HomeSponsoredผ่ากลยุทธ์ ME by TMB ฉีกกฎดิจิทัลแบงกิ้ง แตกต่างเพราะ Disruptive เข้าถึงคนรุ่นใหม่

ผ่ากลยุทธ์ ME by TMB ฉีกกฎดิจิทัลแบงกิ้ง แตกต่างเพราะ Disruptive เข้าถึงคนรุ่นใหม่

แชร์ :

หากพิจารณาฐานลูกค้าปัจจุบันของ ME by TMB จะพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่มากกว่าครึ่งอยู่ในช่วงอายุ 18-35 ปี ด้วยสัดส่วนถึง 51% ตามมาด้วยกลุ่มอายุ 36-46 ปี ที่มีกว่า 32% ดังนั้น จะเห็นได้ชัดเจนว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของ ME เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ไปจนถึงวัยทำงานที่พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่และรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ รวมทั้งยังเป็นคนช่างเลือก และมักเลือกสิ่งที่ดีกว่าเพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่มากกว่าให้ตัวเองอยู่เสมอ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

จึงไม่น่าแปลกใจที่ ME สามารถครองใจคนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมี Brand Personality ตรงกัน คือ เป็นคนฉลาด สมาร์ท เท่ห์ และมีสไตล์เป็นของตนเอง ทำให้ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา นอกจาก ME จะมัดใจลูกค้าเดิมไว้ได้อย่างแข็งแรงแล้ว ยังสามารถขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 20% ตามเป้าหมายได้อีกด้วย

ทุกๆ ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทำให้การขยับตัวแต่ละครั้งของ ME นับจากนี้ไปจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพื่อรอดูปรากฏการณ์แปลกใหม่ที่จะเกิดขึ้นในแวดวงผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่เรียกได้ว่าฉีกกฏออกไปจากวิถีเดิมๆ แบบชนิดที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโจทย์สำคัญในการวางกลยุทธ์การทำตลาดของ ME มาโดยตลอด

ล่าสุดกับการเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักรายการดังอย่าง The Face 4 All-Stars รายการที่สร้างคอนเทนต์แฟชั่นและเอนเตอร์เทนเมนท์ได้อย่างโดดเด่นในทุกซีซั่นที่ผ่านมา พร้อมทั้งมีรูปแบบรายการตรงกับ Brand Personality ของ ME โดยในซีซั่นที่ 4 นี้ได้ระดมความพิเศษแบบจัดเต็มมาไว้ในรายการ ทั้งเมนเทอร์คนดังที่ขนมาถึง 6 คน และเหล่าผู้เข้าแข่งขันจากผู้ที่เคยผ่านการแข่งขันในรายการมาตั้งแต่ซีซั่นที่ 1-3 ให้ได้กลับมาประชันฝีมือกันอีกครั้ง จึงนับเป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่ทุกคนจับตามอง ซึ่งหลังจากออกอากาศมาแล้วประมาณ 6 Episode ก็ได้รับการตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี เห็นได้จากกระแสที่มีการพูดถึงอย่างมากในโซเชียล

นับว่า ME เป็นแบงก์แรกๆ ที่เข้าไปเป็นผู้สนับสนุนรายการด้านแฟชั่นและเอนเตอร์เทนเมนท์ โดยได้สนับสนุนเงินรางวัลให้ผู้ชนะถึง 1 ล้านบาท พร้อมได้เข้าไปร่วมในรายการเพื่อมอบโจทย์และตัดสินการแข่งขัน ทั้งในช่วง Master Class และ Campaign โดยการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรายการนั้น ME ได้ให้ผู้เข้าแข่งขันทำโจทย์เพื่อพรีเซ็นต์คอนเซ็ปต์ Always Get MORE ของ ME เพื่อหาวิธีทำอย่างไรให้แบงก์กิ้งกลายเป็นแฟชั่น เป็นเรื่องสนุก และเป็นเรื่องใกล้ตัวผู้ชมมากขึ้น พร้อมทั้งสอดแทรกทัศนคติที่ดีต่อเรื่องของการออมเงินด้วย

การเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักของรายการ The Face 4 All-Stars ในครั้งนี้ ถือเป็นการสื่อสารแบรนด์ในลักษณะของการทำ Branded Content ซึ่งเป็นการสื่อสารในรูปแบบที่ทำให้ภาพของการโฆษณาและความบันเทิงไม่ได้แยกออกจากกันอย่างชัดเจน กล่าวคือ ขณะที่ผู้ชมกำลังเพลิดเพลินกับความบันเทิงอยู่ก็จะซึมซับตัวแบรนด์หรือสินค้าและบริการนั้นไปแบบไม่รู้ตัว ด้วยความเนียนไปกับเนื้อหาโดยไม่รู้สึกว่าถูกรบกวน

แน่นอนว่า การทำ Branded Content กับรายการ The Face นั้น นอกจากผู้ชมจะได้รับรู้ถึงคอนเซปต์ที่แบรนด์ต้องการสื่อสารแล้ว ขณะเดียวกันยังเป็นการนำเบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นแมส พร้อมทั้งขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นอีกด้วย

หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เรียกได้ว่า ME เป็นผู้พลิกรูปแบบธนาคารที่ฉีกทุกกฎการธนาคารรูปแบบเดิม ตั้งแต่ตัวผลิตภัณฑ์เงินฝาก ที่นำเสนอคอนเซปต์ “Self-Service Banking to Get MORE” ดิจิทัลแบงกิ้งที่ให้คุณทำธุรกรรมด้วยตนเองได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านช่องทางออนไลน์ แอปพลิเคชัน และบริการ call center เพื่อผลตอบแทนที่มากกว่า โดยไม่ต้องมีสมุดบัญชี ไม่ต้องไปสาขา และการทำการตลาดแบบ Disruptive ที่ต้องฉีกและแตกต่าง

เพื่อทำให้ ME by TMB สามารถเป็นธนาคารที่พูดได้มากกว่าแค่เรื่องเงิน แต่สะท้อนแง่มุมที่เป็นไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันที่ใกล้ตัวจนอาจคาดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวข้องกันได้ เช่น แคมเปญเติมน้ำมันฟรี เพียงเติมด้วยตนเอง ซึ่งสะท้อนการเป็นบัญชีเงินฝากที่ลูกค้าทำธุรกรรมด้วยตัวเองแล้วจะได้ผลตอบแทนที่มากกว่า หรือแคมเปญปลุกเงินให้ตื่น ซึ่งได้รับ Guinness World Record แคมเปญเปิดตัวน้ำหอมกลิ่นความความสำเร็จ และล่าสุดกับ แคมเปญ ME is MORE ที่ออกมาเพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงการให้ผลตอบแทนที่มากกว่าของ ME เมื่อเทียบกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป หรือแม้กระทั้งเพิ่มบริการ ME BOT ระบบตอบอัจฉริยะที่สามารถตอบคำถามลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชม. ผ่านช่องทาง Facebook Messenger จนทำให้แบรนด์ ME by TMB เข้าไปอยู่เข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้ไม่ยาก

ดังนั้น Key success ที่ทำให้ ME ประสบความสำเร็จจนมีตัวเลขลูกค้าเติบโตต่อเนื่องตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยถึง 63% ต่อปีนั้น นอกจากการเป็นผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งการให้อัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อื่นๆ โดยให้อัตราดอกเบี้ยมากกว่าเฉลี่ยถึง 4.5 เท่า และยังเป็นบัญชีเงินฝากที่ตอบโจทย์เรื่องของความคล่องตัว และมีความปลอดภัยสูง ซึ่งเป็น Benefit ที่คนรุ่นใหม่ต้องการจากการใช้บริการดิจิทัลแบงกิ้ง และในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ ME เป็นแบรนด์ที่เข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าก็คือ การทำแคมเปญการตลาดต่างๆ ภายใต้แนวทาง Disruptive ซึ่งช่วยให้แบรนด์ ME เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ทางการเงินของคนรุ่นใหม่มาจนถึงทุกวันนี้


แชร์ :

You may also like