนด์ i-Store

4. อสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าในสหรัฐอเมริกา – มีห้องพักรวม 78 ห้อง ใน 4 ทำเล ใจกลางเมืองบอสตัน

ตามแผน 5 ปี SC ASSET ต้องการสร้างสมดุลการลงทุนและรายได้ทั้ง 2 Engine โดยเฉพาะกำไรในกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (อาคารสำนักงาน โรงแรม คลังสินค้า) ให้มากขึ้นด้วยสัดส่วน 25% (จากปัจจุบันอยู่ที่ 15%) ซึ่งจะมีพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนในกลุ่มนี้ด้วย

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like