จากที่หย่อนน้ำจิ้มให้แฟน ๆ สนใจเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่า Facebook จะมีการเปิดตัวโปรดักท์ใหม่ ล่าสุดทางมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้ง Facebook ก็ได้ออกมาเฉลยแล้วว่าสิ่งที่เขาจะเปิดตัวนั้นคืออุปกรณ์อย่าง Portal Go และ Portal+ นั่นเอง
สำหรับใครที่ลืมไปแล้วว่า Portal คืออะไร อาจต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 ที่ Facebook เคยเปิดตัวอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่มาพร้อมหน้าจอ – กล้อง สามารถทำวิดีโอคอลล์ได้ อย่างไรก็ดี อุปกรณ์ดังกล่าวมาพร้อมประเด็นด้าน Privacy ที่หลายคนกังวลว่าจะทำให้ Facebook เข้าถึงเรื่องราวส่วนตัวภายในบ้านมากขึ้นด้วยเช่นกัน
การเปิดตัวโปรดักท์ใหม่อย่าง Portal Go และ Portal+ ในปี 2021 จึงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับ Facebook พอสมควร โดยในรุ่น Portal Go มาพร้อมหน้าจอขนาด 10 นิ้ว และกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ตัวเครื่องมีรูปทรงสามเหลี่ยมที่ Mark Zuckerberg บอกว่าสามารถหิ้วไปวางตรงไหนของบ้านก็ได้
ส่วน Portal+ จะเป็นอุปกรณ์ที่ตัวใหญ่กว่า และมีหน้าจอบางเฉียบ ขนาด 14 นิ้ว แถมหน้าจอยังให้ความละเอียดระดับ HD ซึ่งในตอนสาธิตอุปกรณ์ เขาได้นำภาพสุนัขของตัวเองมาเป็นภาพหน้าจอด้วย
รองรับ Work From Home
ในด้านการทำงาน หากเป็นการใช้งานในบ้าน Facebook บอกว่า Portal ได้รับการอัปเกรดลำโพงให้เสียงดีขึ้น สามารถฟังเพลงจากแอปต่าง ๆ เช่น Spotify, Pandora, iHeartRadio ฯลฯ ได้
นอกจากนั้น เพื่อจับกระแส Work From Anywhere ทาง Facebook จึงได้ออกแบบให้อุปกรณ์นี้รองรับ Microsoft Teams ทำให้มันทำงานได้หลากหลายมากขึ้น (เริ่มใช้งานได้ในเดือนธันวาคม) แถมยังสามารถเข้าถึง calendar, contacts, file sharing และแชทต่าง ๆ ได้ด้วย
รองรับการประชุมผ่าน Microsoft Teams
เจาะธุรกิจขนาดเล็กด้วย Portal For Business
สำหรับภาคธุรกิจ Facebook ยังได้เปิดตัว Portal For Business ในการใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Portal ไปกับการประชุมทีม บริหารจัดการทีมผ่าน Facebook Work ฯลฯ ได้ด้วย (ตอนนี้อยู่ระหว่างการทดสอบเวอร์ชันเบต้าในสหรัฐอเมริกา) โดยใน 2 รุ่นล่าสุดนี้ ทางบริษัทบอกว่า ตั้งราคา Portal Go ไว้ที่ 199 เหรียญสหรัฐ และ Portal+ ขายที่ 349 เหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขยอดขายของอุปกรณ์ Portal ที่ผ่านมา แต่หากย้อนไปดูผลประกอบการของ Facebook ในไตรมาส 2 ของปี 2021 จะพบว่า Facebook มีรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่โฆษณาเพียง 497 ล้านเหรียญสหรัฐ และส่วนใหญ่ก็มาจากยอดขายของแว่นตา Oculus เป็นหลัก