ร้านชานมไข่มุกในมะนิลา ฟิลิปปินส์ไอเดียสุดโต่งนำเอาคอนเซ็ปท์ความเชื่อมาผสานกับไอเดียตามเอกลักษณ์เฉพาะของสินค้า โดยดีไซน์ตัวแก้วให้เป็นรูปพระพุทธเจ้า และเมื่อเขย่าหรือคว่ำแก้วลง ตัวไข่มุกในแก้วก็จะมาเติมเต็มพระเกศาของพระพุทธเจ้า
ไม่ใช่แค่ตัวแก้วเท่านั้น แต่คอนเซ็ปท์ร้านทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่ง เสื้อผ้าของพนักงานก็มาในธีมเดียวกัน ด้วยแนวคิดที่ว่า “In Boba, we believe”
การทำการตลาด หรือนำเสนอเรื่องราวผ่านสินค้าและแบรนด์คงต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมทางด้านบริบทของสังคมนั้นๆ ด้วย ร้านชานมไข่มุกร้านนี้นำเอาความคิดสร้างสรรค์มาประยุกต์ใช้กับการสร้างประสบการณ์การดื่มชาไข่มุกให้ลูกค้าสนุกไปกับจินตนาการ อีกทั้งยังมีไอเดียที่เข้าใจธรรมชาติของไข่มุกที่ลอยไปลอยมาในแก้ว แต่ถ้าจะนำมาใช้ในสังคมไทยโดยตรงเคสนี้คงไม่เหมาะสมในสายตาของคนไทยเท่าใดนัก
สำหรับพระเกศาของพระพุทธเจ้าที่ถูกสื่อสารออกมาในรูปแบบ “ม้วนก้นหอย” ที่เราคุ้นตากันนั้น เป็นความเชื่อที่ว่าแทนแสงเรืองรองที่เปล่งออกมาจากพระเศียร รวมทั้งอาจเป็นปริศนาธรรมที่สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าจะปัญหาใดๆ ในโลกนี้ พระองค์ก็สามารถขมวดเอาไว้ได้หมด และแน่นอนเป็นจินตนาการของปฏิมากรที่ถ่ายทอดสืบกันมา จนเป็นแบบแผนซึ่งได้รับการเคารพบูชาในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไม่ว่าจะสื่อสารออกมาในรูปแบบใด “คำสอน” ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด