HomeBrand Move !!Luckin Coffee เล็งซื้อ “Blue Bottle” จาก Nestlé ดีลที่อาจเปลี่ยนตัวตนของ Specialty Coffee

Luckin Coffee เล็งซื้อ “Blue Bottle” จาก Nestlé ดีลที่อาจเปลี่ยนตัวตนของ Specialty Coffee

แชร์ :

ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวในวงการกาแฟโลกส่งท้ายปี 2025 ที่น่าสนใจ เมื่อ Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า Luckin Coffee เชนกาแฟยักษ์ใหญ่จากแดนมังกร กำลังแสดงความสนใจซื้อกิจการของ Blue Bottle Coffee แบรนด์กาแฟ Specialty ระดับไอคอน จากอ้อมอกของเนสท์เล่ (Nestlé)

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ความสนใจดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อทาง Nestlé ส่งสัญญาณว่า ต้องการลดบทบาทในธุรกิจร้านกาแฟแบบมีหน้าร้าน (brick-and-mortar) ลง และหันกลับไปโฟกัสในธุรกิจหลักมากขึ้น ซึ่งทำให้ Blue Bottle ที่ Nestle ถือหุ้นอยู่อาจต้องหาผู้ถือครองรายใหม่นั่นเอง (Nestle ซื้อหุ้น Blue Bottle Coffee จำนวน 68% ในราคา 425 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี 2017)

สำหรับ Blue Bottle ปัจจุบันถูกวางโพสิชันเป็นเชนกาแฟระดับพรีเมียม โดยสาขาหลักกระจายอยู่ในประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่ามีการเปิดตัวสาขาแรกที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และมีรายงานว่ากำลังจะเปิดสาขาแรกในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้

Luckin กับการก้าวสู่แบรนด์กาแฟระดับโลก

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การเข้าซื้อกิจการ Blue Bottle ของ Luckin Coffee จะช่วยให้ Luckin ขยับตัวเองจาก Mass Coffee ไปสู่ Premium Coffee Ecosystem ได้ด้วยอีกทางหนึ่ง (ก่อนหน้านี้ Luckin เคยแสดงความสนใจซื้อกิจการเชนกาแฟชื่อดังอย่าง % Arabica และ Costa Coffee จาก Coca-Cola มาแล้วเช่นกัน แต่สุดท้ายดีลก็ไม่เกิดขึ้น)

นอกจากนี้ ปี 2025 ยังกล่าวได้ว่า เป็นปีที่ Luckin เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบัน Luckin มีสาขามากกว่า 29,000 แห่ง (ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน) และบริษัทยังเปิดตัวสาขาในสหรัฐอเมริกา ที่หลายคนมองว่าเป็นการไปบุกถึงถิ่นของคู่แข่งอย่าง Starbucks

ด้วยเหตุนี้ ก็คงไม่ผิดหากจะมองว่า Luckin กำลังหาโอกาสเติบโตในตลาดใหม่ ๆ ด้วยการเข้าซื้อกิจการแบรนด์กาแฟอื่น ๆ เพื่อให้ตนเองขยายธุรกิจได้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทำให้ดีลนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ ก็คือ Luckin เป็นแบรนด์ที่สร้างชื่อจากโมเดลธุรกิจที่เน้นความเร็ว ราคาประหยัด สามารถสั่งได้ผ่านแอปพลิเคชัน ส่วน Blue Bottle เน้นประสบการณ์แบบ Slow Coffee และเป็นแบรนด์ Specialty รายแรก ๆ ที่พัฒนาเครื่อง Pour-over ของตัวเอง ซึ่งหากดีลนี้เกิดขึ้นจริง สิ่งที่หลายคนตั้งคำถามก็คือ ทั้ง Luckin และ Blue Bottle จะสามารถรักษาความเป็นตัวตนของตัวเองได้อยู่หรือไม่ หรือในท้ายที่สุด Specialty Coffee อย่าง Blue Bottle อาจต้องชงกาแฟให้เร็วขึ้นเพื่อให้เติบโตทันใจ (ว่าที่) เจ้าของใหม่อย่าง Luckin Coffee

Source

Source


แชร์ :

You may also like