HomeAutomobileกรุงศรี ออโต้เปิดอินไซต์ตลาดรถ EV ก้าวสู่สถานะ “Gadget” ของผู้บริหารระดับสูง

กรุงศรี ออโต้เปิดอินไซต์ตลาดรถ EV ก้าวสู่สถานะ “Gadget” ของผู้บริหารระดับสูง

แชร์ :

ev

ตลาดรถ EV ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีความเคลื่อนไหวโดดเด่น โดยตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2023 พบว่ามีการจดทะเบียนรถ EV แล้วถึง 18,599 คัน และเพื่อให้เข้าใจอินไซต์ของตลาดดังกล่าวดียิ่งขึ้น ทางกรุงศรี ออโต้ ผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของไทยได้เผยอินไซต์ 5 กลุ่มลูกค้าสำคัญของเซกเมนต์ดังกล่าวซึ่งประกอบด้วย “ผู้บริหารระดับสูง-คนรุ่นใหม่สายเทครักษ์โลก-ครอบครัว-SME-นักศึกษาจบใหม่” โดยกลุ่มผู้บริหารระดับสูงถือเป็นเซกเมนต์ที่ใหญ่มากของตลาดดังกล่าว และครองส่วนแบ่งราว 50% ของตลาดเลยทีเดียว

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สำหรับข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่ทางกรุงศรี ออโต้เปิดเผยออกมานั้น พบว่าแต่ละกลุ่มมีความแตกต่างกันดังนี้

เซกเมนต์ที่ 1 – ผู้บริหารฐานะมั่นคง มีสไตล์

ลูกค้ากลุ่มนี้ถือเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดในปัจจุบัน โดยผู้ซื้อมักเป็นผู้บริหารระดับสูง มีอายุ มีฐานะทางการเงินที่ดี ให้ความสำคัญเรื่องสไตล์ แบรนด์ และรถ EV ไม่ใช่รถคันแรกของบ้าน

คนกลุ่มนี้จะมองรถ EV เป็น Gadget และจะซื้อรถราคาระดับกลางค่อนไปทางสูง รวมถึงเลือกที่จะดาวน์สูง (25%) – ผ่อนสั้นด้วย สิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการคือ แบรนด์รถที่มีผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุม โดยรถ EV ราคาสูงสุดที่กรุงศรี ออโต้จัดไฟแนนซ์ให้คือรถยี่ห้อ BMW ราคาประมาณ 7 ล้านบาท

เซกเมนต์ที่ 2 – คนรุ่นใหม่ สายเทค รักษ์โลก

ผู้บริโภคกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อรองจากกลุ่มแรก เน้นเทคโนโลยี และนโยบายด้านความยั่งยืน เป็นกลุ่มที่มีการศึกษา มักเป็นผู้บริหารระดับกลางในบริษัทต่างชาติ มีความตระหนักในประเด็น ESG และมองหาธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG

สำหรับการเลือกซื้อรถจะซื้อรถระดับกลางค่อนไปทางสูง และเลือกดาวน์สูง ผ่อนกลางถึงยาว โดยมีความสนใจรถที่นำเสนอนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ใช้ชีวิตได้สบายมากขึ้น เช่น สามารถเปิดแอร์รอได้, มีระบบค้นหาตำแหน่งรถ, ระบบค้นหาจุดชาร์จ ฯลฯ

เซกเมนต์ที่ 3 – ครอบครัวหรรษา พาลูกเที่ยว

สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ พบว่าเป็นกลุ่มผู้ใช้รถระดับกลาง ทำงานทั้งสามีภรรยา จึงมีรายได้ค่อนข้างสูง ไม่ติดกับแบรนด์เดิม เน้นเป็นรถคันที่สอง เพื่อรับส่งลูก – เดินทางท่องเที่ยว โดยทั่วไปพบว่า เซกเมนต์นี้จะมีรถสันดาปใช้งานอยู่แล้ว และถ้าจะต้องซื้อเพิ่ม ก็ต้องการแบรนด์ที่มีบริการครอบคลุม สะดวกสบาย

เซกเมนต์ที่ 4 – สายประหยัด เน้นใช้งานคล่อง

สำหรับกลุ่มนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผู้ประกอบการ SME มีกระแสเงินสดสูง รายได้กลางค่อนข้างต่ำ เป็นกลุ่มที่เปิดรับแบรนด์ใหม่ ๆ ต้องการโปรโมชันแบบเหมารวม เช่น โปรเช่าซื้อบวกอะไหล่ หรือแท่นชาร์จ โดยกรุงศรี ออโต้มองว่า เป็นกลุ่มที่จะมีการใช้ EV เพิ่มขึ้นในอนาคต หากรัฐมีการสนับสนุนมากขึ้น โดยรถที่ชาวเซกเมนต์ 4 ให้ความสนใจเป็นรถระดับราคา 600,000 – 700,000 บาท

เซกเมนต์ที่ 5 – นักศึกษาจบใหม่ อนาคตไกล

เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตสูงในอีกสองสามปีข้างหน้า ถ้าโครงสร้างพื้นฐานด้าน EV พร้อม และราคาโดยรวมของรถ EV ในตลาดลดลง โดยปัจจุบัน ผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังมีรายได้ไม่มากนัก และมักซื้อรถราคากลาง ๆ เน้นดาวน์ต่ำ – ผ่อนยาว เป็นกลุ่มที่เปิดรับแบรนด์ใหม่ ๆ และต้องการโซลูชันที่ครบ จบในที่เดียว

5 เดือน จดทะเบียนรถ EV ทะลุ 18,000 คัน

นอกจากจะเปิดเผยข้อมูลของ 5 เซกเมนต์หลักในตลาดรถ EV แล้ว  ทางกรุงศรี ออโต้ยังได้โชว์ตัวเลขการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใน 5 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม – พฤษภาคม) ที่พบว่า สูงถึง 18,599 คัน ขณะที่ตัวเลขในปี 2022 มีอยู่ที่ 9,729 คัน และปี 2021 อยู่ที่ 1,935 คันเท่านั้น

คุณคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปัจจัยที่จะทำให้ตลาดรถ EV ไทยในปี 2023 เติบโตต่อไปคือการสนับสนุนจากภาครัฐในด้านต่าง ๆ เช่น เงินอัดฉีด การลดภาษีสรรพสามิต และอากรขาเข้า และในส่วนของกรุงศรี ออโต้เอง มองว่า การสร้าง Ecosystem ที่ครบวงจร ไร้รอยต่อ ก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน

นายคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุร

คุณคงสิน คงคา ขณะโชว์แอปพลิเคชัน Go by Krungsri Auto หนึ่งใน Ecosystem ของรถ EV ที่ทางบริษัทให้บริการ

ดัน Go by Krungsri Auto เสริม Ecosystem รถ EV

สำหรับแนวทางของกรุงศรี ออโต้ คุณคงสิน กล่าวว่า ได้เปลี่ยนโพสิชันของกลุ่มเป้าหมายบนแอปพลิเคชัน Go by Krungsri Auto ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับผู้ใช้รถที่พัฒนาโดยทีมงานของกรุงศรีฯ จาก Automobile Financing ไปเป็นกลุ่ม Automobile Users ซึ่งทำให้บริษัทสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้ลึกมากขึ้นว่า มีความกังวลในเรื่องอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น การหาสถานีชาร์จเมื่อเดินทางไปต่างจังหวัด

ทั้งนี้ การได้ทราบความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้กรุงศรี ออโต้สามารถจับมือกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ เพื่อมาตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ดีขึ้นนั่นเอง เช่น ปัจจุบันมีการจับมือกับ EV Everywhere ในการให้ข้อมูลเรื่องสถานีชาร์จแก่ผู้ใช้รถ EV บนแอปพลิเคชันดังกล่าวแล้ว และมีแผนจะจับมือเพิ่มเติมกับผู้ให้บริการอื่น ๆ อีก 4 รายในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

สำหรับแอปพลิเคชัน Go by Krungsri Auto พัฒนาขึ้นเมื่อปี 2018 มียอดดาวน์โหลดแล้ว 2.8 ล้านครั้ง ภายในแอปมีบริการต่าง ๆ เช่น การขอสินเชื่อ สิทธิพิเศษเพื่อการช้อปปิ้ง ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยว ฯลฯ โดยมีผู้ใช้งานเป็นลูกค้ากรุงศรี 50%

ตั้งเป้าสินเชื่อ EV โต 217%

ทางบริษัทยังได้ตั้งเป้ายอดสินเชื่อใหม่ยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2023 ไว้ที่ 4,624 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 217% จากปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีแบรนด์ EV ที่ดูแลทั้งสิ้น 32 แบรนด์ (ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า) รวมถึงแบรนด์ระดับบนอย่าง Tesla ด้วย

อย่างไรก็ดี สินเชื่อยานยนต์ไฟฟ้าของกรุงศรีออโต้ในปัจจุบันยังถือว่าเพิ่งเริ่มต้น โดยมีส่วนแบ่งเพียง 3% ของพอร์ตสินเชื่อยานยนต์ทั้งหมดเท่านั้น และคุณคงสินเผยด้วยว่า ความท้าทายของตลาด EV ก็คือเป็นตลาดที่ใหม่มาก และทำให้คาดการณ์ตัวเลขในอนาคตได้ค่อนข้างยาก ซึ่งกลยุทธ์ของบริษัทจึงเป็นการหา Pain Point ของผู้บริโภคให้ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้โจทย์เหล่านั้นให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น รวมถึงการหาพาร์ทเนอร์เข้าสู่ Ecosystem นั่นเอง (ปัจจุบัน พาร์ทเนอร์บน Go App ของกรุงศรี ออโต้อยู่ที่ 90 ราย)

Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand


แชร์ :

You may also like