HomeCreativityPublicis ประเทศไทย  ประกาศจุดยืน “The Best Full-Funnel Commerce Partner for Brands” ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

Publicis ประเทศไทย  ประกาศจุดยืน “The Best Full-Funnel Commerce Partner for Brands” ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

แชร์ :

“เป็นที่ทราบกันดีว่า โลกของการสื่อสารการตลาดได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งได้ส่งผลถึงพฤติกรรมของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้การซื้อขายเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและมีช่องทางที่หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งยังมีความเชื่อมโยงกันเพราะผู้คนใช้ชีวิตอยู่บนโลกออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กันไปโดยไม่มีการแบ่งแยก ฉะนั้นการโน้มน้าวใจคนเพื่อให้เกิดความต้องการที่จะซื้อสินค้าและบริการนั้นถือเป็นงานที่ต้องทำต่อเนื่องและตลอดเวลา และต้องสามารถเข้ากับทุกช่วงเวลาของการเดินทางในการพิจารณาการเลือกซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ หน้าที่ของบริษัทโฆษณาแบบเดิมๆ ที่มุ่งแต่สร้างการรับรู้นั้นย่อมไม่เพียงพอกับความต้องการในโลกปัจจุบันอีกต่อไป” นี่คือสิ่งที่ พี่เต้ย-ภารุจ ดาวราย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าว

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

Publicis ถึงเวลาทรานสฟอร์ม

จากการเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรมของผู้บริโภค ในเรื่องการเสพสื่อ การใช้ชีวิต อันส่งผลมาถึงการซื้อสินค้า นั่นทำ 2 ซีอีโอแห่ง ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศปรับทัพครั้งใหญ่ มุ่งหน้าสู่การเป็น The Best Full-Funnel Commerce Partner for Brands เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การค้าขายของทุกธุรกิจที่ครอบคลุมทั้งวงจรที่เรียกว่า คอมเมิร์ซ (Commerce) ให้ได้ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของ 15 บริษัท ภายในเครือของปับลิซิส กรุ๊ป ส่ง Connected Strategy ซึ่งต้องเชื่อมการทำงานของ Paid, Earned และ Owned Touchpoints ให้เกื้อหนุนกัน ต่อมาต้องให้เกิด Connected idea จนเกิดเป็น Full-Funnel Commerce Partner อย่างแท้จริง

เพื่อทำให้เกิดการปลี่ยนแปลงดังกล่าว สิ่งที่ ปับลิซิส ต้องทำก็คือ การปรับทัพจากภายใน พี่จุ๊-โศรดา ศรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย พูดถึงการทรานสฟอร์มองค์กรว่า

“การปรับเปลี่ยนตัวเองของปับลิซิส กรุ๊ป เพื่อให้กลายเป็นองค์กรที่มุ่งไปข้างหน้า หรือ Future-facing network จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยสิ่งที่เราให้ความสำคัญคือ การจัดกระบวนทัพใหม่ที่พร้อมทั้งในส่วนของ ขุมพลังทางความคิด เสริมด้วยเทคโนโลยีและโมเดลการปฏิบัติการแบบ Power of ONE เราเริ่มด้วยการปรับใช้ตำแหน่ง Co-CEO หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ซึ่งเป็นโมเดลสำหรับบริหารธุรกิจในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดนี้ เพราะโมเดลนี้สามารถตอบสนองความท้าทายในเรื่องความรวดเร็วและการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ได้ดีกว่าการบริหารแบบผู้นำเพียงคนเดียว เนื่องจากผู้บริหารที่มีประสบการณ์ต่างกันจะช่วยทำให้เสริมความสามารถรอบด้านเพื่อให้แข็งแกร่งทั้งในเชิงกลยุทธ์และปฎิบัติการ ให้ครอบคลุมในทุกมิติ ซึ่งโมเดลนี้คือบทพิสูจน์ประสิทธิภาพของ Power of ONE ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมองค์กรของปับลิซิส กรุ๊ป

Publicis  เปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

การทรานสฟอร์มในครั้งนี้มีทั้งเรื่อง “คน” และ “เทคโนโลยี” เป็นหัวใจสำคัญ เพื่อตอบสนองลูกค้าในโลกยุคนี้ โดยอิงกับตัวตนเดิมของ Publicis

“เราต้อง Re-skill คนของเรา ให้เขาปรับทั้งวิสัยทัศน์ วิธีคิด ที่ผ่านมาเราเรียนเยอะมาก ภายใน Publicis ของเรามีหลักสูตรให้เรียนเยอะมาก ในเมื่อเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร Fundamental ความชำนาญของเราไม่ได้เปลี่ยนไป แค่ต้องปรับมุมมอง…ยิ่งผู้บริโภคปรับตัวมาก สำหรับแบรนด์ใหญ่ๆ ยิ่งต้องการผู้เชี่ยวชาญทั้งเรื่อง Commerce ไปจนถึง Innovative Media เพื่อมา Orchestrate ทุกๆ Touch Point ให้เขา” นี่คือความเห็นของคุณโศรดา เมื่อกล่าวถึงความคาดหวังของลูกค้าและการปรับตัวของปับลิซิส

ในส่วนของ “คน” มีการส่งเสริมให้มีความยืดหยุ่นในการหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มุ่งเน้นผลักดันทักษะและประสบการณ์ที่หลากหลายเพื่อให้บุคลากรในองค์กรทุกคนมีโอกาสที่จะเติบโตหรือมีความก้าวหน้าที่เหมาะสมที่ตนเองต้องการ ผ่านแพลตฟอร์ม Career Conversation ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนได้วางแผนความก้าวหน้าในสายงานเพื่อพัฒนาและเติบโตในองค์กรอย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการทำงานร่วมกันทั้งในองค์กรและภายนอกเพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดกับลูกค้า จนเอเยนซี่เติบโตร่วมกับลูกค้าในลักษณะ Organic Growth แล้วกลายเป็นพาร์ทเนอร์ที่มั่นคงของกันและกัน

ส่วนเรื่องของ “เทคโนโลยี” ปับลิซิส กรุ๊ป เป็นเน็ตเวิร์คเอเจนซี่กลุ่มแรกของโลกที่มีแพลตฟอร์ม AI เป็นของตัวเอง ชื่อว่ามาแซล (Marcel) ทำหน้าที่เชื่อมโยงบุคลากรของปับลิซิส กรุ๊ปทั้งโลกเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นคลังแห่งการเรียนรู้เรื่องราวทางการสื่อสารการตลาด และ Soft Skill อื่น ๆ อีกด้วย นอกเหนือจากนี้ ยังมี Publicis GPT ที่พัฒนาโดย OpenAI บริษัทที่พัฒนา ChatGPT เพื่อให้บุคลากรของเราได้ใช้งานกันอีกด้วย โดย AI ที่ใช้เป็นการภายในนี้จะทำให้เกิดความปลอดภัยกับข้อมูลของลูกค้า รวมทั้งลิขสิทธิ์ในการใช้งาน ก่อนที่จะผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเพื่อนำมาใช้งานจริง

และเพื่อทำให้บุคลากรใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจัด AI Friday ขึ้นในกรุ๊ป บุคลากรในเครือได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ใหม่ ๆ ซึ่งกันและกัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับตลาดงานในอนาคต

“ปัจจุบันนี้การซื้อขายใน E-Commerce เติบโตขึ้นมาก แต่มันก็เป็นแค่ Subset หนึ่งของ Commerce เท่านั้น หน้าที่ของมนุษย์ที่ทำการสื่อสารอย่างพวกเรา ก็คือ สร้างอิทธิผลที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ หรือสร้างอิทธิพลที่มีผลต่อความรู้สึก ทุกที่ทุกเวลาเพื่อให้เกิดการซื้อ การซื้อซ้ำ หรือการกระทำบางอย่าง สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้จากตอนโควิดก็คือสื่อเอาท์ดอร์หายไปเลย เพราะผู้คนไม่ออกมาใช้ชีวิต แต่ตอนนี้พฤติกรรมของคน Swing ไปมา บวกกับกำลังซื้อที่ผันผวนตามเศรษฐกิจ คนกลับมาใช้ชีวิตเช่นเคยจน Delivery หรือการขายออนไลน์ลดลง ในฐานะที่เราเป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้าเราก็ต้องบอกได้ว่าช่องทางไหนดีที่สุดสำหรับลูกค้า ไม่พึ่งพิงออนไลน์มากจนเกินไป ถ้ามันมีอะไรบางอย่างที่มากเกินไปก็ถือว่า Something Wrong on Strategy  ที่จะต้องปรับ” คุณภารุจ แสดงความเห็นเพิ่มเติม


แชร์ :

You may also like