“อมรินทร์กรุ๊ป” ฝ่าด่านสถานการณ์ท้าทาย ปรับกลยุทธ์การจัดแสดงงานรูปแบบใหม่ “Amarin Total Hybrid Fair” ครั้งแรก ผสานงานแฟร์ On Ground และ Online เข้าด้วยกัน เกาะเทรนด์ New Normal ครึ่งปีหลังวางแผนจัดงาน Hybrid Fair 8 ครั้ง ได้แก่ งานบ้านและสวนแฟร์ 2 ครั้ง งานอมรินทร์เบบี้แอนด์คิดส์แฟร์ 2 ครั้ง งานกินดีอยู่ดี 2 ครั้ง งานสนามอ่านเล่น 1 ครั้ง และ งานมหกรรมนิยาย 1 ครั้ง ตั้งเป้าผู้เข้าชมงานแฟร์รวมทั้งหมดกว่า 10 ล้านคน เงินสะพัดกว่า 10,000 ล้านบาท
คุณระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าที่ผ่านมางานแฟร์ของอมรินทร์กรุ๊ปทุกงาน ได้กระแสตอบรับจากผู้เข้าและร้านค้าที่ร่วมออกบูธในงานเป็นอย่างดี โดยในปีนี้ได้พัฒนางานแฟร์ รูปแบบใหม่ ทั้ง On Ground และ Online กลายเป็น Amarin Total Hybrid Fair ซึ่งนำ www.Amvata.com เข้ามาเสริมประสบการณ์การช้อปปิ้งให้ดียิ่งขึ้นแบบ Total Experience Hybrid
ด้วยจุดแข็งการมี “สื่อ” ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น สื่อสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และโซเชียล ของทุกแบรนด์ในอมรินทร์กรุ๊ปและช่องทางสำคัญอย่าง Amarin TV ซึ่งเป็นอันดับที่ 4 ของทีวีดิจิทัล ที่เข้าถึงกลุ่มคนทุกช่วงวัย และได้รับกระแสตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 0.711 และมีผู้ติดตามในช่องทางออนไลน์ของ Amarin TV มากกว่า 10 ล้านคน การจัดแฟร์ Total Experience Hybrid 4 ด้านดังนี้
Shopping Hybrid เป็นโมเดลที่ทำให้ร้านค้าที่ร่วมงานแฟร์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อแบบครอบคลุมทั่วประเทศ เพราะลูกค้าได้ช้อปปิ้งทั้ง 2 ทาง “ไปช้อปที่งานออนกราวด์ หรือ ช้อปอยู่ที่บ้าน” ทำแบบ Hybrid พร้อมกัน สร้างโอกาสการเข้าถึงลูกค้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ด้วยโปรโมชั่นช้อปที่ไหน ก็ได้โปรโมชั่นแบบเดียวกันกับในงานแฟร์ผ่าน www.Amvata.com แพลตฟอร์ม อี-มาร์เก็ตเพลส ของอมรินทร์กรุ๊ป
Search Hybrid ระบบค้นหาข้อมูลร้านค้าที่ออกบูธ ครอบคลุมทั้งการค้นหาผ่านชื่อแบรนด์สินค้า ชื่อบริษัท หมวดสินค้า หรือคีย์เวิร์ดสินค้าที่ต้องการ เพื่อหาร้านค้าที่ต้องการช้อปได้อย่างง่ายและสะดวก
Experience Hybrid สร้างประสบการณ์การเดินงานแฟร์ให้ผู้เข้าชมงาน สามารถดูข้อมูลความรู้เพิ่มเติม ได้ทั้งแบบวีดิโอ ภาพนิ่ง และข้อมูลเชิงลึก หรือแวะร่วมกิจกรรมแบบ Hybrid Rally ตามจุดกิจกรรมของแต่ละงานแฟร์ อาทิ บ้านและสวนตัวอย่าง กิจกรรมเมืองนิยาย จุดความรู้สุขภาพจากชีวจิต ฯลฯ
Satisfaction Hybrid เน้นความพึงพอใจสูงสุดทั้งผู้เข้าชมงานแฟร์และร้านค้าที่ร่วมงานแฟร์ ด้วย ระบบลงทะเบียนงานแฟร์ ระบบประเมินความพึงพอใจหลังชมงานแฟร์ ระบบบริหารจัดการกิจกรรมและสิทธิพิเศษ เห็นข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถปรับปรุงงานได้รวดเร็ว รวมทั้งนำมาพัฒนาต่อยอดการจัดงานแฟร์ในอนาคตได้เป็นอย่างดี
ในปี 2563 ตั้งเป้าจัดงานทั้งหมดรวม 8 ครั้ง โดยเริ่มต้นครั้งแรก งาน Amarin Baby & Kids Fair ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 9-12 กรกฎาคม 2563 กลุ่มสินค้าแม่-ลูก ลดสูงสุด 80% และต่อยอดการจัดงานออนไลน์แฟร์บน www.Amvata.com ยาวถึง 31 กรกฎาคม 2563 ด้วย 100 ร้านดังสินค้ากว่า 4,000 รายการ อาทิ แบรนด์ Papa Baby, Farlin, Fin Babiesplus, Camera, Parent, Embix, Evenflo, Chicco, Graco, Attitude Mom, Pumpnom, Skip Hop เป็นต้น
เดือนสิงหาคม จัดพร้อมกัน 3 งานแฟร์ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา ได้แก่ งานบ้านและสวนแฟร์ Midyear 2020 วันที่ 7-16 สิงหาคม 2563 ที่ฮอลล์ 98-104, งานกินดี อยู่ดี by ชีวจิต 7-16 สิงหาคม 2563 ที่ฮอลล์ 105 และงาน Amarin Baby & Kids Fair ครั้งที่ 18 วันที่ 13-16 สิงหาคม 2563 ที่ฮอลล์ 106
ส่วน www.Amvata.com Platform e-Market ปัจจุบันมีผู้ขายกว่า 750 ร้านค้า และสินค้ากว่า 19,200 รายการ ครอบคลุมสินค้าไลฟ์สไตล์ อาทิ สินค้าแม่และลูก, สินค้าเพื่อสุขภาพ, สินค้าของเหล่านักแสดงคนดัง, สินค้างาน Craft และการจัดบ้าน จัดสวน
การปรับกลยุทธ์งานแฟร์ในรูปแบบไฮบริด เกาะกระแส New Normal ครั้งนี้ เพื่อย้ำจุดแข็งของอัมรินทร์กรุ๊ป ในการเป็น Omni Effect ผนึกกำลัง Omni Media ไม่ว่าจะเป็น On Print นิตยสารและหนังสือเล่ม, Online เว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย, On Shop ร้านนายอินทร์ และ มีเดีย คอมเมิร์ช www.Amvata.com On Air ทีวีดิจิทัล Amarin TV 34 HD และ On Ground งานแฟร์และกิจกรรมต่างๆ ในทุกช่องทาง
“วิกฤติโควิดที่เกิดขึ้น เป็นเพียงจุดเปลี่ยนผ่าน สู่การสร้างสรรค์งานรูปแบบใหม่ของอมรินทร์กรุ๊ปเจ้าตลาดสื่อครบวงจรของไทย และเป็นผู้นำด้านงานแฟร์ไลฟ์สไตล์ ที่ยังมีโอกาสไปต่อได้”