HomeSponsoredพลิกโฉม Suzuki Swift Gen 3 ไม้เด็ดท้ารบบุกตลาด Eco-Car และคอมแพคคาร์

พลิกโฉม Suzuki Swift Gen 3 ไม้เด็ดท้ารบบุกตลาด Eco-Car และคอมแพคคาร์

แชร์ :

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งมี “นโยบายรถคันแรก” Suzuki ส่ง Swift Gen 2 ลงสู่ตลาด และกระตุ้นยอดขาย สร้างการรับรู้ เพื่อปูพื้นรถอีโคคาร์ตระกูลซูซูกิให้เป็นที่รู้จัก จนกระทั่งปี 2018 ซูซูกิขอกระตุ้นตลาดอีโคคาร์และรถไซส์เล็กอีกครั้งด้วย  All New Suzuki SWIFT ถือเป็นรถ Gen 3 ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ชูจุดเด่นที่ภาพรวมมาพร้อมกับความตั้งใจที่จะโดดเด่นบนเส้นทางที่แตกต่าง หรือ WE STANDOUT ด้วยสปอร์ตคอมแพคคาร์มาตรฐานระดับโลก ใส่จุดเด่นเรื่องเทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ DUALJET และแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT พร้อมดีไซน์สปอร์ตคงเอกลักษณ์ DNA ของ SWIFT ตั้งเป้ายอดขาย 15,700 คัน และย้ำชัดความเป็นตัวจริงในเซกเมนท์อีโคคาร์

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

Suzuki SWIFT ความหมายใหญ่ของ Suzuki

ที่ญี่ปุ่นซูซูกิ เป็นเจ้าตลาดในรถยนต์อีโคคาร์และรถยนต์ขนาดเล็ก รวมทั้งที่อินเดีย Suzuki SWIFT ก็ถือว่าทำตลาดได้อย่างโดดเด่น ในขณะเดียวกันทางซูซูกิก็มองว่าประเทศไทย เป็นตลาดที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นทางซูซูกิจึงมุ่งมั่นที่ทำตลาดอย่างจริงในประเทศไทย โดยมีรถยนต์รุ่น SWIFT เป็นหัวหอกสำคัญ สะท้อนผ่านยอดขายของปีนี้ที่คาดหวังกับ SWIFT ถึง 15,700 คัน ตามด้วย Ciaz 12,000 คัน, Carry 3,000 คัน, Celerio 1,800 คัน

และ Ertiga 1,500 คัน จากตลาดรวมปีนี้ที่รถยนต์ทั้งหมดน่าจะมียอดขาย 900,000 คัน โดยสัดส่วนของอีโคคาร์ที่ 140,000-150,000 คัน และ SWIFT จะมีส่วนแบ่งตลาดในเซกเมนท์นี้ราว 10% ทำให้ซูซูกิมีส่วนแบ่งตลาด 3.5% ของตลาดรวม

เหตุผลที่ซูซูกิมองว่ารถยนต์รุ่นนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญให้กับแบรนด์ก็เพราะ 3 จุดเด่นสำคัญ เริ่มกันที่ภายนอก ซึ่งมีความแตกต่าง ถูกใจกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสะท้อนภาพลักษณ์ของตัวเองออกมาให้ชัดเจน แต่ยังคงความเป็น DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของ Suzuki SWIFT

แพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT เบา แต่นิ่งกว่าเดิม

คุณมาซาโอะ โกโบริ หัวหน้าวิศวกร ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า “รถรุ่นนี้พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “INNOVATION – Fun & Sporty” โดยออกแบบใหม่ทั้งหมดให้ All New Suzuki SWIFT มีความโดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ในด้านการออกแบบภายนอกยังคงความโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์แต่มีกลิ่นอายของรถยุโรปมากยิ่งขึ้น”

จุดเด่นที่ 2 ของ Suzuki SWIFT ก็คือ แพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ที่นำมาใช้เพื่อช่วยให้รถมีน้ำหนักน้อยลงแต่คงความแข็งแกร่งและช่วยประหยัดน้ำมัน รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบกันการสั่นสะเทือน ระบบ TCS ช่วยในการควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่นหรือในทางโค้ง และยังเหมาะกับการขับในเมืองด้วยระบบ IDLING STOP ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง ขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบ Hill Hold Control ที่จะช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน และปลอดภัยมากขึ้นด้วยถุงลมนิรภัย SRS ถึง 6 ตำแหน่ง

จุดเด่นที่ 3 คือ หัวฉีดคู่หรือ DUALJET ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงประหยัดน้ำมันมากกว่า 23 กม. ต่อลิตร ขับขี่เร้าใจด้วยเครื่องยนต์ใหม่ K12M 1.2 ลิตร

ในส่วนของภายใน ซูซูกิจัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อ ตามไลฟ์สไตล์คนเจนเนอเรชั่นใหม่ มาพร้อมกับแผงคอนโซลกลางด้านหน้าเบนเข้าหาคนขับเพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น กับมาตรวัดสไตล์สปอร์ตที่ตกแต่งด้วยลายเส้นสีแดง พร้อมจอแสดงข้อมูลขับขี่แบบ LCD มาพร้อมกับจอสัมผัส Suzuki Smart Connect ขนาด 7 นิ้ว ที่ควบรวมระบบนำทางที่แม่นยำ กับฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่าน Bluetooth พร้อมโปรแกรมสุดล้ำ Apple CarPlay สำหรับ iOS รวมถึงพวงมาลัยที่ออกแบบใหม่เป็นรูปตัว D เพื่อเพิ่มพื้นที่วางเท้าระหว่างเบาะและพวงมาลัย

ทั้งหมดนี้ผลักดันให้เป็นรถยนต์หนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ RJC Car of the Year 2018 จากการคัดเลือกโดยสถาบันนักวิจัยและผู้สื่อข่าวยานยนต์แห่งญี่ปุ่น หลังจากที่ 2 เจเนอเรชั่นก่อนได้รับรางวัลนี้มาแล้วในปี 2006 และ 2011 ตามลำดับ

คู่พรีเซนเตอร์  ชาริล ชัปปุยส์  และวี-วิโอเลต

คุณวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึง กลยุทธ์การตลาดว่า “กลุ่มเป้าหมายของ All New Suzuki SWIFT คือผู้ที่ซื้อรถเพื่อใช้งานเป็นรถคันแรก รายได้ระดับปานกลางขึ้นไป อายุตั้งแต่ 21-39 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงานและเริ่มต้นสร้างครอบครัว โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มอายุ 21-29 ปี ซึ่งให้ความสำคัญกับดีไซน์เพื่อสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของตนเอง ชอบรถที่ขับสนุก ควบคุมง่าย และกลุ่มที่มีอายุ 30-39 ปี ซึ่งชอบรถที่มีดีไซน์ที่บอกถึงตัวตนและมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ All New Suzuki SWIFT,WE STANDOUT สไตล์เด่นบนเส้นทางที่แตกต่าง’

ซึ่งการจะทำให้ภาพลักษณ์ชัดเจนมากขึ้น ซูซูกิ ได้เลือกให้ ชาริล ชัปปุยส์ และ “วี” วิโอเลต วอเทียร์ มาเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ล่าสุดของ All New Suzuki SWIFT เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่ทันสมัย และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างอย่างชัดเจน ในมุมการตลาดนับว่าเป็นมูฟเมนต์ที่น่าสนใจ จากพรีเซนเตอร์คนเดิม หลุยส์ สก๊อต ซึ่งโจทย์ในครั้งนั้นของซูซูกิต้องการสื่อสารในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานที่ถึงแม้จะเป็นรถเล็ก แต่ชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงใหญ่ก็สามารถพา  Suzuki SWIFT บุกตะลุยไปในที่ๆ เขาต้องการได้ จนกระทั่งได้รับการยอมรับ มาถึงวันนี้ซูซูกิต่อยอดภาพลักษณ์ด้านไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยลุคสปอร์ตแต่คงความเท่ของ ชาริล ชัปปุยส์ กับเรื่องราวของหญิงสาวที่มีเส้นทางสายดนตรี ในแบบที่ไม่เหมือนใครของ วีวิโอเลต ซึ่งทั้งคู่ก็มีความสดใจในแบบของตัวเอง

ในส่วนของสื่อที่ All New Suzuki SWIFT เลือกใช้นั้นก็จะใช้ช่องทางการสื่อสารที่ครอบคลุมตามแนวทางการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ แต่ที่เน้นมากเป็นพิเศษก็คือ “สื่อออนไลน์”  เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง โดยยังไม่ทิ้งสื่ออื่นๆ ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ สื่อวิทยุ จอดิจิทัลและบิลบอร์ดทั่วประเทศ รวมถึงด้านบริการของพนักงานที่ผ่านขั้นตอนโปรแกรมการฝึกอบรมที่ได้มาตรฐานของซูซูกิ พร้อมบริการให้คำปรึกษาและแนะนำลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบด้วยโชว์รูมผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ ครอบคลุม 120 สาขาทั่วประเทศ ภายในเดือนมีนาคมนี้ และที่ทิ้งไมได้ก็คือโปรโมชั่นพิเศษที่ทางซูซูกิยังร่วมมือกับสถาบันการเงินจัดโปรแกรม My Way ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,999 บาท ต่อเดือน อีกทั้งยังสามารถปรับโปรแกรมการผ่อนได้ตามความเหมาะสมของฐานเงินเดือน และแคมเปญพิเศษ Loyalty Program สำหรับลูกค้า SWIFT เพียงนำ SWIFT คันเดิมมาเปลี่ยนเป็น SWIFT ใหม่ รับทันทีส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่ง 20,000 บาท ซึ่งซูซูกิมีลูกค้าสะสมในส่วนนี้ถึง 1.1-1.2 แสนคัน

คุณวัลลภ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับตลาดรถยนต์ในกลุ่มอีโคคาร์มียอดจำหน่ายรวมทั้งหมดในปี 2560 อยู่ที่ 156,239 คัน ซึ่งซูซูกิมียอดจำหน่ายรวมเฉพาะรถยนต์อีโคคาร์จำนวน 21,300 คัน เติบโตขึ้นถึง 13.39% และมีส่วนแบ่งทางการตลาดของรถในกลุ่มนี้อยู่ที่ 13.63% สำหรับซูซูกิ สวิฟท์ อีโคคาร์สายพันธุ์สปอร์ต ยังคงเป็นรถที่ได้รับความนิยม มียอดจำหน่ายสูงถึง 8,080 คัน เชื่อมั่นว่าในปี 2561 จากการที่แนวโน้มสภาพตลาดรถยนต์ที่มีทิศทางดีขึ้น ซูซูกิ ก็จะสามารถสร้างการเติบโตได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน”

ซูซูกิ จะฉลอง 100 ปี ของแบรนด์ ในปี 2020  โดยมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญทั้งในส่วนของการทำตลาดภายในประเทศรวมทั้งเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก และหลังจากการที่ซูซูกิได้รับสิทธิ์ภายใต้โครงการอีโคคาร์ เฟส 2 จึงมั่นใจได้ว่า ซูซูกิจะลุยตลาดในเมืองไทยหนักขึ้น โดยอาศัยความเชี่ยวชาญเรื่องอีโคคาร์และรถเล็ก ให้กลายเป็นค่ายรถยนต์ที่อยู่ในใจคนรุ่นใหม่ชอบความแตกต่างในแนวทางของตัวเอง 

All New Suzuki SWIFT มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ Ablaze Red Pearl, Star Silver Metallic, Mineral Gray Metallic, Super Black Pearl และ 2 สีใหม่ คือ Speedy Blue Metallic และ Pure White Pearl โดยมีทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ GA CVT, GL CVT, GLX CVT และ GLX-Navi CVT โดยมีราคาดังนี้

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.suzuki.co.th หรือ www.allnewsuzukiswift.com


แชร์ :

You may also like