HomeBrand Move !!DVD-CD ซบเซา! “แมงป่อง” คืนชีพ ปั้นอาณาจักรความงาม เสริมทัพธุรกิจ DVD-CD

DVD-CD ซบเซา! “แมงป่อง” คืนชีพ ปั้นอาณาจักรความงาม เสริมทัพธุรกิจ DVD-CD

แชร์ :

ไม่มีใครไม่รู้จัก “ร้านแมงป่อง” ดำเนินธุรกิจจำหน่ายแผ่น DVD และ CD ภาพยนตร์-เพลง มายาวนานกว่า 30 ปี แต่ทุกวันนี้ธุรกิจแผ่น DVD และ CD ทั่วโลก รวมทั้งไทย กำลังถูก Disrupt ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การเกิดขึ้นของ Streaming ทั้งหนัง และเพลง ยิ่งไปกว่านั้นในเมืองไทย ยังเจอปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ อัพโหลดลงออนไลน์ ส่งผลกระทบต่อเจ้าของลิขสิทธิ์ และร้านค้าแผ่นมีลิขสิทธิ์

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ถึงแม้ตลาด DVD และ CD ยังมีความต้องการจากผู้บริโภคอยู่ โดยเป็นการซื้อเพื่อเก็บสะสม แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Digital Disruption ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อธุรกิจ DVD – CD และพฤติกรรมการเสพความบันเทิงของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ “บริษัท เอ็มพีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” หรือ “MPG” เจ้าของร้านแมงป่อง ต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ !!

โดยนอกจากมีธุรกิจหลัก คือ “ร้านแมงป่อง” ขายหนังและเพลงแล้ว ยังได้ Diversify ธุรกิจ ด้วยการเปิด Retail Brand ใหม่ “GIZMAN” ขายสินค้าไลฟ์สไตล์ ที่ตอบโจทย์คนยุคดิจิทัล เช่น Gadget

ต่อมาได้ขยายมาทำค้าปลีก เซ็กเมนต์ Specialty Store ร้านเครื่องสำอาง ภายใต้ชื่อ “STARDUST” จำหน่ายเครื่องสำอางแบรนด์ต่างๆ และล่าสุดได้ปั้นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามของตนเอง “CLOUDA” เพื่อวางขายในร้านดังกล่าว

คุณณลันรัตน์ นันท์นนส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มพีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MPG) ทายาท “ร้านแมงป่อง” เปิดใจว่า วันนี้เมื่อธุรกิจแผ่น DVD-CD เปลี่ยนไป จึงได้ปรับกลยุทธ์ ปรับ Product Mix และมองอนาคตของ MPG ใหม่ โดยปัจจุบันภาพรวมของ MPG ได้แยกออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจ คือ 1. ธุรกิจ Retail และ 2. ธุรกิจ Cosmetics

“ธุรกิจ Retail เป็นจุดแข็งที่บริษัทมีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจมายาวนาน คือ การบริหารพื้นที่ในศูนย์การค้า ซึ่งถือเป็นทำเลทอง ที่เราจะใช้ทำเลเหล่านี้เพื่อก่อเกิดรายได้ ซึ่งปัจจุบันเรามีทั้งหมด 3 Retail Brands ได้แก่ “ร้านแมงป่อง” ขายหนังและเพลง จำนวน 13 สาขา “ร้าน GIZMAN” ขายแก็ดเจ็ต จำนวน 13 สาขา และ “ร้าน STARDUST” ขายเครื่องสำอาง จำนวน 8 สาขา 

ขณะเดียวกันในส่วนของ Retail ยังมุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาระบบบริหารจัดการการค้าปลีก และสรรหาพาร์ตเนอร์ในการ Sourcing สินค้าใหม่ๆให้ตรงใจกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการอัพเดทเทรนด์ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าก่อนใคร

นอกจากนี้ในส่วนของ Retail ทั้ง 3 แบรนด์ บริษัทฯ ได้รุกการทำตลาดออนไลน์ โดยได้พัฒนาศักยภาพของเว็บไซต์เพื่อรองรับ E-commerce และการขายสินค้าผ่านช่องทาง Social Media ให้ตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น เน้นการทำการตลาดแบบ Online to Offline (O2O) เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าและรับบริการผ่านทางเว็บไซต์และสาขา อีกทั้งเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น”

ปั้นอาณาจักรความงาม

นอกจากธุรกิจ Retail แล้ว “MPG” ได้ขยายธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเริ่มขึ้นมา คือ “ธุรกิจ Cosmetics” ภายใต้แบรนด์ “CLOUDA” (Everyday Make Up) วางจำหน่ายในร้าน STARDUST 8 สาขาทั่วประเทศ และในช่องทาง Online Marketplace อาทิ LAZADA, 11 Street, Shoppee, Beauticool, ShopAt24 และขายผ่านทางช่องทาง Social Media ของตัวเอง เน้นลูกค้ากลุ่ม B ถึง C ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมถึงการมองตลาดใน CLMV

ปัจจุบันโปรดักต์ไลน์ของ “CLOUDA” มีสินค้าความงามครบทุกหมวด อาทิ Pressed Powder, Lipstick, EyeShadow, Mascara, Silky Blush, Pearl Gloss, EyeBrow Pencil โดยยอดขายจากสินค้าแบรนด์ CLOUDA ในปี 2017 เติบโตจากปี 2016 กว่า 150% คาดว่าจะปิดที่ 10 ล้านบาท ภาพรวมในครึ่งหลังของปี 2017 “MPG” มั่นใจว่าทิศทางและการดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อขยายตลาดเครื่องสำอาง จะเติบโตขึ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะเน้นการส่งเสริมการขายและขยายจุดขาย รวมถึงการทำการตลาดและบริหารสินค้าให้ตัวแทนขาย

คุณณลันรัตน์ นันท์นนส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มพีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MPG)

“สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2018 จะเป็น “MPG New Era” เนื่องจากธุรกิจ Retail ของเราจะไม่ได้รับผลกระทบจากการหดตัวของธุรกิจหนังและเพลงแล้ว และเชื่อว่าพาร์ตเนอร์ใหม่ๆ ที่เข้ามาจะต่อยอดให้ยอดขาย Same Store Sales ในปี 2018 กลับมาเติบโตได้

สำหรับธุรกิจ Cosmetics จะเริ่มมีบทบาทมากขึ้น โดยล่าสุดแบรนด์ “CLOUDA” ได้รับรางวัลแป้งดีที่สุดประจำปี 2017 และรางวัลอายแชโดว์พาเลทที่คุ้มค่าที่สุด ประจำปี 2017 ในงาน OK Beauty Choice จากนิตยสาร OK Magazine นอกจากนี้เรายังคงเน้นการทำการตลาดกับพันธมิตรในช่องทางต่างๆ และปัจจุบันอยู่ระหว่างขยายช่องทางจัดจำหน่าย รวมทั้งพิจารณาโปรไฟล์ของตัวแทนจำหน่ายในประเทศต่างๆ ที่ติดต่อเข้ามา คาดว่าในปี 2018 จะมีตัวแทนจำหน่ายในกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมียอดขาย 30% จากยอดขายรวมของบริษัทภายในระยะเวลา 3 ปี” คุณณลันรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

 

 


แชร์ :

You may also like