HomeDigitalร้านกาแฟจอแจเกินไป ญี่ปุ่นสร้างตู้ทำงานไซส์จิ๋ว ตอบโจทย์คนหาที่ทำงานระหว่างรอรถไฟ

ร้านกาแฟจอแจเกินไป ญี่ปุ่นสร้างตู้ทำงานไซส์จิ๋ว ตอบโจทย์คนหาที่ทำงานระหว่างรอรถไฟ

แชร์ :

ขอบคุณภาพจาก Mitsubishi Estate

ดูท่าว่าร้านกาแฟในญี่ปุ่นจะจอแจเกินกว่าจะรองรับความต้องการทำงานนอกสถานที่ แถมยังไม่ได้อยู่ในจุดที่เหมาะสมของมนุษย์เงินเดือน เลยทำให้เกิดธุรกิจใหม่ กับตู้ทำงาน Telecube ขนาดกระทัดรัด ผลงานของบริษัท Mitsubishi Estate ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ Okamura ที่ออกมาตอบโจทย์ความต้องการพื้นที่ Co-Working Space สไตล์ญี่ปุ่นแทน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

โดยทางมิตซูบิชิพบว่า ที่ผ่านมา บริษัทในญี่ปุ่นเปิดกว้างมากขึ้นกับการอนุญาตให้พนักงานมีเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น และไม่จำเป็นต้องเข้ามานั่งทำงานในออฟฟิศ ทว่า สิ่งที่ตามมาก็คือ คอฟฟี่ช้อปที่เปิดให้ลูกค้านำแล็ปท็อปเข้าไปนั่งทำงานกลายเป็นพื้นที่ที่แออัดมากขึ้น เพราะเต็มไปด้วยผู้คน หรือบริษัทอย่าง WeWork ที่เปิดออฟฟิศในญี่ปุ่นก็ยังไม่สามารถกระจายตัวไปในพื้นที่ต่าง ๆ ได้มากเท่าที่ควร

“สมมติคุณเป็นพนักงานเพิ่งกลับจากไปเยี่ยมลูกค้า และมีเวลาว่างเหลือสัก 15 นาทีขณะรอรถไฟ ถ้ามีพื้นที่สักแห่งหนึ่งที่พร้อมให้คุณเข้าไปใช้งาน ส่งงาน หรือคุยงานกับหัวหน้าเป็นเวลาสั้น ๆ ได้ ตู้ Telecube ก็น่าจะตอบโจทย์” คุณ Hiroyuki Mashita ซีอีโอของ Telecube กล่าว

ภายในตู้ Telecube แม้จะมีพื้นที่เพียง 1.2 ตารางเมตร แต่ก็มีพร้อมทั้งอินเทอร์เน็ต ที่ชาร์จไฟ พอร์ต USB ฯลฯ โดยผู้ที่ต้องการเข้าใช้บริการต้องกดจองผ่านแอปพลิเคชัน จากนั้นจึงนำ QR Code บนสมาร์ทโฟนมาปลดล็อกประตูจึงจะเข้าไปใช้งานได้ สนนราคาในการใช้บริการอยู่ที่ 250 เยนต่อ 15 นาที แต่ถ้าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ก็สามารถสมัครใช้บริการแบบรายเดือนได้เช่นกัน ปัจจุบัน มีการติดตั้งตู้ Telecube ไปแล้ว 22 แห่ง ตามสถานีรถไฟและพื้นที่ต่าง ๆ

ไม่ใช่แค่ Telecube จาก Mitsubishi Estate เท่านั้น ก่อนหน้านี้ East Japan Railway ก็จัดตั้งที่ทำงานไซส์เท่าตู้โทรศัพท์แบบนี้ที่ JR Shinagawa Station เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

รัฐบาลญี่ปุ่นเองก็สนับสนุนให้พนักงานทำงานนอกสถานที่ นัยว่าเพื่อรองรับมหกรรมโอลิมปิก 2020 ที่คาดว่าจะมีผู้เดินทางเข้ามาในญี่ปุ่นเพื่อร่วมชมมหกรรมดังกล่าวราว 7.8 ล้านคน การที่พนักงานทำงานนอกสถานที่กันได้ก็เชื่อว่าจะทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้คนใช้งานลดลงด้วยนั่นเอง

Source


แชร์ :

You may also like