สำหรับประเทศที่มีการฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 ขนานใหญ่ให้กับประชาชน และบรรยากาศเริ่มกลับสู่สภาพปกติแล้วนั้น เราอาจเริ่มเห็นบริษัทต่าง ๆ เริ่มมีความกระตือรือร้นที่จะกลับมาเปิดธุรกิจกันอีกครั้ง แต่ในมุมของพนักงาน มีการสำรวจพบว่า พวกเขาอาจกำลังคิดถึง การ “ลาออก – เปลี่ยนสายงาน” กันอยู่ก็เป็นได้
ข้อมูลนี้มาจากการสำรวจของ Monster.com ที่พบว่า มีมนุษย์ออฟฟิศจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวพร้อมจะ “ลาออก” โดย Monster.com เรียกสถานการณ์นี้ว่า The Great Resignation หรือการลาออกครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังวิกฤติ Covid-19 ผ่านพ้นไป
สิ่งที่การสำรวจของ Monster.com พบก็คือ 95% ของพนักงานที่ทำการสำรวจ 649 คนบอกว่า กำลังพิจารณาว่าจะเปลี่ยนงาน และมี 92% บอกว่าอาจเปลี่ยนอุตสาหกรรมที่ทำงานเพื่อให้ได้งานที่ตรงใจมากขึ้น
ส่วนสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้อยากลาออกนั้น 32% บอกว่า มาจากปัญหา Burn Out จากหน้าที่การงานในปัจจุบัน และ 29% บอกว่า มองไม่เห็นโอกาสเติบโต นอกจากนี้ 66% ยังบอกว่า พวกเขามองเห็นโอกาสใหม่ ๆ รออยู่ในตลาดงานเบื้องหน้า
Monster.com ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า สิ่งที่พนักงานเสิร์ชหามากเป็นลำดับต้น ๆ คืองานที่ทำได้โดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ (Remote Work) โดยคำว่า Remote ติดอันดับ top10 ของคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาในเดือนกุมภาพันธ์เลยทีเดียว
ผู้บริหาร 70% อยากให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศ
อย่างไรก็ดี LaSalle Network ได้มีการสอบถามความคิดเห็นจากซีอีโอ และฝ่ายบุคคล รวมถึงผู้บริหารด้านการเงินกว่า 350 คน ก็พบแนวโน้มที่ตรงกันข้าม นั่นคือ กว่า 70% ของผู้บริหารวางแผนจะให้พนักงานกลับเข้าทำงานที่บริษัทภายในสิ้นปีนี้เป็นอย่างช้า แต่ก็ยอมรับว่า การตัดสินใจดังกล่าวมาพร้อมความกังวลใจเรื่องพนักงานอยาก Work From Home ต่ออยู่ไม่น้อย
แผนสำหรับออฟฟิศในอนาคต ในประเทศที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จึงอาจเป็นไปตามที่ McKinsey คาดการณ์ นั่นคือ บริษัทอาจต้องปรับการทำงานเป็นแบบไฮบริด คือมีทั้งการทำงานแบบที่เข้ามาในออฟฟิศบ้าง และมีบางวันที่ทำงานจากนอกออฟฟิศได้สลับกันไป เพื่อดึงดูดใจพนักงานให้อยากทำงานต่อนั่นเอง