หนึ่งในรูปแบบการลงทุนมาแรงในช่วง COVID-19 ที่ผู้คนอยู่บ้าน Work From Home ต้องยกให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัล อย่าง Bitcoin ที่ทำสถิติสูงสุดแตะ 60,000 เหรียญสหรัฐ ล่าสุดยังได้แรงหนุนจาก Elon Musk เจ้าพ่อ Tesla ประกาศให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินด้วย Bitcoin ได้แล้ว ก็ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นดันราคาพุ่งขึ้นไปอีก
ส่วนกระแสสนใจลงทุนสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin ในประเทศไทยเป็นอย่างไร คุณอิษณาติ วุฒิธนากุล ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาด อิปซอสส์ (ประเทศไทย) บริษัทวิจัยตลาดและสำรวจความคิดผู้บริโภคระดับโลก สรุปผลวิจัยไว้ดังนี้
เริ่มจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย จำเป็นต้องดำเนินมาตรการลดอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate) ลงต่ำกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ทำให้ดอกเบี้ยเงินฝาก ไม่เป็นที่จูงใจอีกต่อไป ขณะที่รายได้ลดลงและค่าใช้จ่ายเพื่อการครองชีพคงสูงเท่าเดิม ผู้คนจึงมุ่งหาทางเลือกเพื่อชดเชยช่องทางรายได้
อีกทั้งการที่ผู้ให้บริการเทรด Cryptocurrency ได้ใช้กลยุทธ์การตลาดสร้างการรับรู้และผลตอบแทนที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดกระแสการรับรู้อย่างกว้างขวาง ประกอบกับเป็นช่วงจังหวะที่ผู้คนกำลังมองหาทางเลือกในการออมเงินและลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากว่าการออมเงินในเงินฝากธนาคาร เป็นเหตุให้สกุลเงิน Bitcoin ที่กำลังพุ่งแรงเข้าไปอยู่ในความสนใจของคนไทย “ทุกวัย”
หากย้อนดูตลาดเทรดสกุลเงินดิจิทัลในช่วงแรกๆ เป็นที่รับรู้กันว่าทำเงินมหาศาลให้กับนักลงทุนชาวไทย และสร้างเศรษฐีหน้าใหม่จากตลาด Cryptocurrency โดยเริ่มจากเดือนกันยายน ปี 2554 Bitcoin 1 หน่วย มีมูลค่า 4.82 เหรียญสหรัฐ หรือเท่ากับ 146 บาท หลังจากนั้นประมาณ 9 ปี ต่อมา Bitcoin มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์มากกว่า 60,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 1.8 ล้านบาท นับว่าเป็นการเติบโตมากกว่า 1 ล้าน % เมื่อเทียบกับปี 2554
คนไทย 68% สนใจ Bitcoin
อิปซอสส์ ได้ทำสำรวจข้อมูลแบบสอบถามออนไลน์ คนไทย 500 คน อายุ 18 ปีขึ้นไป ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งอยู่ในช่วงโควิดระลอกใหม่ เกี่ยวกับความสนใจและการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin สรุปข้อมูลได้ดังนี้
- 68% ของคนทั้งประเทศ (กลุ่มที่ใช้ออนไลน์) มีความสนใจใน Bitcoin (ยังไม่ใช่กลุ่มที่ลงทุนเทรดทั้งหมด)
- 20% ไม่สนใจ Bitcoin
- 12% ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับ Bitcoin
โดยมีจำนวนมากอยู่ระหว่างศึกษาดูความเป็นไปได้ในการเตรียมลงทุน เพื่อหวังทำเงินผ่านช่องทางนี้ และเมื่อถามถึงความสนใจ เหตุผล และปัญหาในการอยากทำเงินจากตลาดเงินสกุลดิจิทัล Bitcoin มีเหตุผล 3 อันดับแรกดังนี้
- 68% ของคนไทย สนใจที่จะเทรดเงินสกุล Bitcoin เพราะต้องการผลกำไรที่รวดเร็ว ในกลุ่มนี้น่าสนใจว่าเป็นกลุ่มครอบครัวที่มีลูก 73% ทั้งยังพบว่ามีการปรับพอร์ตลงทุน โยกเงินจากกองทุนและตลาดหุ้นมาลงทุนใน Bitcoin
- 59% ต้องการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจลงทุนใน Bitcoin เพื่อเรียนรู้การเทรดจริง
- 42% มีเป้าหมายการลงทุนเพื่อสร้างรายได้ระยะยาว เพราะมองว่า Bitcoin มีโอกาสมาแทนที่ทองคำ
“ทุกวัย” สนใจลงทุน Bitcoin
จากการวิจัยได้ศึกษาในส่วนของ “เพศ” และ “อายุ” ของกลุ่มตัวอย่างที่สนใจ Bitcoin ด้วย โดยพบว่าผู้หญิงไทย มีความสนใจใน Bitcoin ไม่น้อยกว่าผู้ชายไทย และมีแนวโน้มติดตามข่าวสารมากกว่าผู้ชาย
ผู้สนใจลงทุนติดตามข่าวสารและหาความรู้การลงทุน Bitcoin จากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน 77% อินฟลูเอนเซอร์ด้านการลงทุน 32% หาข้อมูลจากครอบครัวและเพื่อน 22% ข้อมูลจากโฆษณา 19%
นอกจากนี้ยังมีมุมมองที่แตกต่างกันของคนไทยในแต่ละช่วงอายุ ในการลงทุน Bitcoin โดยทำการศึกษา 4 ช่วงอายุ ดังนี้
-อายุ 18 – 29 ปี
เป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจลงทุน Bitcoin มากที่สุด 72% โดยมากถึง 40% ของคนรุ่นใหม่สนใจที่จะลงทุนแม้ไม่เคยลงทุนมาก่อน กลุ่มนี้มีแนวโน้มบอกต่อความสนใจในสกุลเงินดิจิทัลต่อเพื่อน และคนในครอบครัว มากกว่าคนในช่วงวัยอื่น กว่า 82% มองว่าการลงทุน Bitcoin เป็นสิ่งที่ดีต่อคนรอบตัว
แต่กลุ่มนี้ยังมีข้อจำกัดด้านเงินทุน โดยกว่า 37% บอกว่าติดปัญหาการขาดเงินเย็นสำหรับการลงทุน Bitcoin โดยแบ่งเงินเดือนมาทยอยลงทุน
อีกปัจจัยที่คนอายุน้อยสนใจลงทุนเทรดเงินสกุลดิจิทัล เพราะเปิดพอร์ตลงทุนง่าย ใช้เงินไม่มากในการลงทุน
-อายุ 30 – 39 ปี
จากการศึกษาพบว่า 32% ของคนกลุ่มนี้สนใจลงทุน Bitcoin นอกจากหวังผลกำไรแล้ว กว่า 42% ยังสนใจลงทุนในระยะยาว และใช้ผลตอบแทนเป็นเงินทุนสำหรับชีวิตในวัยเกษียณ เป็นกลุ่มที่มีการเทรด Bitcoin สูงสุด เพราะเข้าใจในเทคโนโลยีและมีเงินเย็น เพื่อลงทุน
-อายุ 40 – 49 ปี
ในกลุ่มนี้จำนวน 28% ไม่สนใจที่จะลงทุน Bitcoin เนื่องจากขาดความเข้าใจในการทำงานของ Bitcoin ที่แตกต่างจากระบบการเงินแบบรวมศูนย์ (centralized monetary system) ที่มีธนาคารเป็นศูนย์กลางข้อมูลทางการเงินของลูกค้า และถูกควบคุมโดยธนาคารกลางของประเทศ ซึ่งผู้ลงทุนส่วนใหญ่มีความคุ้นเคยกับระบบดังกล่าวเป็นอย่างดี
-อายุ 50 ปีขึ้นไป
ในกลุ่มนี้มีคนถึง 45% ที่ไม่เคยลงทุน และไม่สนใจที่จะศึกษาหรือลงทุนใน Bitcoin โดย 4% ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับ Bitcoin เลย แต่นั่นก็หมายถึง 50% ที่มีความสนใจในสกุลเงินดิจิทัลเช่นกัน ซึ่งถือว่าผิดคาด เพราะน่าจะเป็นวัยที่ไม่ต้องการความเสี่ยงจากการลงทุน
อุปสรรคเทรด Bitcoin คือขาดเงินลงทุน
แม้ภาพรวมการเทรด Bitcoin จะดูคึกคักและมีผู้สนใจลงทุน แต่ก็ยังมีมุมของอุปสรรคอยู่เช่นกัน หากดูจากมุมมองกลุ่มอายุ 18-39 ปี บอกว่า มีเงินไม่มากพอจะลงทุน ขาดความรู้เกี่ยวกับ Bitcoin และเทคโนโลยีบล็อคเชน และมีความเสี่ยงสูง
ขณะที่กลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป มองว่าอุปสรรคหลักคือ ขาดความรู้เกี่ยวกับ Bitcoin มีเงินไม่มากพอลงทุน และความไม่มั่นใจในความเสี่ยงและความมั่นคงของการลงทุน หากดูความเห็นที่เป็นอุปสรรคของทั้ง 2 กลุ่มแล้วจะเห็นว่าการกลัวความเสี่ยงสูงมาเป็นอันดับท้ายสุด
Bitkub เบอร์หนึ่งกระดานเทรดเงินดิจิทัล
ปัจจุบันมี แฟลต์ฟอร์ม หรือกระดานซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลหลายราย แต่ “บิทคับ” (Bitkub) กระดานเทรดสัญชาติไทย ครองตลาดด้วยจำนวนผู้ลงทุนและเคยลงทุนกว่า 72% ผ่านการใช้กลยุทธ์สื่อการโฆษณาและทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์จำนวนมาก พร้อมนำเสนอผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจ เพื่อชักชวนนักลงทุนรายใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคได้ในวงกว้าง
ตามหลังด้วย ไบแนนซ์ (Binance) กระดานเทรดเงินดิจิทัลที่มีเครือข่ายทั่วโลกและรองรับสกุลเงินต่าง ๆ มากมายรวมถึงเงินบาท ดึงดูดให้นักลงทุนให้สามารถเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนภายในแพลตฟอร์มได้โดยมีจำนวนผู้ลงทุนและเคยลงทุนที่ 27% ซึ่งตามมาเป็นที่สอง และที่สามกับ สตางค์โปร (Satang Pro) กระดานเทรดสัญชาติไทยรายใหญ่ หนึ่งในพันธมิตรของไบแนนซ์ กระดานเทรดระดับโลก โดยสตางค์โปรมีจำนวนผู้ลงทุนและเคยลงทุนอยู่ที่ 13%
จากผลสำรวจลงทุน Bitcoin ได้เผยให้เห็นว่าถึงแม้จะมีความไม่แน่นอนและความเสี่ยงต่างๆ แต่ 42% ของชาวไทยที่มีความสนใจใน Bitcoin และมีแผนที่จะลงทุนภายใน 1 ปี จึงกล่าวได้ว่าตลาด Bitcoin สำหรับคนไทยยังคงคึกคักต่อไป ไม่หายไปในเร็ววันนี้แน่นอน