เจ้าสัวไต้หวัน Terry Gou ผู้ก่อตั้งบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ซัพพลายเออร์คนสำคัญของ Apple ประกาศทุ่มเงินซื้อวัคซีน BioNTech จำนวน 5 ล้านโดส คิดเป็นมูลค่า 228 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,100 ล้านบาท หวังช่วยทางการไต้หวันรับมือการแพร่ระบาดของ Covid-19 หลังพบตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
มีข้อมูลที่น่าสนใจจาก The Institute for Policy Studies (IPS) เกี่ยวกับ “ความมั่งคั่ง” ของบรรดามหาเศรษฐีชาวอเมริกันที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางวิกฤติ Covid-19 โดยรายงานจากสถาบันดังกล่าวพบว่า กลุ่มคนเหล่านี้ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 565,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และหากนับรวมทรัพย์สินสุทธิของมหาเศรษฐีรวมกันจะพบว่ามีมากถึง 3.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ไวรัส Covid-19 ระบาดทั่วโลก
Chang Yun Chung ผู้ก่อตั้งบริษัท Pacific International Lines (PIL) บริษัทขนส่งเบอร์ต้นๆ ของประเทศสิงคโปร์ จากการประเมินของ Fortune คาดว่าบริษัทของเขามีมูลค่าราว 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันนี้เขามีอายุ 100 ปี และได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีที่มีอายุมากที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ทุกวันนี้เขายังคงไปทำงานทุกวัน เป็นเวลาต่อเนื่องกันกว่า 60 ปี โดยการเกษียณอยู่บ้านไม่ใช่ตัวเลือกหนึ่งของเขา แม้ว่าทุกวันนี้เขาได้ส่งผ่านตำแหน่งประธานกรรมการให้กับลูกชาย Teo Siong Seng ไปตั้งแต่เดือนมีนาคม ปีก่อนแล้วก็ตาม
เป็นประจำทุกปีที่นิตยสาร Forbes จะรวบรวมข้อมูลพร้อมเปิดเผยอันดับรายชื่อมหาเศรษฐีของโลก รวมทั้งบุคคลผู้มีชื่อเสียง โดยในปีนี้ Forbes ได้ประเมินรายได้ของ Celebrity ที่ทำรายได้สูงสุดเอาไว้ 100 ราย สำหรับอันดับ 1 ก็คือ Floyd Mayweather มีรายได้ก่อนหักภาษีถึง 285 ล้านดอลลาร์ ความร่ำรวยของเขานอกจากชื่อเสียงและรายได้ที่สะสมมาตลอดชีวิตบนผืนผ้าใบ แต่ที่ฮือฮาที่สุดก็ต้องยกให้การขึ้นชกกับ Conor McGregor นักมวยคนดังในเดือนสิงหาคม 2017 ซึ่งเป็นรายการชกที่มูลค่าสูงเกินกว่า 550 ล้านดอลลาร์ และ Mayweather เองก็ได้รับส่วนแบ่งสูงถึง 275 …
