HomeBrand Move !!3 กลยุทธ์ ดัน Mixue ขึ้นแท่นฟาสต์ฟู้ด “มีสาขามากที่สุดในโลก” แซง McDonald’s

3 กลยุทธ์ ดัน Mixue ขึ้นแท่นฟาสต์ฟู้ด “มีสาขามากที่สุดในโลก” แซง McDonald’s

แชร์ :

เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่ทุกธุรกิจต้องจับตา นั่นคือการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 17.06 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 202.5 เหรียญฮ่องกงของ Mixue (เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา) โดยพบว่า ราคาเมื่อปิดตลาดของ Mixue นั้น จบได้สวยที่ 298 เหรียญฮ่องกงเลยทีเดียว (เพิ่มขึ้นประมาณ 43%)

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ความเชื่อมั่นใน “ชานมไข่มุก”

แต่นอกจากการเข้าตลาดที่น่าตื่นตาตื่นใจ อีกหนึ่งข้อมูลที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ Mixue กลายเป็นแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดเบอร์หนึ่งของโลก ที่มีสาขามากกว่า Starbucks และ McDonald’s ไปแล้ว โดยข้อมูลในเดือนธันวาคม 2024 พบว่า Mixue มีสาขาทั้งสิ้น 45,300 แห่ง ขณะที่ McDonald’s มีสาขาทั้งสิ้น 42,800 แห่ง ส่วน Starbucks มีสาขา 40,200 แห่ง

Mixue คือใคร และกลายเป็นเชนฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้อย่างไร 

Mixue Bingcheng เชนร้านชาไข่มุกและไอศกรีมของจีนแผ่นดินใหญ่ เริ่มต้นขึ้นในเมืองเจิ้งโจวของจีน เมื่อปี 1977 โดย จางหงเฉา ซึ่งวิสัยทัศน์ของ Mixue คือ การพัฒนาเครื่องดื่มและของหวานในราคาที่เอื้อมถึงได้สำหรับคนทั่วไป (ในจีน Mixue ขายไอศกรีมราคาเริ่มต้นที่ 2 หยวน ส่วนประเทศไทย ราคาเริ่มต้นของไอศกรีมอยู่ที่ 15 บาท) ในขณะที่แบรนด์อื่น ๆ ขณะนั้น พุ่งเป้าไปที่ราคาพรีเมียม และเจาะกลุ่มคนเมืองที่มีรายได้ระดับกลางขึ้นไป

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ Mixue เลือกใช้จนเติบโตก็คือ การขยายสาขา ที่บริษัทดำเนินการภายใต้รูปแบบแฟรนไชส์ ​​ซึ่งทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องลงทุนจำนวนมาก และพบว่าผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ต่างให้ความสนใจกับกิจการที่มีต้นทุนไม่สูงมากนักรายนี้ นั่นทำให้ Mixue สามารถรุกเข้าไปยังตลาดต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วได้ทั้งในเมืองใหญ่ และเมืองรองของจีน

แนวคิดนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แตกต่างจากแนวคิดของแบรนด์อื่น ๆ ที่มักโฟกัสไปที่เมืองใหญ่ – มีกำลังซื้อสูงเป็นหลัก โดย Mixue พบว่า ในเมืองรอง ก็มีกำลังซื้อรออยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน และในภาวะที่หลาย ๆ ประเทศเกิดวิกฤติค่าครองชีพ การที่ Mixue ยังทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงเครื่องดื่ม หรือของหวานในราคาย่อมเยา กลายเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจของ Mixue ประสบความสำเร็จได้อีกทางหนึ่ง

นอกจากนั้น บริษัทยังสามารถใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียของจีน เช่น WeChat, Douyin ในการเข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีด้วย

แต่ความสำเร็จของ Mixue ไม่จบแค่ในตลาดจีน เพราะบริษัทได้ตัดสินใจขยายกิจการไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น โดยปรับเมนูให้เข้ากับรสนิยมของแต่ละประเทศเพิ่มเติม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า Mixue ไม่ได้ทิ้งตลาดใดไว้ข้างหลังเลย

Mixue ทำให้นักลงทุนสนใจตลาดชานมไข่มุกอีกครั้ง?

อย่างไรก็ดี กรณีราคาหุ้นที่พุ่งสูงอย่างรวดเร็วของ Mixue นั้น อาจไม่ได้สะท้อนว่าตลาดชานมไข่มุกกำลังทำให้นักลงทุนมีความหวังอีกครั้งแต่อย่างใด เพราะทาง Longdley Zephirin นักวิเคราะห์จาก The Zephirin Group ได้ให้ทัศนะว่า มันมาจากการที่นักลงทุนต้องการทำกำไรจากตลาดหุ้นให้ได้มากที่สุดมากกว่า

ซึ่งในบรรดาหุ้นทุกวันนี้ เขามองว่า Mixue มีแนวโน้มจะเป็นตัวเลือกที่ดี และอาจ “ตามรอย” เชนร้านชาจีนอย่าง Heytea ในการขยายกิจการไปยังยุโรปและสหรัฐอเมริกาแทนที่จะกระจุกตัวอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ – ออสเตรเลีย – ญี่ปุ่น นั่นเอง

นอกจากนี้ Longdley Zephirin ยังมองด้วยว่า Mixue มีการแข่งขันใหญ่ในจีนรออยู่เช่นกัน นั่นคือการรุกตลาดหัวเมืองใหญ่ในจีน (เช่น กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้) แทนที่จะกระจุกตัวอยู่ในเมืองรอง หรือเมืองระดับสาม ซึ่งจะทำให้ Mixue เจอคู่แข่งอย่าง Nayuki และ Heytea ที่รอตั้งรับอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวแล้วเป็นจำนวนมาก

แต่ทั้งหมดทั้งมวล The Zephirin Group ได้ประเมินมูลค่าตลาดของ Mixue group ไว้ที่ 96,000 ล้านเหรียญฮ่องกงเลยทีเดียว

source

Source

Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand

เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like