เมื่อพูดถึง “น้ำผักผลไม้” และ “คุณภาพ” เชื่อว่า Top of Mind Brand ที่หลายคนต้องนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ เลยก็คือ “ดอยคำ” (Doikham) เพราะทั้งสองสิ่งนี้ถือเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์ผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปแบรนด์นี้ ดอยคำเป็นแบรนด์ที่มีอายุมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ เกิดจากปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ต้องการให้เป็นธุรกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อรองรับผลิตผลจากทางเกษตรกร ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดอยคำมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันครอบคลุมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ผลไม้อบแห้ง น้ำผึ้ง น้ำผลไม้เข้มข้น ผลิตภัณฑ์ทาขนมปัง และผลไม้ในน้ำเชื่อม
แม้ผลิตภัณฑ์ของดอยคำจะมีมากมาย แต่ดอยคำยังคงเติมเต็มความหลากหลายด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และรสชาติใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยแต่ละปีจะพัฒนาสินค้าใหม่ออกมาทำตลาดต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์ที่ออกมายังต้องแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่วางขายอยู่ในตลาด เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพหลากหลายมากขึ้น
โดยล่าสุดได้แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ “น้ำผักผลไม้สกัดเย็น” (Cold-pressed Juice) ออกมาสร้างเซอร์ไพร้สบนหน้าชั้นวางอย่างหนัก เพราะนอกจากรสชาติจะแปลกใหม่แล้ว ดีไซน์แพคเกจจิ้งยังโดดเด่นให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากที่ผ่านมา จนดึงดูดความสนใจของคนรักสุขภาพเป็นจำนวนมาก ซึ่งวันนี้ Brand Buffet จะพาไปค้นคำตอบจาก คุณฝน นภนีรา รักษาสุข และทีมดีไซน์ของ YINDEE DESIGN ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบที่ดอยคำไว้วางใจให้มาช่วยสร้างสรรค์แพคเกจจิ้งน้ำผักผลไม้สกัดเย็นให้ดูเก๋และทันสมัยมากขึ้น ถึงวิธีคิดและการสร้างสรรค์งานให้ออกมาแปลกใหม่และยังคงเอกลักษณ์ความเป็นธรรมชาติได้อย่างลงตัว
ศึกษาตลาด และ แตกต่างด้วยเทคโนโลยี
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม “ดอยคำ” ถึงต้องพลิกดีไซน์แพคเกจจิ้งน้ำผักผลไม้สกัดเย็นให้แตกต่างจากน้ำผักผลไม้เดิม ทั้งๆ ที่ผลิตภัณฑ์น้ำผักผลไม้ของดอยคำเป็นที่รู้จักและยอมรับของคนรักสุขภาพ คุณฝน อธิบายว่า น้ำผักผลไม้สกัดเย็นนี้เป็นสินค้าซีรีส์ใหม่ ที่ตัวสินค้าเองมีความพิเศษและคิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนที่รักการดูแลตัวเอง ใส่ใจสุขภาพค่อนข้างมาก และมีกำลังซื้อ ซึ่งมีทั้งลูกค้าเดิมของดอยคำและคนที่ไม่ได้เป็นลูกค้าประจำของดอยคำด้วย จึงทำให้ดอยคำต้องการสร้างความแปลกใหม่ให้แตกต่างจากน้ำผักผลไม้ที่มีอยู่เดิม
“ตอนแรกที่ดอยคำติดต่อมา เรารู้สึกตื่นเต้นมาก ตอนนั้นสินค้ายังอยู่ในช่วงวิจัยและพัฒนาอยู่ ทางดอยคำอยากให้เราเริ่มต้นไปด้วยกันจากการทำ Product Concept รวมถึงออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อนำไปทดสอบตลาดก่อน โดยมีโจทย์ในการทำงานว่าน้ำผักผลไม้สกัดเย็นนี้เป็นซีรี่ส์พิเศษที่พัฒนาขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพระดับพรีเมี่ยม โดยการออกแบบยังต้องคงเอกลักษณ์สำคัญที่เป็นพื้นฐานของแบรนด์ดอยคำ ในการเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากธรรมชาติและสนับสนุนเกษตรกรไทย”
คุณฝน บอกว่า หลังได้รับโจทย์ในครั้งแรก ทำให้เธอและทีมงานต้องกลับมาทำการบ้านเพิ่มเติม โดยเริ่มตั้งแต่การศึกษาข้อมูลแพคเกจจิ้งเดิม พร้อมกับค้นคว้าหาข้อมูลด้านตลาดเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค และผลิตภัณฑ์น้ำผักผลไม้สกัดเย็นที่มีอยู่ในตลาด ก่อนจะเริ่มดีไซน์ เพื่อนำเสนอเรื่องราวและตัวตนของผลิตภัณฑ์ออกมาให้เด่นชัดมากที่สุด
พบว่าในตอนนั้น ตลาดน้ำผักผลไม้สกัดเย็นที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดส่วนใหญ่ยังเป็นแบรนด์เล็กๆ หรือโฮมเมด ผลิตด้วยเครื่องโฮมยูส จึงอาจทำให้เก็บไว้ไม่ได้นาน ทั้งยังเน้นจุดขายความเป็นพรีเมี่ยม เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ดีไซน์เก๋ไก๋ และวางจำหน่ายใน IG เป็นหลัก ขณะที่ดอยคำจะมี Design Direction ชัดเจน รวมถึงใช้กระบวนการผลิตแตกต่างจากร้านโฮมเมด ด้วยกระบวนการแบบ HPP (High Pressure Processing) ซึ่งจะช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคโดยใช้แรงดันสูงมาก จึงทำให้ได้รสชาติ สารอาหาร และวิตามินครบเหมือนได้กินผลไม้สดๆ ทั้งยังสามารถเก็บน้ำผลไม้ไว้รับประทานได้นาน 45-60 วันโดยไม่ต้องใส่สารใดๆ เลย
แรงบันดาลใจจากแมลงตัวห้ำตัวเบียนในการออกแบบ
เมื่อได้ข้อมูลทางการตลาดมาแล้ว จึงเริ่มนำดีไซน์แพคเกจจิ้งน้ำผักผลไม้เดิมของดอยคำมาพิจารณาเพิ่มเติม เพื่อให้ยังคงความเป็นดอยคำอย่างต่อเนื่อง พบว่าส่วนใหญ่จะเป็นภาพผักและผลไม้ พร้อมกับมี “แมลงตัวห้ำตัวเบียน” ซึ่งเป็นแมลงกำจัดศัตรูพืชทางธรรมชาติและช่วยรักษาสมดุลในระบบนิเวศ อยู่ด้วยกันในทุกๆสินค้า เพื่อสื่อถึงหลักการธรรมชาติที่ดอยคำใช้ แต่ที่ผ่านมาแมลงเหล่านี้มักจะได้รับแค่บทพระรอง โดยเป็นเพียงแมลงตัวเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่บนบรรจุภัณฑ์เท่านั้น ขณะที่ผักผลไม้จะถูกยกให้เป็นพระเอกเสมอมา
นั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจให้คุณฝนและทีมมองมุมกลับและนำ แมลงตัวห้ำตัวเบียน มาเป็นองค์ประกอบหลักในการออกแบบในครั้งนี้ทันที โดยใช้คอนเซ็ปท์ว่า “แมลงที่รัก” เพื่อเน้นย้ำถึงจุดยืนของดอยคำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เคารพวิถีธรรมชาติ ให้ผู้บริโภครับรู้ได้ชัดเจนขึ้น
โดยได้นำเอาผักผลไม้ต่างๆ มาผสานให้เข้ากันด้วยเทคนิค Food Art บวกกับ Floral Insect Arrangement โดยหยิบจับผลไม้ชิ้นเล็กๆ ที่เป็นส่วนประกอบของน้ำผักผลไม้รวมสกัดเย็นแต่ละชนิดมาจัดเรียงเป็นตัวแมลงได้อย่างน่ารักและแยบยลมาก เช่น แมลงปอ เกิดจากการนำชิ้นส่วนของแอปเปิ้ล สับปะรด เซเลอรี่ อะโวคาโด และผักโขม มาจัดวางให้เกิดเป็นตัวแมลงปอ
ขณะเดียวกัน ในเรื่องชื่อก็มีความแตกต่างจากชื่อน้ำผักผลไม้เดิมของดอยคำ ที่ส่วนใหญ่จะนำผักและผลไม้ที่เป็นส่วนประกอบมาตั้งเป็นชื่อเพื่อให้จดจำง่าย แต่เนื่องจากน้ำผักผลไม้สกัดเย็นมีส่วนประกอบมากมาย การจะตั้งชื่อแบบเดิมคงไม่ได้ เพราะจะยาวและไม่น่าสนใจ เมื่อประกอบกับโจทย์ที่ดอยคำให้มาว่าต้องการชื่อที่บ่งบอกสรรพคุณและถ้าเป็นภาษาไทยได้ก็จะดี ทางทีมจึงตั้งชื่อออกมาเป็นชื่อแบบไทยเดิม ทั้งยังให้ความหมายแบบ Double Meaning จึงสร้างความน่าสนใจและทำให้เพิ่มมูลค่ากับน้ำผักผลไม้สกัดมากขึ้นด้วย
โดยชื่อของน้ำผักผลไม้สกัดเย็นทั้ง 5 รสชาติ ประกอบด้วย 1. สราญรมย์ น้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมของส้ม เสาวรส แครอท มะม่วง ช่วยบรรเทาความเครียดและเติมความสดชื่น 2. ไวยงาม มีส่วนผสมของลิ้นจี่ ลูกไหน บลูเบอรี่ ฯ ตอบโจทย์ในเรื่องการชะลอวัย 3. นวลวรรณ มีส่วนผสมของสตรอเบอรี่ มัลเบอรี่ ลิ้นจี่ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง 4. บัดดล มีส่วนผสมของแอปเปิ้ล เซเลอรี ช่วยล้างพิษและสร้างสมดุลระบบขับถ่าย และ 5. ครองภูมิ มีส่วนผสมของสับปะรด ฟักทอง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ท้าทายแต่คุ้มค่า
สำหรับการออกแบบแพคเกจจิ้งน้ำผักผลไม้สกัดเย็นในครั้งนี้ คุณฝนยอมรับว่า เป็นโจทย์ที่ค่อนข้างท้าทายมาก เรื่องแรกคือภาพใหญ่ของแบรนด์ ต้องทำให้ซีรีย์นี้ดูพรีเมียมขึ้น และในขณะเดียวกันก็ยังต้องมีความเป็นดอยคำ ส่วนเรื่องที่สอง คือ เรื่องแมลงเล็กๆ แต่ไม่เล็ก เพราะเจ้าแมลงเหล่านี้ ถ้า Close Up เข้าไปใกล้จริงๆ จะพบว่ารูปทรงของมันไม่ได้น่ารัก แต่ทีมต้องทำให้มันน่ารักน่าเอ็นดู ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ผิดสัดส่วนจนเป็นการ์ตูน ขณะเดียวกัน ชิ้นส่วนของผลไม้ที่นำมาใช้ในแต่ละขวดต้องมีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากันตามสัดส่วนของน้ำรสชาตินั้นๆ และที่สำคัญต้องเข้ากับรูปทรงของแมลงด้วย
“ดอยคำมีความละเอียดมาก ผลไม้ที่นำมาใช้ต้องเป็นพันธุ์ที่ทางดอยคำใช้จริงๆ เท่านั้น จะนำพันธุ์อื่นมาใช้ถ่ายรูปเพื่อให้สวยงามอย่างเดียวไม่ได้ เช่น สับปะรด ตอนแรกเราจะเลือกสับปะรดพันธุ์ที่เนื้อแข็งหน่อย เพื่อให้เห็นลายชัดเจน แต่ต้องเปลี่ยนพันธุ์ให้ตรงความเป็นจริง ก็จะฉ่ำๆ กว่า ทำงานยากขึ้นนิดนึง ไม่เพียงแค่นั้น เราจะเอาอย่างอื่นมาแซมเพื่อให้สวยโดยไม่มีที่มาที่ไปไม่ได้ แต่ละขวดแต่ละรสชาติมีองค์ประกอบของผลไม้อะไร เราก็ต้องออกแบบให้มีอย่างนั้นอยู่ในแมลง ซึ่งก็เป็นด่านที่พวกเรา ต้องหาทางแก้ไขเพื่อให้งานออกมาตอบโจทย์ลูกค้าที่สุด”
“นับเป็นโจทย์ที่ท้าทายและยากสำหรับเรา ระหว่างทางต้องปรับแก้กันหลายรอบ โดยใช้ระยะเวลา 3-4 เดือนในการออกแบบไม่รวมการวิจัย แต่เมื่อผลลัพธ์ออกมา ลูกค้าชอบ และเมื่อวางตลาดจริง ผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ขายหมดตลอด ก็นับว่าคุ้มค่าและหายเหนื่อยทีเดียว” คุณฝน ย้ำท้ายถึงความภูมิใจกับผลงานการออกแบบแพคเกจจิ้งในครั้งนี้