การ Work From Home (WFH) หรือ Work From Anywhere ที่เคยทำได้ในช่วง Covid-19 ระบาด และทำให้พนักงานหลายคนติดใจ มาถึงตอนนี้ แนวคิดดังกล่าวอาจกำลังทำให้หลายคนต้องตกงานแทนแล้วก็เป็นได้ เพราะมีการสำรวจในสหราชอาณาจักร พบว่า คนที่ได้รับประโยชน์จากการ WFH ส่วนใหญ่ คือกลุ่มแรงงานที่มีทักษะสูง และอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่เป็นหลัก
ผลการสำรวจดังกล่าวจัดทำโดยมหาวิทยาลัย St Andrews และ Southampton (ได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงการเคหะ ชุมชน และรัฐบาลท้องถิ่นของสหราชอาณาจักร รวมถึงสภาวิจัยเศรษฐกิจและสังคม) พบว่า ในเมืองใหญ่เช่น กรุงลอนดอน มีพนักงานทักษะสูงที่เคยทำงานแบบ WFH มากถึง 71% แต่ถ้าเป็นแรงงานทั่วไป พบว่ามีถึง 52% ไม่เคยทำงานแบบ WFH เลย
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังพบว่า การโยกย้ายถิ่นฐานของแรงงานที่มีทักษะสูงไม่ได้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง และหากมีการย้าย ก็มักเป็นการย้ายระยะสั้นเพื่อไปทำงานสัปดาห์ละไม่กี่วัน ซึ่งในข้อนี้ ทำให้การ WFH ถูกมองว่า ไม่สามารถช่วยกระจายบุคลากรที่มีความสามารถไปทั่วประเทศได้จริง
และหากมีการย้ายถิ่นที่อยู่ แรงงานที่มีทักษะสูงเหล่านั้นจะมองหาบ้านที่กว้างขวางกว่าที่เคยอยู่ในเมืองใหญ่ เนื่องจากมีอำนาจในการซื้อสูงกว่าคนในเมืองรอง ซึ่งรายงานดังกล่าวชี้ว่า อาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและส่งผลกระทบต่อเมืองรองในด้านต่าง ๆ ตามมาได้ด้วย
ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมืองรองของประเทศต่าง ๆ รวมถึงสหราชอาณาจักรมีปัญหาให้รับมือมากมาย ทั้งการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ เศรษฐกิจที่ซบเซา และการที่มีแต่งานคุณภาพต่ำ แต่รายงานชิ้นนี้ต้องการชี้ว่า การอนุญาตให้ WFH อาจไม่สามารถแก้ไขได้ตรงจุด และไม่ได้ทำให้เกิดการกระจายตัวของแรงงานที่มีทักษะสูงได้จริง
อย่างไรก็ดี ข้อดีของการ WFH ยังมีอยู่ โดย Nicholas Bloom นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Stanford พบว่าการทำงานแบบไฮบริดมีคุณค่าต่อพนักงานเทียบเท่ากับการขึ้นเงินเดือน 8% เนื่องจากช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทาง (มีการเปรียบเทียบว่า หากพนักงานต้องใช้เวลาไปทำงานที่ออฟฟิศ พวกเขาต้องอยู่บนท้องถนนอย่างต่ำ 45 นาทีต่อวัน)
แต่ข้อดีดังกล่าวอาจไม่ได้ถูกใจบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่มากพอ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ การได้เห็นบริษัทจำนวนมาก ทั้ง Google, Tesla, Meta, Amazon หรือแม้แต่รายล่าสุดอย่าง BlackRock เริ่มกลับไปใช้รูปแบบการทำงานก่อน Covid-19 โดยเรียกพนักงานระดับสูงกลับเข้าออฟฟิศเต็มเวลา ซึ่ง Nicholas Bloom ตั้งข้อสังเกตว่า การบังคับให้พนักงานทำงานในออฟฟิศทุกวันอาจเป็นกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นให้บางคนลาออก และช่วยให้บริษัทลดจำนวนพนักงานลงได้ในวันที่ต้องรัดเข็มขัดเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเอง
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE