ที่ผ่านมาเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ใช้กันในวงจำกัด แต่ในยุค 5G ขณะเดียวกันทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และอุปกรณ์การสื่อสาร Smart Device มากขึ้น ยิ่งในสถานการณ์ COVID-19 กลายเป็นตัวเร่ง Digital Disruption ทำให้การหมุนของโลกใบนี้เปลี่ยนแปลงไปสู่ Digital Lifestyle เร็วขึ้น
นั่นทำให้เราได้เห็น Virtual Reality (VR) เข้ามามีบทบาทต่อการการช้อปปิ้งสินค้า – บริการ ตลอดจนอาหารการกิน ใครจะเชื่อว่าวันหนึ่งร้านอาหารที่เน้นให้บริการ Dine-in เน้นสร้างประสบการณ์ 5 Senses หรือประสาทสัมผัสทั้ง 5 ให้กับลูกค้า ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส มาวันนี้ได้เข้ามาอยู่ในโลกของ VR ด้วยเช่นกัน
เช่นตัวอย่างล่าสุด “Food Passion” (ฟู้ดแพชชั่น) และ “AIS” (เอไอเอส) จับมือเปิดตัวร้านอาหารในรูปแบบ “Virtual Restaurant” ครั้งแรกของเมืองไทยบนแพลตฟอร์ม “AIS V-AVENUE.CO” ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่เป็น Virtual Restaurant นำโดยแบรนด์เรือธง “Bar B Q Plaza” (บาร์บีคิวพลาซ่า) พร้อมด้วยอีก 3 แบรนด์ในเครือ ได้แก่ ณานา โภชา และเรดซัน ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ ต่าง Win-Win ทั้งคู่
Win ที่ฝั่ง “Food Passion” จะได้ประโยชน์คือ
1. สร้างประสบการณ์ใหม่ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ในเครือฟู้ดแพชชั่นยังคงทันสมัยตลอดเวลา
2. ขยายฐานลูกค้าใหม่เข้าไปยังฐานลูกค้า AIS ซึ่งมีฐานลูกค้าที่กว้าง และคุณภาพ เพื่อดึงให้ลูกค้าใหม่เข้ามาอยู่ใน Own Delivery Platform เของฟู้ดแพชชั่นอย่างช่องทาง LINE GON GANG
เหตุผลที่ Food Passion ให้ความสำคัญกับการสร้างช่องทางเดลิเวอรี่ของตัวเอง เพราะทำให้มีอิสระในการนำเสนอเมนูได้มากกว่า โดยเฉพาะชุดปิ้งย่าง ซึ่งเป็น Core Product ของ Bar B Q Plaza โดยใช้จุดขาย “บริการยืมคืนกระทะ” เป็น Signature Service ที่มีเฉพาะบนแพลตฟอร์มของ Food Passion เอง
ในขณะที่การขายบนแพลตฟอร์ม Food Aggregator ต้องเจอทั้งการแข่งขันสูง และกลยุทธ์ของแพลตฟอร์มเน้น Promotion-driven ส่งผลให้ยอดการซื้อของลูกค้าต่อครั้ง เป็นยอดบิลเล็ก
ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบ Transaction ยอดบิล หรือยอดการใช้จ่ายต่อครั้งระหว่างช่องทาง LINE GON GANG โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,100 – 1,200 บาทต่อบิล สูงกว่ายอดบิลบนแพลตฟอร์มของ Food Aggregator ที่ยอดบิลโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 350 บาท
3. สร้างความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในระยะยาว เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของ Food Passion
“ในช่วง COVID-19 ตัวเราเองอยู่ในร้านอาหาร รู้ว่าโลกกำลังจะเปลี่ยนไป เราพยายามหาช่องทางใหม่ๆ หรือโอกาสใหม่ๆ ให้กับลูกค้า และเห็นว่าคอนเซ็ปต์ของ V-AVENUE คือโลกใหม่ จากที่ผ่านมาร้านอาหารของเราอยู่ในโลกออฟไลน์มาโดยตลอด แต่วันนี้เราพยายามนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ ด้วยการเปิดร้านอาหารบนโลกเสมือนจริง” คุณบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการสร้างโอกาสทางการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหาร ฟู้ดแพชชั่น เล่าเหตุผลของการทำ Visual Restaurant
ขณะที่ AIS เปิดแพลตฟอร์ม V-AVENUE ซึ่งเป็นห้างทิพย์ที่รวบรวมแบรนด์ ทั้งรายใหญ่ และผู้ประกอบการ SME มาเปิด Virtual Store โดยในช่วง 3 เดือนที่ทดลองเปิดให้บริการ พบว่ามียอด Traffic ลูกค้า 3 ล้านราย จากนี้จะเร่งเติม Magnet แบรนด์ร้านค้ามากขึ้น
ส่วน Win ที่ AIS จะได้คือ
1. การเปิด V-AVENUE หรือห้างทิพย์เสมือนจริงบนโลกดิจิทัล เป็นการตอกย้ำภาพความเป็นผู้นำเทคโนโลยี 5G ของ AIS
2. สร้าง Engagement กับลูกค้า เพื่อเป็นมากกว่าผู้ให้บริการ Telco ในด้านการสื่อสาร แต่ต้องการปักธงการเป็น Digital Infrastructure ที่เข้าไปอยู่ในวิถีชีวิตคนไทย
3. เป็นช่องทางทำ Loyalty Program รักษาฐานลูกค้า ด้วยการนำเสนอสิทธิพิเศษ เมื่อเข้าไปใน V-AVENUE สิ่งที่จะพบคือ ร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่มาเปิด Virtual Store มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า AIS ดังนั้นยิ่งมีพาร์ทเนอร์มากเท่าไร จะยิ่งทำให้ทั้ง AIS และพาร์ทเนอร์รวมกันออกแบบโปรโมชั่น สิทธิพิเศษให้กับลูกค้ามากขึ้น
คุณปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า บริษัทฯ เดินหน้าสร้างโอกาสไปยังพื้นที่ใหม่ๆ เพื่อให้เทคโนโลยีดิจิทัลเกิดประโยชน์ในแง่ของการใช้งานที่หลากหลาย และแพลตฟอร์ม V-Avenue.Co เราได้ขยายบริการจาก Retail สู่พาร์ทเนอร์รายแรกในธุรกิจร้านอาหารอย่างฟู้ดแพชชั่น เข้ามาร่วมกันพัฒนาร้านอาหารเสมือนจริงหรือ Virtual Restaurant
เพื่อเปิดโอกาสให้กับคนไทยได้สัมผัสกับมิติใหม่ของการเข้าร้านอาหาร อีกทั้งยังเป็นการยกระดับวงการธุรกิจร้านอาหารให้มีช่องทางใหม่ในการเข้าถึงลูกค้าด้วยประสบการณ์ดิจิทัลผ่านเทคโนโลยี AIS 5G สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค New Normal
“เทคโนโลยี VR มีมาหลายปีแล้ว อย่างสมัยก่อนต้องมีอุปกรณ์แว่น VR แต่ปัจจุบันในยุค 5G ตอบโจทย์ทั้งความแรง ความเร็ว และค่าความหน่วงต่ำมากๆ ทำให้การประมวลผลออกมาเสมือนจริงมากขึ้น แต่การจะเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้เต็มรูปแบบ เช่น ต้องใส่แว่น VR อาจทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่าใช้ยาก เมื่อได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี จะทำให้ผู้ใช้ ไม่อยากใช้ต่อ
ดังนั้น AIS ดู Insight ของผู้บริโภค เพื่อเอาเทคโนโลยี VR มาพัฒนา V-AVENUE ให้ใช้งานง่าย เช่น ยังสามารถคลิ๊กดูได้ทั้ง 360 องศา เพื่อค่อยๆ แทรกซึมอยู่ในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และเมื่อใดที่ผู้ใช้เร่ิมคุ้นชิน เราจะพัฒนาฟีเจอร์ และลูกเล่นสำหรับ VR มากขึ้น”
เตรียมลุยตลาดอาหารเกาหลี “Red Sun” – คาดรายได้ปี ’64 ไม่ถึงเป้า
ขณะที่แผนธุรกิจของ “Food Passion” ที่จะได้เห็นในช่วง 4 – 5 เดือนหลังของปีนี้ นอกจากเปิด Virtual Restaurant แล้ว ยังเตรียมรุกตลาดดังนี้
– จับมือพาร์ทเนอร์ด้าน Raw Material เพื่อนำสินค้าวางจำหน่ายในช่องทางซูเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ต
– การลุยตลาดร้านอาหารเกาหลี “Red Sun” (เรดซัน) หลังจากซื้อกิจการเมื่อปี 2562
“ต่อไปในตลาดอาหารเกาหลีจะเริ่มเห็นอะไรสนุกๆ และตื่นเต้นมากขึ้น เราจะลุยตลาดอาหารเกาหลี เพราะเทรนด์เกาหลีอยู่กับคนไทย และ Red Sun มีความพร้อม ทั้งการเป็นร้านอาหารเกาหลี และสาขาที่ปัจจุบันมี 15 สาขา เราจะเอาแบรนด์นี้มาปัดฝุ่น เพื่อลุยตลาด”
– เพิ่มจุดรถ Food Truck “Gon Food ทัก” ปัจจุบันจอด 1 จุด แต่ภายในปีนี้ จะขยายเพิ่มเป็น 5 – 7 จุดกับปั๊มบางจาก
สำหรับเป้าหมายยอดขายปี 2564 ทางฟู้ดแพชชั่นคาดการณ์ว่าจะไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ 2,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายที่ได้จากปีที่แล้ว เนื่องจากตัวเลขการขาย Dine-in หายไปในช่วง 2 เดือนที่ถูกล็อกดาวน์
ปัจจุบันแบรนด์ในเครือฟู้ดแพชชั่น ประกอบด้วย
– Bar B Q Plaza (บาร์บีคิว พลาซ่า) 150 สาขา
– Red Sun (เรดซัน) 15 สาขา
– Charna (ฌานา) 1 สาขา
– Pocha (โพชา) 1 สาขา
– แฟรนไชส์หมูทอดกอดคอ 30 – 40 สาขา
ขณะที่เป้าหมายรายได้ในปี 2564 คุณบุณย์ญานุช มองว่า ปีที่แล้วรายได้ Food Passion อยู่ที่ 2,800 ล้านบาท จากเป้า 3,500 ล้านบาท มาปีนี้ เดิมทีตั้งเป้าไว้เท่ากับปีที่แล้ว แต่จากสถานการณ์ COVID-19 และล็อกดาวน์ที่ทำให้ร้านอาหารต้องปิดให้บริการไป 2 เดือน คิดว่าน่าจะไม่ถึงเป้าหมายรายได้ 2,800 ล้านบาทตามที่วางไว้
“สิ่งพีคสุดของการทำร้านอาหาร คือ ถูกสั่งปิดร้าน เพราะ Core Business ของธุรกิจร้านอาหารคือ หน้าร้าน เนื่องจากในนั้นมีครัว ซึ่งตอนนั้นเราเหมือนถูกปิดครัวไปเลย ทำให้ต้องทำ Delivery Hub ทั้งตึกแถว และในปั๊มน้ำมัน บวกกับทักษะของพวกเราเอง
ทำให้เราสามารถ Spin สิ่งใหม่ๆ ได้ออกมาเยอะ และด้วย Underdog Spirit ของพวกเรานี่เอง ทำให้จากนี้ไม่มีอะไรทำพวกเราได้อีกแล้ว”